Dilwale Dulhania Le Jayenge (1995)
ถ้าให้คำนิยามสำหรับ Shah Rukh Khan เขาเปรียบเหมือน ลูกหมาตาบ้องแบ้วใสๆ ที่จะทำให้คุณหลงรักโดยหมดใจ ผมอ่านเจอคำนิยามนี้ที่ไหนสักที่หนึ่ง หลังจากได้ดูหนังของ Shah Rukh Khan มาหลายเรื่องก็ขอลงความเห็นว่า “ใช่” เลยละ ด้วยความตั้งใจของ Shah Rukh หรือเปล่า ก็น่าจะใช่นะ เรามักพบเขาเล่นหนังแนว Romantic เป็นส่วนมาก จะต้องมีบทล้อ บทเล่น จีบสาว และแต่งงาน เพราะแบบนี้เขาเลยเป็นขวัญใจมหาชนชาวอินเดีย เพราะเหมือนเขากลายเป็นผู้ชายในฝัน ผู้ชายในอุดมคติของสาวๆเกือบ 3 ทศวรรษแล้ว
ที่ผมเลือก DDLJ เป็นหนังของ Shah Rukh เรื่องแรกที่พูดถึง ไม่ใช่เพราะเป็นหนังที่ Shah Rukh Khan เล่นได้ดีที่สุด หรือเข้าขากับนางเอกคู่ขวัญ Kajol ได้ดีที่สุด แต่ผมเลือก DDLJ เพราะนี่คือหนังที่น่าจะดีที่สุดที่มี Shah Rukh Khan (ใช้คำว่าน่าจะเพราะผมยังไม่ได้ดูหนังของ Shah Rukh ครบทุกเรื่องนะครับ มันเลยอาจจะมีหนังทีดีกว่านี้) ในบรรดาชาร์ทอันดับหนัง Bollywood หลายๆสำนักเห็นตรงกันว่า DDLJ หนังที่ดีมากๆเป็น 1 ในไม่กี่เรื่องของ Bollywood ที่ติด 1001 Movies You Must See Before You Die และถ้าพูดถึง Boxoffice India ละก็ นี่คือหนังที่ฉายต่อเนื่องได้ยาวนานที่สุด เห็นว่าเกิน 1000 สัปดาห์เข้าไปแล้ว (20 ปีนะนั่นนะ) ปัจจุบันก็ยังมีฉายอยู่ (มั้ง)
นี่ไม่ใช่หนังที่ Shah Rukh Khan เล่นดีที่สุด เขาได้ Best Actor จาก Filmfare Award ก็จริง แต่เป็น 1 ในบรรดาหลายๆรางวัลที่เขาได้ เมื่อเทียบกับ Dil Se หรือ My name is Khan พลังในการแสดงยังต่างกันมากนัก โดยเฉพาะ My name is Khan ผมก็คิดไม่ถึงนะว่า Shah Rukh จะสามารถเล่นบทที่ใช้การแสดงออกทางร่างกายได้ดีขนาดนี้ ถ้าเพียงพี่แกไม่เลือกประเภทของหนังมากนัก เราอาจจะได้เห็นการแสดงชั้นเลิศเทียบเคียง Aamir Khan ได้เลย แต่ไม่ใช่ว่าใน DDLJ พี่แกแสดงไม่ดีนะ แต่อาจเพราะผมดูหนังอย่าง Kuch Kuch Hota Hai มาก่อน เลยรู้สึกว่า DDLJ คาแรคเตอร์มันซ้ำ (แม้ว่า Kuch Kuch Hota Hai จะมาทีหลังก็เถอะ)
Kajol ผมไม่รู้สึกว่าเธอสวยเท่าไหร่นะ (คงเพราะดู KKHH มาก่อนด้วยละ) แต่คงเป็นผู้หญิงที่สวยมากในยุคนั้น การแสดงของเธอถ้าเทียบกับ Hollywood เธอคือ Audrey Hepburn เลยนะ ด้วยตัวละครของเธอมีนิสัยขี้เล่น แบบที่มีหลายบุคคลิก และการแสดงของเธอแสดงออกทางดวงตาได้ดีเยี่ยมมากๆ มีหลายเรื่องมากที่เธอเล่นเป็นคู่พระนางกับ Shah Rukh Khan ถ้าไม่เคยรู้มาก่อนอาจคิดว่าทั้งสองเป็นคู่รักนอกจอกันด้วยซ้ำ เคมีเข้ากันมากๆ แต่ Kajol ดันไปแต่งกับเฮีย Ajay Devgan เสียนี่ ซึ่งคู่เธอได้รับฉายาว่า Beauty and the Beast (ซะงั้น แต่ก็จริง) สำหรับ DDLJ ผมว่าการแสดงเธอเด่นมากๆ แม้จะไม่ใช่เรื่องที่เธอเล่นดีที่สุด แต่ DDLJ รู้สึกเหมือนทั้งสองกำลังพัฒนาเคมีที่เข้าขากัน ให้กระชับแนบแน่นยิ่งขึ้น (ผมรู้สึกว่า KKHH ทั้งสองดูยิ่งเข้าคู่กันได้ดีกว่า DDLJ อีก)
เรื่องนี้ไปถ่ายกันที่ England และหลายประเทศในยุโรป ได้โลเกชั่นสวยๆมากมาย ผมไม่รู้มันเป็นเทรนด์ หรือเรื่องนี้นำเทรนด์ก็ไม่รู้นะ ที่ถ้าต้องการได้ฉากจีบกันสวยๆ มีพื้นหลังเป็นภูเขา มีหิมะตกที่ยอด มีบ้านช่อง ตึกรามสถาปัตยกรรมสวยๆ ต้องไปยุโรป (ไม่รู้ได้อิทธิพลกันมาจากหนังเรื่อง Sound of Music หรือเปล่านะ) ผมก็เห็นหนัง bollywood หลายเรื่องที่เลือกโลเกชั่นประมาณนี้ แต่เก่าสุดที่ผมเคยเห็นก็ DDLJ นี่แหละ และมีฉากหนึ่งในทุ่งดอกทานตะวัน เป็นหนึ่งในฉากสุดคลาสสิคของหนังเรื่องนี้เลย
สำหรับผู้กำกับ Aditya Chopra ที่มี Yash Chopra เป็น producer ให้ นี่ถือเป็นผลงานกำกับแรกของ Aditya Chopra เลย เขาไม่ใช่ผู้กำกับที่มีผลงานมากนัก แต่ก็มีแนวคิดน่าสนใจทีเดียว โดยเฉพาะวิธีการโน้มน้าวใจนักแสดง ผมได้ยินว่าตอนแรก Shah Rukh Khan บอกปฏิเสธบทนี้ แต่ Aditya Chopra ได้กล่อม Shah Rukh โดยบอกว่า นายไม่มีวันได้เป็น Superstar ถ้านายไม่ได้เป็นคนที่ หญิงสาวทุกคนเฝ้าฝัน และคนที่แม่อยากได้มาเป็นลูกเขย “You could never be a superstar unless you became ‘every woman’s dream man, and every mother’s dream son'” คำพูดของ Aditya Chopra นี้ถือเป็นคำจำกัดความคาแรกเตอร์ของ Shah Rukh Khan เลย ผมสังเกตุงาน Produce ของ Adiya Chopra หลายเรื่อง ก็พบพี่แกจะเน้นเอาใจตลาด อาทิ Dhoom Trilogy, Ek Tha Tiger หนังเรื่องนี้เรียกว่าเป็นจุดเริ่มต้นอาชีพของ Adiya Chopra เลย
อะไรกันที่ทำให้หนังเรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงปัจจุบันแล้วหนังเรื่องนี้ยังได้รับการพูดถึง มีหนังหลายเรื่องที่มีการล้อบางฉาก เป็นการให้เกียรติ DDLJ อย่างมาก
อย่างแรกเลย คือเพลงครับ ไอเดียมันเริ่มจากเสียงกีตาร์โซโล่ (ผมไม่แน่ใจนั่นมันกีตาร์หรือเปล่านะ หรือเครื่องดนตรีอื่น) ฟังครั้งแรกๆอาจจะไม่อะไรมาก แต่หนังเกือบๆ 3 ชั่วโมง ได้ยินเสียงนี้เกิน 10 ครั้ง แต่ละครั้งมันมาในจังหวะที่ใช่ และทำให้หัวใจเราไหวๆไปกับฉากนั้นด้วย จะจำจนฮัมตามไม่ได้ก็แปลก เพลงนี้กลายเป็นเพลงที่ฮิตติดลมสุดๆในยุคนั้นเลย ปัจจุบันก็ยังฮิตอยู่ ขนาดว่ามีหนังหลายเรื่องที่ถ้ามีฉากล้อ DDLJ ก็จะใช้เพลงด้วย กดฟังกันเลย
น่าเอาเพลงนี้มาเป็นเสียง ringtone จริงๆนะครับนี่ กับคนที่ดู DDLJ แล้วจะรู้ว่านี่เป็นทำนองที่ สนุกสนาน ตื่นเต้น โศกเศร้าเศร้าหมอง แต่เต็มเปี่ยมด้วยความหวัง หลากหลายอารมณ์มากๆกับเพลงนี้ แทบจะครบทุกอารมณ์เลย ฟังเพลงเต็มๆได้ที่คลิปต่อมานะครับ
แต่เพลงที่ผมชอบที่สุดใน DDLJ ไม่ใช่เพลงนี้นะครับ เป็นเพลงที่ Shah Rukh ร้องเล่นกับเปียโนตอนต้นๆเรื่อง ตอนผมดูฉากนั้นผมละฮาลั่นเลย เอาจริงเหรอ เห้ยมันเอาจริงแหะ (อายแทน) แต่หลังจากนั้นก็ เห้ย! พูดจริงดิ จบด้วยน้ำตาคลอนิดๆ ฉากนี้ผมไม่โพสคลิปนะครับ แค่นี้ก็สปอยมากเกินไปแล้ว
เหตุผลของความฮิตถล่มทลายต่อมาคือ บทหนัง เชื่อว่าใครๆก็พูดว่าบทหนังเรื่องนี้ย่อยง่าย ใช่แล้วครับ ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรเลย ทุกอย่างแทบจะตรงตัว ลงตัว แล้วมันสุดยอดยังไง คือมันเป็นเนื้อเรื่องของคนที่ยึดมั่นในความเชื่อ และความมั่นใจในตัวเอง เป็นบทที่พระเอกหล่อมากๆ หล่อทั้งกาย หล่อทั้งใจ เป็นความหล่อระดับอมตะที่แม้แต่ผมเองตอนดูยังไม่คิดว่าหนังมันจะทำได้ โดยเฉพาะครึ่งหลังของหนัง เห้ยสุดยอดว่ะ ถึงเราจะคาดเดาตอนจบได้แล้วก็ยังลุ้นจนวินาทีสุดท้าย ว่าพระเอกจะทำได้หรือเปล่า และตอนจบที่บเหมือนได้ปลดปล่อยเลยละครับ โล่งอก ดูจบแล้วอิ่มมากๆ happy สุดๆ ไม่แปลกเลยที่จะมีโรงหนังที่ฉายเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะใครๆต่างก็มีความสุขที่ได้ดูหนังเรื่องนี้
อย่างสุดท้ายที่ทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นอมตะ คือ Shah Rukh Khan และ Kajol คงไม่มีอะไรบรรยายมากสำหรับเคมีของทั้งคู่ และยังรวมไปถึง Amrish Puri พ่อนางเอกที่ร้ายได้แสบสันมาก และ Farida Jalal แม่นางเอกที่แสดงได้สุดยอดมากๆ เธอได้ Best Support Actress จาก Filmfare Award ด้วย เรียกว่าเป็นชุดนักแสดงที่ครบเครื่อง เล่นได้เข้าขากันดีมากๆ บทพระเอกนี้ทำให้ Shah Rukh Khan กลายเป็น superstar และ Kajol เป็นคู่รักบนแผ่นฟีล์มในตำนานของวงการ bollywood เลยละ
ผมดูหนังเก่าๆของ bollywood มาหลายเรื่อง ในยุคก่อน 2000 หลายเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากๆ แต่ก็จะมีจุดสะดุดบางอย่างที่ทำให้ความ Perfect กลาย เกือบ Perfect แต่กับ DDLJ เรื่องนี้ถือว่า Perfect ตั้งแต่ต้นจนจบเลย และตอนจบที่ฉากรถไฟ ได้กลายเป็นหนึ่งในฉากตำนานที่ใครๆก็จดจำได้ มาคู่กับเสียงกีตาร์ที่เป็นเพลงประกอบ และคนที่ยืนอยู่บนรถไฟคือ Shah Rukh Khan คนที่วิ่งมาคือ Kajol
“Come… fall in love” คำโปรยบนใบปิดที่ไม่ผิดเลย
คำโปรย : “DDLJ หนังที่ลงตัวมากๆกับการแสดงของ Shah Rukh Khan และ Kajol บทเพลงสุดไพเราะ ณ ทุ่งดอกทานตะวัน และฉากจบในตำนานของ bollywood”
คุณภาพ : LEGENDARY
ความชอบ : FAVORI
Leave a Reply