
ผลงานเรื่องสุดท้าย Swan Song ของผู้กำกับ Kenji Mizoguchi ไม่ได้นำเสนอความน่าละอายของอาชีพโสเภณี แต่คือประเทศญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง มีสภาพไม่ต่างจากโสเภณี!
japan, Japanese film
ผลงานเรื่องสุดท้าย Swan Song ของผู้กำกับ Kenji Mizoguchi ไม่ได้นำเสนอความน่าละอายของอาชีพโสเภณี แต่คือประเทศญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง มีสภาพไม่ต่างจากโสเภณี!
เมื่อมนุษย์ (ไม่ใช่แค่วัยรุ่น) ถูกกดขี่ข่มเหง ควบคุมครอบงำ ได้รับบาดเจ็บทั้งร่างกาย-จิตใจ จักเริ่มมองหาสถานที่พักผ่อนคลาย ท้องทุ่งแห่งความสงบสันติ หรือใครสักคน Lily Chou-Chou สำหรับพึ่งพักพิง (Escapist) แต่ถ้าโลกส่วนตัวใบนั้นยังถูกคุกคาม ความเกรี้ยวกราดจะปะทุระเบิดออกอย่างคลุ้มบ้าคลั่ง
อนาคตอันใกล้ ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นได้กลายเป็นสกุลเงินเข้มแข็งที่สุดในโลก นำพาผู้อพยพลักลอบเข้ามาทำงานผิดกฎหมายมากมาย พวกเขาตั้งชื่อเล่นเมืองแห่งนี้ว่า Yentown (円都, en to) แต่ชาวญี่ปุ่นกลับเรียกหัวขโมยเหล่านี้ว่า Yen Thieves หรือ Yentowns (円盗, en tou), นี่คือผลงาน Masterpiece ของผู้กำกับ Shuji Iwai
มนุษย์สามารถก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาแห่งการสูญเสีย ก็ต่อเมื่อได้รับเรียนรู้ เปิดมุมมอง พบเห็นโลกทัศน์ใหม่ๆ ทำความเข้าใจอีกด้านหนึ่งของชีวิต จักสามารถปล่อยละวางความหมกมุ่นยึดติด และระบายสิ่งอึดอัดอั้นภายในออกมา, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
Okko เด็กหญิงวัย 12 ขวบ สูญเสียครอบครัวจากอุบัติเหตุบนท้องถนน จำต้องมาอาศัยอยู่กับคุณย่าดูแลโรงแรมเล็กๆแห่งหนึ่ง เพราะไม่มีทางเลือกอื่นเธอจึงกลายเป็นผู้จัดการรุ่นเยาว์ ค่อยๆเรียนรู้ เติบโต ก้าวข้ามผ่านความทรงจำอันเลวร้าย
Kitarō Kōsaka นักอนิเมเตอร์ชื่อดังจากสตูดิโอ Ghibli ผู้หลงใหลการปั่นจักรยานเป็นชีวิตจิตใจ ได้รับคำแนะนำและผลักดันจาก Hayao Miyazaki ที่ก็มีความชื่นชอบเช่นเดียวกัน กลายมาเป็น ‘passion project’ ภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องแรกฉายยังเทศกาลหนังเมือง Cannes
จดหมายรักของผู้กำกับ Naoko Yamada ต่อ Kyoto Animation เปรียบตนเองเหมือนนกสีฟ้า (Blue Bird) สักวันก็ต้องโบยบินจากไป ถึงอย่างนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเราจักไม่มีวันเสื่อมสลาย ฉันจะรักษาช่วงเวลาอันทรงคุณค่านี้ไว้ให้ได้นานที่สุด
Shoko Nishimiya แม้เป็นคนหูหนวก แต่พยายามปรับตัวใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไป ไม่ต้องการให้มองความพิการคือสิ่งผิดปกติ หรือสร้างความเดือดร้อนให้ใคร แต่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถสื่อสารทำความเข้าใจ ต้องประสบพบเจอเข้ากับตนเองก่อนหรือไรถึงค่อยตระหนักความเจ็บปวดของผู้ถูกข่มเหงรังแก, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
โลกทัศน์ของเด็กสิบขวบ เมืองอาศัยอยู่เปรียบดั่งจักรวาล พี่สาวหน้าอกใหญ่คือสิ่งมหัศจรรย์น่าหลงใหล ทางด่วนที่เพนกวินออกเดินทางผจญภัย เพื่อหวนกลับไปหาจุดเริ่มต้น-สิ้นสุด ตัวตนเองของผู้แต่งนวนิยาย Tomihiko Morimi จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
จากเรื่องราวโรแมนติกหวานแหวว แปรสภาพสู่จิตวิเคราะห์เพื่อปรับตัวเข้ากับการสูญเสีย ทำอย่างไรถึงก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาอันเลวร้าย ลุกขึ้นมาตอบโต้คลื่นชีวิตได้ด้วยตนเอง แม้ไม่มีเธอเคียงข้าง แต่จักคงอยู่ในใจไม่เหินห่าง
เด็กสาวเงือก Lu มาพร้อมรอยยิ้มและภยันตราย เมื่อได้ยินเสียงจังหวะดนตรี ครีบหางของเธอสามารถสลับสับเปลี่ยนเป็นขาสองข้าง (Merfolk) พอถูกมนุษย์พบเห็นเลยกลายเป็นศูนย์กลางความสนใจ ถูกใช้กอบโกยผลประโยชน์โดยไม่สนอะไร และเมื่อเกิดเหตุร้ายๆก็พร้อมขับไล่ผลักไสส่งอย่างไร้เยื่อใย … ทำไมพล็อตเรื่องมันเฉิ่มเชยขนาดนี้!
ค่ำคืนแห่งการสารภาพรักของรุ่นพี่หนุ่ม กับรุ่นน้องสาว ช่างมีความเยิ่นยาวนานยิ่งนัก ต่างมีเรื่องให้พลัดพรากจาก พบเจอเหตุการณ์เหนือธรรมชาติมากมาย ท้ายที่สุดแล้วความบังเอิญจะแปรเปลี่ยนเป็นโชคชะตาสำเร็จหรือไม่ แต่ผู้ชมต้องใช้สติปัญญาครุ่นคิดตีความเข้าใจจนสมองแทบระเบิด
ภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ชักชวนให้ผู้ชมครุ่นคิดตั้งคำถามอภิปรัชญา เปรียบเทียบชีวิตก็คือจักรวาล! มนุษย์สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งสรรพสิ่งอย่าง ได้จากความเข้าใจในตัวเราเอง, ตราตรึงไปกับความงดงามของฝูงสรรพสัตว์ใต้ท้องทะเล และเพลงประกอบโดย Joe Hisaishi
จากความตั้งใจให้เป็นอนิเมะสะท้อนวิกฤตการณ์ภาวะโลกร้อน แต่การตัดสินใจของ Hodaka กลับบอกช่างแม้ง ต่อให้น้ำท่วมโลกฉันก็ยังจะรักเธอ … เอิ่ม?
ผู้กำกับ Mamoru Hosoda พยายามครุ่นคิดแทนลูกชายวัย 4 ขวบ ทำไมถึงแสดงพฤติกรรมขี้อิจฉาต่อน้องสาวเพิ่งคลอด แต่แทนที่จะนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาสำหรับผู้ใหญ่ กลับเสี้ยมสั่งสอนมโนธรรมต่อเด็กอายุแค่นั้นเนี่ยนะ!
ปรมาจารย์ Hayao Miyazaki ป่าว(เปล่า)ประกาศจะรีไทร์ สองจิตสองใจเลือกใครเป็นผู้สืบทอดระหว่าง Mamoru Hosoda หรือ … (ใครดีละ?) … แต่ก่อนจะไปถึงวันนั้น Hosoda กำลังจะกลายเป็นพ่อคน แบบอย่างมีอยู่ก็พึ่งพาไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่ ทำอย่างไรฉันถึงสามารถกลายเป็น ‘คมดาบในจิตใจ’ เมื่อลูกเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่
มนุษย์ทุกคนต้องเผชิญหน้าสายลม มรสุม ทั้งลูกเล็ก-ใหญ่ บางคนเลือกปล่อยตัวปล่อยใจล่องลอยไป แต่สำหรับผู้กำกับ Hayao Miyazaki ทั้งชีวิตพยายามพุ่งชน ต่อต้าน ย่างก้าวเดินไปข้างหน้า เฉกเช่นเดียวกับ Jirô Horikoshi วิศวกรออกแบบเครื่องบินขับไล่ Mitsubishi A6M (Zero Fighter) ทั้งรู้ต้องถูกนำไปใช้ในสงคราม เข่นฆ่าคนตายนับไม่ถ้วน ขณะเดียวกันนั่นคือความเพ้อฝันใฝ่ ได้มีโอกาสสรรค์สร้างเครื่องบินโลกจดจำ
สันติสุขไม่มีทางจะบังเกิดขึ้นหากปราศจากการสงคราม! แต่โลกยุคสมัยปัจจุบันเหินห่างความขัดแย้งมายาวนาน มันจึงแปรสภาพสู่ความบันเทิงรูปแบบหนึ่ง ผ่านการนำเสนอของสื่อภาพยนตร์ อนิเมชั่น ล้วนสอดไส้ความรุนแรง ปรุงปั้นแต่งการต่อสู้ ชีวิต-ความตายกลายเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ เราควรครุ่นคิด/รู้สึกเช่นนั้นจริงๆนะหรือ?
Hayao Miyazaki ตัดสินใจกำกับ Howl’s Moving Castle เมื่อตอนอายุก้าวผ่าน 60 ปี แม้ร่างกายเริ่มแห้งเหี่ยว พละกำลังโรยรา ทรงผมขาวหงอกโพลนทั่วศีรษะ แต่จิตใจยังคงหนุ่มแน่น แข็งขัน มากด้วยประสบการณ์ และความคิดสร้างสรรค์ พร้อมเป็นพลังขับเคลื่อนปราสาท Ghibli ให้โบยบินบนฟากฟ้าชั่วนิรันดร์
ในโลกคู่ขนานที่นาซีเยอรมันชนะสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศญี่ปุ่นตกอยู่ภายใต้การควบคุมครอบงำโดยฝ่ายอักษะ ทหาร/ตำรวจใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมต่อต้าน แต่เบื้องลีกมีความเน่าเฟะเละยิ่งไปกว่านั้น, สร้างจากเนื้อเรื่องพัฒนาโดย Mamoru Oshii ตั้งคำถามหนักอึ้งเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์-สันชาติญาณสัตว์ (Jin = มนุษย์, Roh=หมาป่า) ปัจจุบันเราหลงเหลืออะไรอยู่ภายใน