Ping Pong The Animation

Ping Pong the Animation

อนิเมะซีรีย์วันนี้ มานำเสนอผลงานลายเส้นสุดแนว จากผู้กำกับ Mind Game, Masaaki Yuasa เชื่อว่าคออนิเมะหลายคนพอเห็นลายเส้นของอนิเมะเรื่องนี้แล้วคงเบือนหน้าหนีทันที แต่ผมการันตีได้ ความยาวแค่ 11 ตอนเท่านั้น ยาวพอๆกับดูหนังเรื่องยาวได้เรื่องหนึ่ง แต่ดูจบแล้วจะมีความรู้สึกประหลาดๆ เนื้อเรื่องแบบนี้มันก็ต้องภาพแบบนี้แหละใช่เลย

ผมชอบเพลงเปิดและปิดของอนิเมะเรื่องนี้มาก op เพลง Tada Hitori” (唯一人) โดย Bakudan Johnny ส่วน ed เพลง Bokura ni Tsuite (僕らについて) โดย Merengue ลองดูคลิป op ที่ผมใส่เข้ามานะครับ

ดูแล้วจะอื้อหือ แนวมากๆ ดนตรีโคตรหนวกหู ภาพมันอะไรฟร่ะ! เจ๋งยังไง … นั่นแหละครับความเจ๋ง แถมแต่ละตอนช่วงแรกๆ ภาพใน op ไม่เหมือนกันด้วย (จะเป็นเฉพาะช่วง 4-5 ตอนแรก) ราวกับมันเป็นวิวัฒนาการของ op และตัวละครด้วย ถ้าสังเกตดีๆ ภาพ op จะรู้สึกเหมือนภาพมันไม่ต่อเนื่อง กระตุกไปมา แทนที่จะวาด 20-25 รูปต่อวินาที ดูแล้วน่าจะเป็น 10 รูปต่อวินาทีเท่านั้น ไม่ใช่ว่า animator ขี้เกียจนะครับ เขาจงใจให้ความรู้สึกกับคนดูที่ดูเหมือนจะไม่ต่อเนื่อง ภาพช่วงแรกจะใช้สี ขาว-ดำ เท่านั้น จนกระทั่งชื่ออนิเมะขึ้นจากนั้นภาพจะมีลักษณะเหมือนสีน้ำมันวาดหยาบๆ ใช้แค่โทนสีขาว-ดำ-เทา เท่านั้น ผมชอบฉากวิ่งกับฉากเป่าหมากฝรั่งมาก เพราะมันเหมือนกับการที่เราได้หลุดกรอบความเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งเข้ากับเรื่องราวในอนิเมะเรื่องนี้ด้วย

วิธีการเล่าเรื่องของอนิเมะเรื่องนี้ต่างจาก Mind Game ค่อนข้างมาก ตรงที่มีเนื้อเรื่องที่เป็นเส้นตรงและเข้าใจไม่ง่าย คนดูเสพงานภาพและเสียงที่โดดเด่น ต้นฉบับของ Ping Pong The Animation เป็น Manga เมื่อกลายสิบปีก่อน เขียนโดย Taiyō Matsumoto เมื่อปี 1996-1997 มีแค่ 5 เล่มเท่านั้น เรื่องราวเห็นว่าก็ไม่ต่างจากอนิเมะเท่าไหร่ ดัดแปลงมาโดยเคารพต้นฉบับมาก เคยเป็นหนังคนแสดงด้วยเรื่องหนึ่ง ยาว 114 นาที ฉายปี 2002 ผมเชื่อว่าคนที่ได้ดูจะสามารถย่อยเรื่องราวของอนิเมะเรื่องนี้ได้ง่ายกว่า Mind Game มาก แต่ในขณะเดียวกันก็มีจุดแฝงที่ลึกซึ้งน่าสนใจ ถ้าดูจบแล้วคิดต่อจะเห็นความเจ๋งบางอย่างของผู้กำกับคนนี้ เขามีสไตล์ของตัวเองที่ชัดเจนทีเดียว

ว่าไปถ้าใครตามดูอนิเมะซีรีย์อยู่ตลอด จะรู้สึกว่าช่วง 3-4 ปีให้หลังมานี่ แทบจะทุก seasons จะต้องมีอนิเมะแนว sport อย่างน้อย 1 เรื่อง ปีหนึ่งๆก็ 3-4 เรื่องขั้นต่ำ ตอนปี 2014 นั่น ผมรู้สึกว่า seasons ที่ฉาย Ping Pong The Animation จะมีอนิเมะ sport ถึง 4 เรื่องใน seasons เดียว จะเรียกว่าเป็น Trending หนึ่งก็ว่าได้ seasons ปัจจุบัน ณ ขณะนี้ก็มีฉายเรื่องหนึ่ง (Haikyu) สไตล์อนิเมะแนะ sport จะแทบคล้ายๆกันทั้งนั้น พระเอกเริ่มจากไม่เก่ง ไปแข่งระดับเขต ภาค จังหวัด ประเทศ ก็จะค่อยๆเก่งขึ้นเรื่อยๆ มีแพ้ มีชนะ มีสุข มีเศร้า เป็นสูตรสำเร็จที่เห็นบ่อย อนิเมะเรื่องนี้ก็ไม่ต่าง มีสูตรสำเร็จในด้านกีฬาอยู่ แต่อนิเมะชื่อ Ping Pong เรื่องราวจริงๆมันเหมือนการต่อสู้เพื่อเอาชนะตนเอง เพราะนี่ไม่ใช่กีฬาที่เล่นเป็นทีม ปิงปองมันเล่นคนเดียว ดังนั้นนักกีฬาจะเก่งไม่เก่ง มันอยู่ที่ตัวคนเล่น นี่เป็นจุดที่มีความคล้ายกับ Mind Game อย่างมาก คือการเอาชนะตัวเอง ผมถือว่านี่เป็นลายเซ็นต์ของผู้กำกับเลยนะครับ จุดนี้เด่นมากๆใน Mind Game และใน Ping Pong The Animation มันเป็นเรื่องราวที่สอดแทรกเข้ามา ขนาดว่าภาพใน op ที่ผมเกริ่นไว้ วิ่งไปให้สุดขอบฟ้า เป่าหมากฝรั่งให้แตก มันคือการทำให้ตัวเองหลุดจากข้อจำกัดที่มีอยู่ ผมจึงมองว่านี่เป็นอนิเมะแนว sport ที่แตกต่างอย่างมาก มีความเป็น Coming-of-Age ของตัวเอกที่ชัดเจนกว่าเรื่องไหนๆ และความเป็นศิลปะในระดับที่เหนือกว่าเรื่องอื่นๆ

คนดูจะโดนหลอกไปรอบหนึ่ง อนิเมะมี 2 ตัวละครที่เป็นตัวหลักของเรื่อง แต่ใครกันเป็นพระเอก หรือทั้งคู่เป็นพระเอก คำตอบของแต่ละคนอาจต่างกันไป สำหรับผมคนที่ชนะตอนจบคือพระเอก จะเรียกว่าแอบหักมุมก็ได้นะ เราจะเห็นพัฒนาการของตัวละครหนึ่งชัดเจนมากๆ แต่อีกตัวหนึ่งไม่เท่าไหร่ บทสรุปของสองตัวละครก็สะท้อนให้เห็นตั้งแต่ต้นเลย โดยเปรียบกับโค้ชของทั้งสองเลยก็ว่าได้ ประมาณว่า อะไรเคยเกิดขึ้นมาแล้ว ปัจจุบันรุ่นต่อไปก็มักเกิดเรื่องราวคล้ายๆกันอีก ถ้ามองแค่จุดนี้ก็จะถือว่ามีเนื้อเรื่องที่สอดคล้อง ลงตัว อย่างสมบูรณ์ทีเดียว

พากย์โดย Fukujūro Katayama เป็น Peco และ Kōki Uchiyama เป็น Smile สองคู่หูที่กว่าจะรู้ว่าใครเป็นพระเอกต้องดูจนจบเลย ผมชอบการพากย์ของทั้งสองคนนะ โดยเฉพาะ Katayama พากย์ Peco ได้แบบเบื่อหน่ายชีวิตมาก เข้ากับตัวละครโคตรๆ พอครึ่งหลังราวกับเสียงเปลี่ยน เพราะความคิดของตัวละครเปลี่ยนด้วย ส่วน Uchiyama นั้นคงเส้นคงวามากๆ เสียงพี่แกออกแนวเท่ห์ๆดี ก็แน่ละพี่แกพากย์ Yoshino ใน Zetsune no Tempest ด้วย ดัดเสียงให้เข้มๆนิดนึงแต่ก็ยังจำได้ว่าเป็นใคร

เพลงประกอบ ใช้บริการ Kensuke Ushio ของวง Lama (Japanese band) เป็นดนตรีแนว Electronic, pop rock ดนตรีของอนิเมะเรื่องนี้ถือว่าร่วมสมัยมาก เข้ากับเพลง op สุดๆเลย ความหนวกหู นักร้องแหกปากตะโกน เสียงกลองหนักๆ มันสื่อถึงชีวิตวัยรุ่นที่วุ่นวายสับสน ไม่รู้จะหาคำตอบอะไรให้กับตัวเอง ขณะที่เพลงปิด ed จะนุ่มนวลหน่อย แต่ก็ยังมีจังหวะที่ฟังแล้วสามารถหลุดทะลุเพดานได้ เป็นเพลงเกี่ยวกับความฝัน การต่อสู้ การฟันฝ่าอุปสรรคไปให้ถึงเป้าหมาย ไม่หลุด theme จริงๆ

ผมแนะนำอนิเมะเรื่องนี้ให้ทุกคนได้ดูนะครับ จุดเด่นมากๆคือเรื่องราว ภาพและเสียง เชื่อว่ามีคนจำนวนมากทนดูภาพแบบนี้ไม่ได้ แต่อยากให้มองมันเป็นศิลปะหน่อยนะครับ ดูไปสัก 2-3 ตอนก็จะชินและเชื่อว่าจะหลงรักเลย ใน seasons นั้นผมถือว่านี่เป็นอนิเมะที่ดีที่สุดเลย เสียดายมันสั้นไปหน่อย แต่ก็จบในเรื่องราวของมัน ไม่ต้องลุ้นว่าจะมีต่อนะครับไม่มีแน่ๆ จบแบบนี้แหละสมบูรณ์และคาดไม่ถึงแล้ว เป็นอนิเมะแนว sport ที่ไม่เหมือนใครดี และใครที่ชอบ Mind Game ห้ามพลาดอนิเมะเรื่องนี้เด็ดขาด ดูจบแล้วให้นั่งคิดสักนิด แล้วจะเห็นจุดที่เป็นเอกลักษณ์ของผู้กำกับชัดเจนมากๆ หวังว่า Masaaki Yuasa จะทำอะไรใหม่ๆออกมาอีกนะครับ

คำโปรย : “จากผู้กำกับ Mind Game, Masaaki Yuasa งานภาพสุดแนว เพลงสุดแหวก เรื่องราวที่เป็นการเอาชนะตัวเอง Ping Pong The Animation เป็นงานที่แสดงตัวตนของผู้กำกับชัดเจนมากๆ แฟนๆห้ามพลาดเลย ”
คุณภาพ : SUPERB
ความชอบLOVE

Leave a Reply

avatar

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

  Subscribe  
Notify of
%d bloggers like this: