
การเริงระบำของจักรกล คือภาพยนตร์แนวทดลอง (Experimental) ด้วยอิทธิพลของ Dadaism เปรียบเทียบระหว่างมนุษย์กับเครื่องยนต์กลไก ทั้งภาพและเสียงต่างมีความตื่นหู ตื่นตา แปลกใหม่ เปิดประสบการณ์ไม่ซ้ำแบบใคร
Rated PG, Parental Guidance, PG, เด็กดูได้แต่ควรมีผู้ใหญ่แนะนำ
การเริงระบำของจักรกล คือภาพยนตร์แนวทดลอง (Experimental) ด้วยอิทธิพลของ Dadaism เปรียบเทียบระหว่างมนุษย์กับเครื่องยนต์กลไก ทั้งภาพและเสียงต่างมีความตื่นหู ตื่นตา แปลกใหม่ เปิดประสบการณ์ไม่ซ้ำแบบใคร
Alabama หนึ่งในรัฐทางตอนใต้สหรัฐอเมริกาที่ช่วงต้นทศวรรษ 60s ยังคงยึดถือมั่น Jim Crow laws แต่เมื่อนักศึกษาผิวสีสองคนต้องการเข้าศึกษาต่อ University of Alabama จึงกลายเป็นการเผชิญหน้าครั้งสำคัญระหว่างผู้ว่าการรัฐ George Wallace vs. ประธานาธิบดี John F. Kennedy
หญิงสาวผู้ดีอังกฤษ Sarah Miles ล้มป่วยโรคซึมเศร้า (Depression) จากการสูญเสียสามี ว่าจ้างคนขับรถ Robert Shaw ชักชวนพูดคุยสนทนา ทำให้ค่อยๆสามารถปรับตัวเข้าหาผู้อื่น แต่ฝ่ายชายกลับเกิดความเข้าใจผิด ครุ่นคิดว่าเธอแอบชื่นชอบตกหลุมรัก, ภาพยนตร์รางวัล Palme d’Or ที่ไม่สมควรค่าสักเท่าไหร่!
นายธนาคาร Alec Guinness นำก๊วนโจรกระจอกปล้นทองจากธนาคารในสไตล์ Ealing Comedy จัดจ้านด้วยลูกเล่นที่กลายเป็นแรงบันดาลใจ Vertigo (1959) และคว้ารางวัล Oscar: Best Original Screenplay
บิดาร่างท้วม Charles Laughton นิสัยดื้อรั้น-ขี้เมา-เอาแต่ใจ มีบุตรสาวสามคนอยากแต่งงานออกจากบ้าน แต่กลับถูกทัดทานเพราะไม่ต้องการจ่ายสินไหมแต่งงาน เลยโดนพวกเธอเอาคืนอย่างเจ็บแสบกระสันต์ เสียดสีสภาพสังคมอังกฤษสมัยนั้นได้อย่างคันๆ, คว้ารางวัล Golden Bear จากเทศกาลหนังเมือง Berlin
นักผจญเพลิง (Firefighter) ถือเป็นวีรบุรุษของประเทศอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง คอยดับไฟจากเครื่องบินทิ้งระเบิดไม่ให้ลุกลามบานปลาย นำเสนอสไตล์สารคดีแต่ผลลัพท์ไม่ต่างจากภาพยนตร์ชวนเชื่อ (Propaganda)
สร้างใหม่จาก A Guy Named Joe (1943) หนึ่งในแรงบันดาลใจ Steven Spielberg ให้อยากเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ นำเสนอเรื่องราวความเชื่อว่าเมื่อคนรักตายจากไป อีกฝ่ายจะกลายเป็นวิญญาณ ยังคงล่องลอยอยู่เคียงข้าง ‘ตลอดไป’
คำสอนแปลกๆของนักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซี (Saint Francis of Assisi) ได้ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้หอมหวน ตลบอบอวล ด้วยกลิ่นดอกไม้งาม ทั้งผู้กำกับ Pier Paolo Pasolini และ François Truffaut ต่างยกให้ ‘the most beautiful film in the world’
แสร้งว่าคือ Musical? ภาพยนตร์เฉลิมฉลองการตั้งครรภ์ระหว่าง Jean-Luc Godard และ Anna Karina แต่ชีวิตจริงหาได้สวยหรูดั่งเทพนิยาย เพราะเขาไม่เคยอยู่เคียงชิดใกล้ แม้กระทั่งตอนแท้งลูกก็หาได้ใคร่สนใจ
ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของผู้กำกับ Béla Tarr นำเสนอหกวันสุดท้ายแห่งความสิ้นหวัง ราวกับวันโลกาวินาศกำลังมาถึง แต่ชีวิตยังคงเวียนวน ตื่น-กิน-นอน ดำเนินต่อไป เพียงเฝ้ารอคอยความตาย และทอดถอนหายใจ
ผลงานแจ้งเกิดระดับนานาชาติของปรมาจารย์ผู้กำกับ Krzysztof Kieślowski ตั้งคำถามจริยธรรมเกี่ยวกับการสรรค์สร้างภาพยนตร์ ระหว่างปล่อยปละละเลยถ่ายทำมันทุกสิ่งอย่าง (เชื่อในอิสรภาพทางความคิดสร้างสรรค์) หรือเราควรต้องย้อนกลับมองดูตนเอง มีอะไรถูกต้องเหมาะสมควรหรือไม่ควร ภายใต้กฎกรอบข้อบังคับทางสังคม
ดัดแปลงจากนวนิยายของ E. M. Forster (Howards End, A Passage to India) นำเสนอวิวทิวทัศน์แห่งความรัก ชักชวนเชื่อให้ตอบกลับความรู้สึกของหัวใจ แม้ขัดแย้งขนบสังคมประเทศอังกฤษก็ช่างหัวมันประไร แจ้งเกิดนักแสดงยังสาวสวย Helena Bonham Carter แถมด้วยบทบ้าๆบอๆของ Maggie Smith และ Daniel Day-Lewis
Sense คือสัมผัสทางจิตวิญญาณ, Sensible คือความอ่อนไหวในการแสดงออก สองสิ่งขั้วตรงข้ามเหตุผล-อารมณ์ เรื่องราวความรักของสองพี่น้อง Emma Thompson vs. Kate Winslet ใครจะได้ครองคู่แต่งงานกับใคร ด้วยความละเมียดไมจากผู้กำกับ Ang Lee คว้ารางวัล Golden Bear จากเทศกาลหนังเมือง Berlin
นโยบายลูกคนเดียวของเติ้งเสี่ยวผิง ไม่ต่างอะไรจากการเตะผ่าหมากสามีของชิวจู (นำแสดงโดย กงลี่ ในบทบาทเจิดจรัสที่สุด) เธอรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งไม่ถูกต้องจึงพยายามร้องเรียนหน่วยงานรัฐ แต่ไม่ว่าองค์กรท้องถิ่น อำเภอ จังหวัด กระทั่งขึ้นศาลยุติธรรม ล้วนได้รับคำตัดสินแบบเดียวกัน, คว้ารางวัล Golden Lion และ Volpi Cup for Actress จากเทศกาลหนังเมือง Venice
เพื่อโต้ตอบกับ Dishonored (1931) สตูดิโอ M-G-M จึงรีบเร่งสรรค์สร้าง Mata Hari (1931) นำแสดงโดย Greta Garbo ในบทสายลับนักเต้น โดดเด่นในการใช้มารยาหญิง เย้ายวน ยั่วราคะ ล้วงความลับจากบรรดาบุรุษทั้งหลาย แม้หนังจะประสบความสำเร็จทำเงินถล่มทลาย แต่ก็ไม่ค่อยมีอะไรน่าจดจำสักเท่าไหร่
ไม่ใช่ความตั้งใจของผู้กำกับ Josef von Sternberg ที่จะตีตราสายลับว่าเป็นอาชีพไร้เกียรติ ‘Dishonored’ แต่มันคือมุมมองคนยุคสมัยนั้น (รวมถึงสตูดิโอภาพยนตร์) ยินยอมรับไม่ได้ต่อพฤติกรรมบุคคลสองหน้า ใช้มารยาลวงล่อหลอก ล้วงความลับผู้อื่น ไร้ซึ่งศีลธรรมจรรยา ทั้งๆพวกเขาและเธอต่างทำเพื่อผลประโยชน์ประเทศชาติบ้านเมือง
เรื่องราวความรักระหว่างบุคคลละชนชั้น อาจดูเฉิ่มเชยล้าหลังแต่ปัจจุบันยังคงพบเห็นได้ทั่วไป ปัญหาส่วนใหญ่ล้วนเกิดจากอิทธิพลคนรอบข้าง มิอาจทนเสียงเห่าหอนของหมูหมากาไก่ จนกว่าตระหนักว่าทำไมฉันต้องรับฟังใคร ถึงจักค้นพบความสุขแท้จริงอยู่ที่ใจเราเอง, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
ผลงานที่การันตีความสำเร็จใน Hollywood ของ Douglas Sirk ด้วยความพยายาม ‘ชวนเชื่อ’ ให้ผู้ชมลดละทิฐิ ความเห็นแก่ตัว รู้จักทำประโยชน์เพื่อสาธารณะ แต่พฤติกรรมหมกมุ่นมากเกินพอดี ไม่เห็นมันจะมีความ ‘Magnificent’ ตรงไหนกัน?
ตั้งใจให้เป็นภาพยนตร์ขนาดยาวสร้างโดยสามผู้กำกับดัง แต่สำเร็จเสร็จสรรพเพียงส่วนของ Luis Buñuel เลยแปรสภาพสู่หนังสั้นความยาว 45 นาที เรื่องราวของของนักพรต Simón ยืนอยู่บนแท่นสูงกลางทะเลทรายนาน 6 ปี 6 สัปดาห์ และ 6 วัน, คว้ารางวัล Grand Jury Prize (ที่สอง) จากเทศกาลหนังเมือง Venice