Without Limits (1998)
: Robert Towne ♥♥♡
(mini Review) หนังชีวประวัติของ Steve Prefontaine ที่สร้างปีติดๆกัน เน้นนำเสนอเรื่องราวชีวิตส่วนตัวและความสัมพันธ์กับโค้ช Bill Bowerman ที่ภายหลังกลายเป็นผู้ร่วมก่อตั้งรองเท้าแบรนด์ดัง Nike, ส่วนตัวผมชอบ Prefontaine (1997) มากกว่า แต่ถ้าคุณชื่นชอบแนวทางของผู้กำกับ Robert Towne และสนใจเรื่องราวส่วนตัวของ Prefontaine มากกว่า แนะนำให้ดูหนังเรื่องนี้แทน
ขอเตือนไว้สำหรับคนที่คิดจะดู Prefontaine (1997) และ Without Limits (1998) สองเรื่องติดๆกัน ว่าเป็นสิ่งที่ไม่คุ้มจะทำ เพราะใจความของทั้งสองเรื่องเหมือนกันแทบจะเปะๆ ต่างกันแค่ ‘การตีความ’ และวิธีการนำเสนอเท่านั้น ถ้าดูต่อกันมันเหมือนที่ผมทำ จะรู้สึกเสียดายเวลามากๆ ถ้าคุณไม่ชื่นชอบในตัว Steve Prefontaine จริงๆ ก็ไม่รู้จะดูซ้ำไปเพื่ออะไรนะครับ
Robert Towne หลังจากผลงาน debut เรื่อง Personal Best (1982) ก็ไม่ได้มีโอกาสกำกับหนังเสียเท่าไหร่ ส่วนใหญ่รับงานเป็นนักเขียนบท ก่อนหน้านี้เคยได้รับการติดต่อจาก Kenny Moore เพื่อนของ Prefontaine ที่อยากให้เขาทำหนังชีวประวัติเรื่องนี้ แต่ตอนนั้น Towne ติดงานอื่นอยู่ จึงพับโปรเจคไปก่อน ภายหลังเมื่อว่างจึงเริ่มต้นศึกษาค้นคว้าเตรียมงานอย่างจริงจัง, Towne ได้พบกับ Mary Marckx อดีตแฟนสาวของ Predontaine ซึ่งเธอได้ส่งจดหมายส่วนตัว 200 ฉบับที่ Pre ส่งให้เธอ เพื่อให้เขาใช้อ้างอิงในการเขียนบท
หนังได้ทุนสร้างจาก Warner Bros. และ Cruise/Wagner Productions ของ Tom Cruise, Towne เคยได้ร่วมงานเป็นคนเขียนบทให้หนังเรื่อง Mission Impossible ซึ่งเมื่อ Cruise ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับ Prefontaine ก็เกิดความสนใจ ทีแรกตั้งใจจะรับบทนำด้วย แต่เพราะอายุมากเกินไปหน่อย จึงเข้ามาเป็นโปรดิวเซอร์ให้
นำแสดงโดย Billy Crudup รับบท Steve Prefontaine, สำหรับ Pre เวอร์ชั่นนี้อาจจะไม่ได้ดูใกล้เคียงกับตัวจริงเท่าไหร่ Crudup ก็ไม่ได้มีความทุ่มเทระดับเดียวกับ Jared Leto แต่เขามีเคมีที่สามารถรับส่งเข้าขากับ Bowerman โค้ชคนสำคัญของ Pre ได้เป็นอย่างดี, หนังเรื่องนี้ Bill Bowerman เด่นมากๆ Cruise เคยไปทาบทาม Tommy Lee Jones, Harrison Ford และ Clint Eastwood แต่ไม่มีใครตอบตกลง สุดท้ายจึงตกเป็นของ Donald Sutherland ที่ถือว่าเล่นดีมากๆ (ขนาดเข้าชิง Golden Globe Award สาขา Best Supporting Actor), Bowerman เป็นทั้งเพื่อนที่ให้การสนับสนุน และเหมือนพ่อที่ให้คำแนะนำ ว่าไปหนังเรื่องนี้มีคำพูดเด็ดๆออกมาจากปากเขา มากกว่าที่ออกมาจากปาก Pre เสียอีกนะครับ
ถ่ายภาพโดย Conrad L. Hall
ตัดต่อโดย Charles Ireland, Robert K. Lambert, Claire Simpson
เพลงประกอบโดย Randy Miller
มีช่วงหนึ่งที่ผมค่อนข้างชอบ คือขณะแข่งคัดตัวไปโอลิมปิก ตอนวิ่งแข่งจะมีเสียงติกๆของนาฬิกาดังขึ้นขณะแข่ง ให้ความรู้สึกเหมือนช่วงเวลาแห่งชัยชนะเข้าใกล้เข้ามา หรือใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของการรอคอย, หนังใช้การถ่ายภาพผ่าน TV หลายครั้ง และขณะแข่งมักใช้วงดนตรี Pop, Rock ประกอบ, ในแง่เทคนิค ว่ากันตามตรง Without Limits มีดีกว่า Prefontaine (1997) อยู่นิดหน่อย และการเล่าเรื่องที่เข้าใจง่าย ตรงไปตรงมากว่า กระนั้นเมื่อเทียบกับ Personal Best (1982) ผลงานก่อนหน้าของ Towne ที่เป็นแนวกีฬาเหมือนกัน ถือว่าผิดฟอร์มอย่างมาก เรื่องนั้นสุดยอดในแทบทุกด้าน แถมแฝงแนวคิดเจ๋งๆไว้ด้วย ขณะที่หนังเรื่องนี้ค่อนข้างตรงไปตรงมา และไม่มีอะไรในกอไผ่แม้แต่น้อย, การมีหนังเรื่องราวเดียวกันที่สร้างขึ้นก่อนให้เปรียบเทียบ จะดูรู้เลยว่า Towne พยายามหลีกเลี่ยงทุกอย่างที่เป็น Prefontaine (1997) ไม่ให้เหมือนกันหรือเปลี่ยนนิดหน่อย ซึ่งอาจรวมถึงความถูกต้องและลำดับของเนื้อหาด้วย นี่ทำให้ผมสงสัยว่า ‘ทำไมผู้กำกับถึงดื้อรั้นเหลือเกินที่จะทำหนังเรื่องนี้?’ มันต้องมีอะไรมากกว่าที่เราเห็นแน่ๆ
ใน Boxoffice ทั้ง Prefontaine (1997) และ Without Limits (1998) ถือว่า ล้มเหลวแบบสิ้นเชิง ทำเงินไม่ถึง $1 ล้านเหรียญทั้งคู่ ทั้งๆที่ทุนสร้างสูงถึง $20-$30 ล้านเหรียญ
ส่วนตัวแล้ว ผมชอบ Prefontaine (1997) มากกว่านะครับ เพราะมีอะไรหลายอย่างที่น่าจดจำ และทำให้เราเข้าใจว่า ทำไม Pre ถึงกลายเป็นบุคคลผู้ได้รับการกล่าวถึง ส่วน Without Limits เน้นนำเสนอเรื่องราวชีวประวัติ ที่เป็นเรื่องส่วนตัวเสียมาก, Steve Prefontaine สาเหตุที่เขากลายเป็นคนสำคัญ เพราะภาพลักษณ์ ทัศนคติ แนวคิดที่มีต่อสาธารณชน เรื่องราวส่วนตัวของเขาจึงดูน่าสนใจน้อยกว่า อะไรที่ทำให้เขาโด่งดัง ดังคำที่ Roger Ebert ตบท้ายในบทความรีวิวว่า ‘Prefontaine is more interesting as a public figure than a private one.’
จัดเรต 13+ กับ love scene และความรุนแรง
Leave a Reply