
จุดเริ่มต้นของศัพท์แสลง ‘Gaslighting’ นำเสนอเรื่องราวของ Ingrid Bergman ถูกสามี Charles Boyer ควบคุมครอบงำ ทำการด้อยค่า หลอกปั่นหัว ให้ครุ่นคิดว่าตัวเองเป็นคนบ้า แต่แท้จริงแล้วมีจุดประสงค์อะไรซ่อนเร้น?
จุดเริ่มต้นของศัพท์แสลง ‘Gaslighting’ นำเสนอเรื่องราวของ Ingrid Bergman ถูกสามี Charles Boyer ควบคุมครอบงำ ทำการด้อยค่า หลอกปั่นหัว ให้ครุ่นคิดว่าตัวเองเป็นคนบ้า แต่แท้จริงแล้วมีจุดประสงค์อะไรซ่อนเร้น?
โรงแรมสุดหรูที่ Wes Anderson เพ้อรำพัน ฝันจินตนาการ ช่วงเวลาที่เขาเองไม่เคยพานผ่าน แต่ครุ่นคิดอยากเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์, คว้ารางวัล Silver Berlin Bear: Grand Jury Prize (ที่สอง) และอีก 4 รางวัล Oscar
วินาทีที่คุณหนูไฮโซ Kate Winslet ให้คำมั่นสัญญาหนีตามไอ้หนุ่มชนชั้นสาม Leonardo DiCaprio นั่นคือสิ่งที่สังคมสมัยนั้นยังไม่ให้การยินยอมรับ พอดิบพอดีกับเรือ RMS Titanic พุ่งชนภูเขาน้ำแข็งอย่างจัง กลายเป็นคำเรียก ‘ชู้รักเรือล่ม’ ไม่มีวันจมหายตามกาลเวลา
ขณะที่ Emma Thompson (ในบทคว้ารางวัล Oscar: Best Actress) สามารถให้อภัยชายคนรักจากความผิดพลาดทุกสิ่งอย่างในอดีต แต่ Anthony Hopkins กลับปฏิเสธยกโทษน้องสะใภ้ Helena Bonham Carter เพียงเพราะตั้งครรภ์โดยไม่รู้ใครเป็นพ่อของเด็ก, วรรณกรรมชิ้นเอกของ E. M. Forster สู่ภาพยนตร์มาสเตอร์พีซของ James Ivory
ดัดแปลงจากนวนิยายของ E. M. Forster (Howards End, A Passage to India) นำเสนอวิวทิวทัศน์แห่งความรัก ชักชวนเชื่อให้ตอบกลับความรู้สึกของหัวใจ แม้ขัดแย้งขนบสังคมประเทศอังกฤษก็ช่างหัวมันประไร แจ้งเกิดนักแสดงยังสาวสวย Helena Bonham Carter แถมด้วยบทบ้าๆบอๆของ Maggie Smith และ Daniel Day-Lewis
มหาตมา คานธี พยายามอย่างยิ่งจะใช้หลัก ‘อหิงสา’ ไม่เบียดเบียน ไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา แต่ท้ายสุดก็มิอาจเอาชนะสันดานธาตุแท้มนุษย์ ถูกเข่นฆาตกรรมโดยผู้มีความครุ่นคิดเห็นต่าง ปัจจุบันหลงเหลือเพียงตำนานลือเล่าขาน ค่อยๆถูกหลงลืมเลือนไปตามกาลเวลา, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
ต้นฉบับนวนิยาย Lost Horizon (1933) ให้กำเนิดสถานที่แห่งอุดมคติ แชงกรีล่า (Shangri-La) ดินแดนลึกลับสุดปลายขอบฟ้า หลบซ่อนท่ามกลางขุนเขาหิมาลัย ใครๆต่างใช้ชีวิตอย่างสุขสงบร่มเย็น มีความเพียงพอดี พึงพอใจในสิ่งที่มี มิต้องต่อสู้ดิ้นรนแข่งกับใคร แต่ใช่ว่าทุกคนจะอยากอยู่อาศัยยังสรวงสวรรค์แห่งนี้, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
Barry Lyndon (1975) : Stanley Kubrick ♥♥♥♥
แม้ภาพยนตร์อัตชีวประวัติ Napoléon Bonaparte จะล่มเหลวไม่เป็นท่า! แต่ผู้กำกับ Stanley Kubrick ยังคงมองหาโปรเจคที่มีพื้นหลังยุคสมัยใกล้เคียง ค้นพบนวนิยาย The Luck of Barry Lyndon (1844) พานผ่านสงครามเจ็ดปี (1756-63) เรื่องราวของชายหนุ่มพยายามทำทุกสิ่งอย่าง ไต่เต้าสู่จุดสูงสุดแห่งชีวิต แล้วครึ่งหลังกลับค่อยๆตกต่ำหวนกลับสู่สามัญ
Shakespeare in Love (1998) : John Madden ♥♥♥♡
ร่วมค้นหาแรงบันดาลของ William Shakespeare ในการสรรค์สร้างผลงานชิ้นเอกก้องโลก Romeo and Juliet เรื่องคุณภาพก็ใช่ว่าย่ำแย่เลวร้ายประการใด แต่การคว้า Oscar: Best Picture ตัดหน้า Saving Private Ryan, The Thin Red Line, Life Is Beautiful มันช่างน่าพิศวงเสียจริง!
Out of Africa (1985) : Sydney Pollack ♥♥♥♡
แม้ถูกจัดเป็นหนึ่งใน Worse Oscar: Best Picture แต่ความงดงามผืนแผ่นดิน East Africa การแสดงชั้นเลิศของ Meryl Streep และเพลงประกอบสุดฟินโดย John Barry จักทำให้คุณอิ่มหนำสุขสำราญ แม้ด้วยความอืดอาดเชื่องช้า 161 นาที
Gigi (1958) : Vincente Minnelli ♥♥
กวาดเรียบ 9 รางวัล Oscar รวมถึงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี สูงเป็นสถิติแต่ตกต่ำสุดด้านศีลธรรมมโนธรรม, Leslie Caron รับบทลูกสาวโสเภณี ได้รับการเสี้ยมสั่งสอนวิธีเกาะกินผู้ชาย ทีแรกพยายามดิ้นรนขัดขืนแต่สุดท้ายข้ออ้างเพราะรัก อยากจะทำอะไรกับฉันก็ยินยอม
Cavalcade (1933) : Frank Lloyd ♥♥♥
อีกหนึ่ง Worse Oscar: Best Picture นำเสนอครอบครัวชาวอังกฤษ มีชีวิตพานผ่านวันสิ้นปี 1899 จนถึงปีใหม่ 1933, พบเห็นสงคราม Second Boer War (1899-1902), การสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย (22 มกราคม 1901), เรือไททานิคล่ม (14 เมษายน 1912) และสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (1914-18)
Cimarron (1931) : Wesley Ruggles ♥♥♥
ถึงถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน Worse Oscar: Best Picture แต่การได้พบเห็นประวัติศาสตร์ วิวัฒนาการรัฐ Oklahoma ตั้งแต่เริ่มต้นบุกเบิก 1889 จนถึงปี 1929 ช่างอลังการงานสร้างยิ่งนัก
มหา’ลัย เหมืองแร่ (พ.ศ. ๒๕๔๘) : จิระ มะลิกุล ♥♥♥♡
ณ จุดตกต่ำสุดในชีวิตของ อาจินต์ ปัญจพรรค์ สอบตกโดนรีไทร์ เที่ยวเตร่สำมะเลเทเมา เลยถูกพ่อส่งไปทำงานกรรมกรเหมืองแร่ อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา เรียนรู้จักความยากลำบาก เหน็ดเหนื่อยสายตัวแทบขาด กลายเป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า มากยิ่งกว่าการศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
ผีเสื้อและดอกไม้ (พ.ศ. ๒๕๒๘) : ยุทธนา มุกดาสนิท ♥♥♥♥
ผีเสื้อและดอกไม้ เป็นสิ่งเคียงคู่เกื้อหนุนพึ่งพากันและกันอย่างขาดไม่ได้ เฉกเช่นเดียวกับมนุษย์ชาย-หญิง ฮูยัน-มิมปี แม้เติบโตขึ้นบนโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากลำบาก แต่ชีวิตก็ยังมีสิ่งสวยงามให้เชยชม, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
The Sting (1973) : George Roy Hill ♥♥♥♥♡
มาร่วมกันถูกต้มตุ๋นไปกับสองคู่หู Paul Newman & Robert Redford ในโคตรหนัง 7 รางวัล Oscar รวมถึงภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ทำเงินสูงสุดแห่งปี พื้นหลังเมือง Chicago ทศวรรษ 30s เสื้อผ้าวินเทจย้อนยุค และเพลงประกอบ Ragtime สุดคลาสสิก, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
๒๔๙๙ อันธพาลครองเมือง (พ.ศ. ๒๕๔๐) : นนทรีย์ นิมิบุตร ♥♥♥♡
มันคือปัจจัยแวดล้อมของประเทศไทย พ.ศ. นั้น หรือเพราะโชคชะตากรรมกันแน่ ที่ทำให้แดง ไบเล่, แหลมสิงห์, เปี๊ยก วิสุทธิ์กษัตริย์ กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตแค้น เจอหน้าต้องฆ่าให้ตายกับปุ๊ ระเบิดขวด และดำ เอสโซ่, สำหรับคนไทย “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
Amadeus (1984) : Miloš Forman ♥♥♥♥♡
เรื่องราวชีวประวัติของคีตกวีอัจฉริยะก้องโลก Wolfgang Amadeus Mozart คงไร้ซึ่งความน่าสนใจใดๆหากปราศจากศัตรูคู่อาฆาต Antonio Salieri ที่ถือเป็นคีตกวีชื่อดังแห่งยุคนั้น แต่กาลเวลามิเคยจารึกจดจำไว้ในประวัติศาสตร์ เบื้องหน้าทั้งสองคือมิตรสหายเพื่อนร่วมงานพึ่งพากันได้ แต่ลึกๆแล้ว Salieri จงเกลียดจงชัง Mozart เข้ากระดูกดำ, เข้าชิง Oscar 11 สาขา คว้ามา 8 รางวัล รวมถึงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
A Streetcar Named Desire (1951) : Elia Kazan ♥♥♥♥
Vivien Leigh ขึ้นรถรางมุ่งสู่ตรอกซอยแห่งราคะ พบเจอ Marlon Brando ในคราบของสัตว์ป่าดิบเถื่อน ที่มองเห็นตัวตนแท้จริงของกันและกัน ระเบิดความโกรธเกลียดเคียดแค้นอย่างรุนแรงสมจริง ด้วยเทคนิค Method Acting ครั้งแรกของวงการภาพยนตร์
Lincoln (2012) : Steven Spielberg ♥♥♥♥
ไม่ใช่แค่การแสดงของ Daniel Day-Lewis ในบท Abraham Lincoln ที่สมบูรณ์แบบ แต่ทั้งโปรดักชั่นที่ Steven Spielberg ทุ่มเทเพาะบ่มมาตั้งแต่ปี 1999 สวยงามทรงพลังไร้ที่ติ, นำเสนอช่วงเวลาของการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่สิบสาม ห้ามการมีและซื้อขายทาสตลอดไป ในทุกๆพื้นที่ภายใต้การปกครองของสหรัฐอเมริกา, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”