ผู้กำกับ Lars von Trier ล้มป่วยโรคซึมเศร้า (Depression) ระหว่างเข้ารับการบำบัดด้วยวิธีการ ‘Exposure Therapy’ พัฒนาบทหนัง Antichrist เพื่อเผชิญหน้าความกลัวของตนเอง ท้าทายให้ผู้ชมเอาตัวรอดจากสวนอีเดนของซาตาน
หมวดหมู่: NC-17
NC-17, Rated NC-13, No Children Under 17, ไม่แนะนำกับคนอายุต่ำกว่า 17
ภาพยนตร์ลำดับที่สองของกลุ่มเคลื่อนไหว Dogme 95 เต็มไปด้วยความอื้อฉาว บ้าบอคอแตก เมื่อคนปกติแสร้งทำเป็นคนบ้า แล้วไปกลั่นแกล้ง หลอกลวงผู้อื่น เหมือนจะก้าวล้ำเส้นความเหมาะสม แต่ก็ท้าทายผู้ชมให้ตระหนักถึงอิสรภาพชีวิต
โคตรหนังคัลท์ที่ยังคง(เฉิด)ฉายมาจนถึงปัจจุบัน ชักชวนให้วัยรุ่น คนหนุ่ม-สาว ได้เรียนรู้ เข้าใจตัวตนเอง ค้นพบอัตลักษณ์ทางเพศ ปลดปล่อยน้ำกาม เปียกปอน ชุ่มฉ่ำ ความบันเทิงของชาว LGBTQIAN+
Female Trouble (1974)
Female Trouble (1974) ไม่ใช่ปัญหาของหม่อมแม่ Divine แต่ขึ้นอยู่กับผู้ชมจะมองเห็นความอัปลักษณ์หรืองดงาม? ผลงานมาสเตอร์พีซของ John Waters อาจไม่มีฉากตราตรึงเท่า Pink Flamingo (1972) แต่แฝงแนวคิดสะท้อนปัญหาสังคมได้ทรงพลังกว่ามากๆ
Pink Flamingos (1972) ไม่จำเป็นต้องไปแข่งขัน ประชันใคร นั่นเพราะภาพยนตร์เรื่องนี้มีความสกปรก โสมม อาจม น่ารังเกียจขยะแขยง “Filthiest Film of All Time” แต่ถ้าคุณสามารถมองข้ามรสนิยมต่ำตมเหล่านั้น อาจพบเห็นสรวงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ของหม่อมแม่ Divine
Possession (1981)
ผู้กำกับ Andrzej Żuławski ตกอยู่ในอาการคลุ้มบ้าคลั่งเมื่อถูกภรรยาเลิกราหย่าร้าง สรรค์สร้าง Possession (1981) ด้วยการทำให้ฝ่ายหญิงดูอัปลักษณ์ น่ารังเกียจ ขยะแขยงที่สุด ไม่ต่างจากถูกปีศาจร้ายเข้าสิง แต่ใครกันแน่ที่สูญสิ้นความเป็นมนุษย์
The Devils (1971)
ภาพยนตร์เรต X ถูกแบนในหลายๆประเทศ เพราะความสุดโต่งเหนือจริงของการล่าแม่มด พฤติกรรมเก็บกดทางเพศของแม่ชี หรือแม้แต่กษัตริย์ King Louis XIII ยังถูกตีความว่าเป็น Queer แต่ถ้าเราสามารถมองผ่านสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายเหล่านั้น ก็อาจพบเห็นสรวงสวรรค์ที่แท้จริง
La caduta degli dei (1969)
ตระกูลต้องคำสาปที่ใกล้ถึงวันล่มสลาย ภายในเต็มไปด้วยความขัดแย้ง เกมการเมือง แก่งแย่งชิงให้ได้มาซึ่งอำนาจ ทรยศหักหลังญาติพี่น้อง พร้อมกระทำสิ่งโฉดชั่วนานัปการ (หนังได้รับการจัด X-Rated) สะท้อนการขึ้นมาเรืองอำนาจของ Nazi Germany ได้อย่างลุ่มลึก ทรงพลัง!
Wild at Heart (1990)
Palme d’Or ที่ได้รับเสียงโห่มากกว่าปรบมือ สะท้อนเสียดสี ล้อเลียนวิถีอเมริกัน ใครๆต่างเพ้อใฝ่ฝัน ต้องการไปให้ถึงสรวงสวรรค์หลังสายรุ้ง The Wizard of Oz แต่โลกความจริงกลับมีสภาพต่ำตม นรกบนดิน ผู้ชมก็แทบดับดิ้นถ้าอยากจะเข้าใจภาพยนตร์ NC-17 เรื่องนี้
Santa Sangre (1989)
ผู้กำกับ Alejandro Jodorowsky ขณะนั้นมีภรรยามาแล้ว 4 คน ทุกครั้งที่เลิกร้างรา ราวกับว่าเขาได้เข่นฆ่าพวกเธอให้ตายจากไป(ในความรู้สึกนึกคิดและจิตใจ) กลายมาเป็นเรื่องราวฆาตกรต่อเนื่อง 30 ศพ ฝังหญิงสาวคนรักไว้ในสวนหลังบ้าน หลอกหลอน สั่นสยอง สะท้านถึงขั้วหัวใจ Masterpiece เรต NC-17, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
ชายชุดดำควบขี่ม้าอยู่กลางทะเลทราย ด้านหลังมีเด็กชายเปลือยเปล่าไม่สวมใส่เสื้อผ้า พอมาถึงเสาไม้แห่งหนึ่งสั่งให้ขุดกลบฝังตุ๊กตาหมีและรูปถ่ายมารดา, ถ้าคุณสามารถทำความเข้าใจนัยยะเชิงสัญลักษณ์ดังกล่าวได้ ค่อยลองหาโคตรหนัง Surrealist เรต NC-17 เรื่องนี้มารับชมนะครับ
Trainspotting (1996)
Trainspotting (1996) : Danny Boyle ♥♥♥♥
Train-Spotting กิจกรรมจับจ้องรถไฟเคลื่อนผ่านไปมา ในมุมคนทั่วไปคงมองว่าเป็นงานอดิเรกที่โคตรไร้สาระ แต่สำหรับบุคคลกำลังมึนเมาเสพยา นั่นคือช่วงเวลาอันสุดมหัศจรรย์เหนือจินตนาการ (ผมก็อธิบายไม่ได้ว่าเป็นอย่างไร) ก็เหมือนภาพยนตร์เรื่องนี้อาจทำให้คุณรู้สึกโคตรเสียเวลารับชม แต่สะท้อนวัฒนธรรม ค่านิยม และจิตวิญญาณชนชาวอังกฤษยุคสมัยนั้นออกมาได้อย่างตราตรึง
Pink Floyd – The Wall (1982) : Alan Parker ♥♥♡
มนุษย์สร้างบ้าน รั้วลวดหนาม ผนังกำแพง สำหรับปกป้องตนเองจากภยันตรายภายนอก แต่ขณะเดียวกันนั่นคือการแบ่งแยก กีดกัน กักขังตนเองอยู่ภายใน ค่อยๆก่อรากความเห็นแก่ตัว มองไม่เห็นสิ่งทรงคุณค่าทางจิตใจของผู้อื่นอีกต่อไป, ภาพยนตร์แนว Rock Opera เรต NC-17 นำเสนอรูปแบบ Surrealist รับชมปัจจุบันยังพบเห็นข้อเท็จจริงเหนือกาลเวลา
Funny Games (1997)
Funny Games (1997) : Michael Haneke ♥♥♡
ผู้กำกับ Michael Haneke เขียนบทความ ‘Violence and the Media’ เพื่ออธิบายจุดประสงค์การสร้าง Funny Games ฉบับ 1997 และรีเมค 2007 โคลนมาเหมือนเปะเปลี่ยนแค่ภาษาและนักแสดง เพราะต้องการให้ผู้ชมตระหนักถึงอิทธิพลของสื่อ ที่ได้ปลูกฝังหยั่งรากลึกความรุนแรงเข้ามาในชีวิตประจำวันเรียบร้อยแล้ว
A Woman Under the Influence (1974)
A Woman Under the Influence (1974) : John Cassavetes ♥♥♥♥♡
หญิงสาวตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของ… เป็นภาพยนตร์ที่จะทำให้ผู้ชมตกอยู่ในสภาวะซึมเศร้าหดหู่ ภายใต้อิทธิพลคลุ้มคลั่งเสียสติแตกของตัวละคร เต็มไปด้วยความอึดอั้นอั้นทุกข์ทรมาน คือผลงาน Masterpiece ที่ผมโคตรเกลียด!
Performance (1970)
Performance (1970) : Donald Cammell & Nicolas Roeg ♥♥♥♡
โคตรหนัง Cult พยายามนำเสนอว่า มนุษย์ทุกคนล้วนมีภายนอก-ใน ที่สามารถ’แสดง’ออกมาได้ แต่มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นคือตัวตนแท้จริง!, การันตีความดูไม่รู้เรื่อง ด้วยการตัดต่อระดับ Masterpiece ถ่ายทอดยุคสมัย 60′ Swinging London และมึนเมาไปกับวัฒนธรรม Bohemian/Hippie
Suspiria (2018)
Suspiria (2018) : Luca Guadagnino ♥♥♥♥
Suspiria ภาษาอิตาลี แปลว่า เสียงคราง, ทอดถอนหายใจ คงเป็นอาการของใครหลายๆคนเมื่อรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ชอบไม่ชอบอยู่ที่สามารถเข้าถึงนามธรรมซ่อนเร้นมากน้อยแค่ไหน เพราะทุกสิ่งอย่างคือกระจกสะท้อนกันได้ เกิด-ตาย ชาย-หญิง อดีต-ปัจจุบัน ความจริง-ความฝัน ภาพหลอน-เวทย์มนต์ เยอรมันตะวันออก-ตะวันตก เคลื่อนไหวทางการเมือง-พิธีกรรมแม่มด สุดท้ายอยู่ที่เราจะเรียนรู้การอยู่ร่วมกันได้อย่างไร
Salò, or the 120 Days of Sodom (1975) : Pier Paolo Pasolini ♥♥♡
ผลงาน Swan Song ของผู้กำกับ Pier Paolo Pasolini ดัดแปลงจากวรรณกรรมชิ้นเอกของ Marquis de Sade ผู้ให้กำเนิดคำว่า Sadism ทำการสะท้อนเสียดสี ตีแผ่ความสุดโต่ง คอรัปชั่นคดโกงกินของชนชั้นปกครอง ต่อประชาชนคนทั่วไปผู้มิอาจโต้ตอบต่อกรทำอะไรได้ ช่างเป็นทรมานบันเทิงที่หาความเริงรมณ์ไม่ได้สักนิด
Funeral Parade of Roses (1969)
Funeral Parade of Roses (1969) : Toshio Matsumoto ♥♥♥♥
หลายๆไดเรคชั่นของภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้กำกับ Stanley Kubrick สร้าง A Clockwork Orange (1971) ต่างเพียงความรุนแรงที่สะสมในตัวเด็กชาย ได้แปรสภาพให้เขาเติบโตขึ้นกลายเป็นเกย์ ดำเนินเรื่องแบบไม่เรียงตามลำดับเวลา (Non-Chronological Order) ความจริง-ความฝัน อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต ซ้อนทับกันอย่างเบลอๆ ดูยากยิ่งกว่า 8½ (1963) แต่คือ Masterpiece ของแนว LGBT ที่สั่นสะเทือนวงการภาพยนตร์ใต้ดินญี่ปุ่น
Anatomy of Hell (2004) : Catherine Breillat ♥♥♡
(mini Review) กายวิภาคเรือนร่างของมนุษย์ เป็นสิ่งที่ทั้งสวยงามและน่าขยะแขยง ขึ้นอยู่กับมุมมอง โลกทัศนคติ และรสนิยมส่วนบุคคล, ในชีวิตจริงคงไม่มีใครคิดทำอะไรโรคจิตวิปริตเหมือนหนังเรื่องนี้ แต่เมื่อมันถูกสร้างขึ้นมาเป็นเรื่องแต่ง ก็ชวนให้ตั้งคำถามว่า เพื่ออะไร?