3 idiots

3 Idiots (2009)

ปกติแล้วหนังที่มักจะเข้าชิง Japan Academy Prize (JAP) ของญี่ปุ่นในสาขา Outstanding Foreign Language Film มักจะเป็นหนังจาก hollywood หรือหนังฝั่ง european หายากนักที่หนังฝั่งเอเชียจะได้เข้าชิงสาขานี้ หลังจากหนังฉาย 5 ปี 3 Idiots ได้เข้าฉายที่ญี่ปุ่น และสามารถได้ชิงสาขานี้ในปี 2014 ผมไม่รู้จะมองว่ามันเป็นเรื่องตลกหรือเรื่องน่าดีใจ… 5 ปีเลยนะ มีแบบนี้ด้วย แสดงว่าหนังมันต้องไม่ธรรมดาจริงๆ

ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกับ box office india ที่สถิติหนังทำรายได้สูงสุด จะถูกโค่นแล้วโค่นอีก นับจาก Ghajini ทำได้ในปี 2008, 3 Idiots ปี 2009 จากนั้นก็ Dhoom 3 ปี 2013 และ PK ในปี 2014 (สถิติก่อนหน้า Ghajini คือ Gadar – Ek Prem Katha (2001) และ Raja Hindustani (1996)) 3 Idiots น่าจะเป็นหนังเรื่องแรกที่ทำรายได้เกิน 100 crore เทียบเป็นเงินก็ประมาณ 15-18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จบโปรแกรมทำรายได้ไป 395 crore = 60 million dollar จากทุนสร้าง 55 crore (1 crore = 10 million rupee)

3 Idiots มีอะไรดี ผมวิเคราะห์ดูพบว่ามี 3 อย่าง อย่างแรกคือนักแสดง ผู้นำของ Idiots 3 คน เขาคือ Aamir Khan คงไม่ต้องบรรยายมากสำหรับ Mr.Perfectionist เรื่องนี้เขาคือพระเอกที่เป็นพระเอก ไม่ว่า Idiots อีก 2 คนจะมีชีวิตจืดจางแค่ไหน แต่หัวหน้า Idiots ก็รักเพื่อน ช่วยเหลือเพื่อนรักจนถึงที่สุดจริงๆ

ผมอยากจะให้เกียรติกับอีกคนหนึ่งเป็น 3+1 Idiots เขาคือ Omi Vaidya ใครจะไปคิดว่าหมอนี่เป็นตัวขโมยซีนที่ทุ่มเทมากๆตั้งแต่ต้นจบจน ผมชอบหมอนี่มาก เห็นทีไรเตรียมฮาได้เลย เรียกว่าเป็นกระสอบทรายให้กับ Idiots ก็ว่าได้

อย่างที่สอง คงต้องพูดถึงนักแสดงอีกคนที่ขาดไม่ได้ เขาคือตัวร้ายในหนัง Boman Irani ผมเชื่อว่าตอนดูแรกๆ ใครๆก็ไม่ชอบอาจารย์ virus เป็นแน่ เขาเป็นตาแก่ที่หัวดื้อ รั้น เอาแต่ใจ ไม่ยอมแพ้ใคร และไม่ให้ใครปั่่นจักรยานนำหน้าตน การต่อสู้กับตัวร้ายแบบนี้นี่มันสุดๆไปเลย ไม่ได้สู้กันด้วยกำลัง ใช้สมองแก้ไขเหตุการณ์ ผมเปรียบตัวละครนี้เหมือน ฮิตเลอร์ ในวงการศึกษา เป็นตัวร้ายที่เด่นมากๆ แน่นอนว่าการแสดงระดับนี้ Boman Irani ย่อมต้องได้รางวัล Best Support Actor ใน Filmfare อยู่แล้ว

อย่างที่สามคือ Rajkumar Hirani เขาคิอผู้กำกับและเขียนบทหนัง งานก่อนหน้านี้ที่เขากำกับทั้งสองเรื่องได้รับคำชมอย่างมาก ได้เข้าชิง Filmfare หลายสาขา พอมาถึง 3 Idiots นี่เป็นจุดสูงสุดของเขาเลย ทั้งงานกำกับ งานเขียนบททำออกมาได้ยอดเยี่ยมสมบูรณ์แบบมากๆ

ผมเพิ่งได้ดูหนังของ Rajkumar Hirani เพียง 2 เรื่อง สังเกตเห็นว่าเขาเป็นผู้กำกับที่ชอบเรื่องราวแนวสะท้อน เสียดสีสังคม ในมุมมองที่แตกต่าง คงเพราะเขามีความคับข้องใจกับกรอบ ระเบียบ แบบแผนต่างๆที่ “ต้อง” ปฏิบัติตาม มันเป็นอะไรที่อึดอัดเวลาที่เราต้องทำตามสิ่งที่มีอยู่โดยไม่สามารถคิดว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ Rajkumar คงต้องการให้ผู้ชมได้ย้อนกลับมานึกคิดถึงสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัว ทั้งเรื่องความเชื่อใน pk และเรื่องการศึกษาใน 3 idiots สะท้อนถึงปัญหาการขาดการคิด ไตร่ตรอง เน้นตามกระแสของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี

All Izz Well วลีที่ใครๆน่าจะจำได้ถ้าได้ดูหนังเรื่องนี้ สถิติปัญหาจากการศึกษาในอินเดียที่พูดถึงในหนัง ผมรู้สึกว่าปัญหาพวกนี้เป็นเหมือนกันทั้งโลก คือ เด็กมักจะถูกปลูกฝังแนวคิดจากผู้ใหญ่ ว่าเขาจะเป็นต้องเรียนสูงๆ ตั้งใจเรียน เพื่อจะได้มีชีวิตที่มีความสุขในอนาคต ความคาดหวังกลายเป็นความกดดัน มนุษย์แต่ละคนมีความสามารถในการรับความกดดันได้ต่างกัน คนที่รับได้ก็คงไม่อะไรมาก แต่คนที่รับไม่ได้ ผมชอบจุดนี้ที่หนังสะท้อนมานะ ตอนที่เพลง All Izz Well ดังขึ้น จนจบเพลงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมอึ้งมากๆ ปัญหาเรื่องความกดดันนี้ เป็นความผิดของใครกัน คำตอบที่อยู่ในหนังมันเจ็บมากนะครับ

ลองฟังเพลง All Izz Well ดูนะครับ ผมหาเวอร์ชั่นที่มีแต่เพลงไม่มีเนื้อเรื่องให้สปอย

ผมยังจำได้สมัยเรียน จะมีอาจารย์บางคนที่ชอบท้านักเรียน ถ้าคุณคิดว่าตัวเองเก่ง ออกมาสอนแทนผมเลยไหม เรื่องนี้น่าสนใจมากๆนะครับ เด็กไทยเอาจริงๆก็ไม่มีใครกล้ารับคำท้าแบบนี้หรอก ผมเองก็ไม่เอา ทำไมเราต้องหาเรื่องเข้าตัวเองด้วย พอโตขึ้นมาหน่อย ถ้าอาจารย์คนไหนพูดแบบนี้ก็เริ่มรู้แล้วว่า “หมาเห่าใบตองแห้ง” เป็นการเรียกร้องความสนใจอย่างหนึ่ง แต่เมื่อได้ดู 3 idiots แนวคิดผมเปลี่ยนไปอีก เออจริง มันน่าจะมีคนลองทำแบบนี้จริงๆนะ หมาเห่ามันน่ารำคาญ ถ้าเราไม่สั่งสอนมันบ้าง มันคงไม่รู้จักจำ

หนังเรื่องนี้ยกไปถ่ายกันที่ Indian Institute of Management วิทยาเขต Bangalore ไม่รู้จักครับ จริงๆน่าจะเรื่องมหาลัยดังๆไปเลยนะ ผมดูใน profile เป็น Business School แต่ในหนังเป็นเรื่องราวของ Engineer ฮืม!

เพลงประกอบเรื่องนี้ ถือว่าเยี่ยมเลยนะ มีจังหวะหนึ่งที่ผมชอบมากๆ นั่นคือฉากจบ ที่เป็นการ reunion ของแก๊ง idiots และนางเอก กับเพลง Zoobi Doobi ณ วินาทีนั้น เป็นภาพที่ผมคาดหวังไว้เปะๆเลย โลเกชั่นก็ไปเลือกซะ ทิเบต(มั้ง) มันใช่และลงตัวมาก ไม่สปอยแล้วกันนะครับ แถมให้อีกเพลงหนึ่ง กด Play ได้เลย

โอ้ ผมลืมไปเลย เรื่องนี้มีนางเอกด้วยนะ เธอดังมากด้วย Kareena Kapoor แต่ผมรู้สึกบทเธอแค่ตัวประกอบเอง ประมาณว่าเธอเป็นตัวละครที่ใส่มาแทรกจังหวะโรแมนติกให้หนังมีชีวิตชีวาขึ้นเท่านั้นเอง ไม่รู้สึกว่าเธอได้ใช้ความสามารถในการแสดงเท่าไหร่เลย พูดถึง Kareena Kapoor นิดนึง เธอนี่ดังมากๆๆๆนะ เห็นว่าเธอเป็นนักแสดงหญิงที่รายได้สูงสุดอันดับ 2 ของ bollywood เลย ค่าตัวต่อเรื่องเกือบๆ 10 crore (แต่ยังห่างจากนักแสดงชายดังอย่าง Aamir Khan มากนัก Aamir ได้เรื่องละ 40-50 crore ขึ้น)

แล้วทำไม 3 Idiots ถึงได้ popular ขนาดนี้ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันนะ แต่คงเพราะองค์ประกอบของหนังหลายๆอย่างที่โดนในมากๆ รวมถึงคุณภาพของหนังที่มีนักแสดงอย่าง Aamir Khan คุณภาพที่การันตีโดยผู้กำกับ Rajkumar Hirani แต่แค่นี้คงไม่เพียงพอให้หนังฮิตติดลมได้เท่ากับเรื่องราวที่สะท้อน และเสียดสีวงการศึกษาของอินเดียได้อย่างเจ็บแสบ คิดว่ากลุ่มเป้าหมายของหนังเรื่องนี้ ส่วนใหญ่ก็กลุ่มของวัยรุ่น นักเรียน มัธยม มหาวิทยาลัย อุดมศึกษา ซึ่งพอได้ดูหนังเรื่องนี้แล้วก็บอกต่อๆกลายเป็นกระแสที่แรงมากๆ เพราะมันตรงใจ ตรงกับชีวิตของตนเอง มันอาจจะมีปัจจัยอื่นอีก แต่ตอนนั้นผมยังไม่เคยดูหนัง bollywood เลยนะครับ เลยไม่สามารถบอกได้ว่าทำไมเรื่องนี้ถึงฮิตแบบถล่มทลาย เป็นการวิเคราะห์ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ

เรื่องนี้สุดยอดครับ ลงตัวทุกอย่าง เป็นหนึ่งในหนังที่ผมชอบที่สุดด้วย หนังเกือบ 3 ชั่วโมงดูไม่เบื่อเลย หนังมีการตัดสลับระหว่างอดีตกับปัจจุบัน เป็นการเล่าที่เหมือนจะทั่วๆไป แต่ก็สร้างความน่าสนใจให้กับหนังพอสมควรทีเดียว ทำให้ไม่อยากลุกไปไหน อยากดูให้จบทีเดียว รับประกันว่าคุ้มค่าแน่นอน ถ้าเป็นไปได้ก็ pack คู่เลยนะครับ ดู 3 idiots ก็ต้องดู pk นะครับ เพราะผู้กำกับคนเดียวกัน นักแสดงนำคนเดียวกัน ไม่ผิดหวังแน่นอน

คำโปรย : “มี 3 สิ่งสุดยอดใน 3 Idiots คือ Rajkumar Hirani, Aamir Khan และ Boman Irani หนังเสียดสีวงการศึกษาได้อย่างเข้มข้น เจ็บแสบ และเจ็บปวด”
คุณภาพLEGENDARY
ความชอบFAVORI

Leave a Reply

avatar

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

  Subscribe  
Notify of
%d bloggers like this: