แม้ว่า René Clair จะไม่ค่อยเห็นด้วยต่อการมาถึงของหนังพูด (Talkie) แต่ก็ได้ทดลองผิดลองถูกกับ Under the Roofs of Paris (1930) ใช้ประโยชน์จากเสียงและความเงียบได้อย่างโคตรๆสร้างสรรค์ น่าเสียดายคุณภาพถดถอยตามกาลเวลา
ป้ายกำกับ: Semi-Silent film
The Triplets of Belleville (2003)
The Triplets of Belleville (2003) : Sylvain Chomet ♥♥♥♥♡
กาลเวลาทำให้มุมมองต่อโลกของมนุษย์เปลี่ยนไป จากอดีตเคยหรรษาสุขสันต์ ปัจจุบันบวมบิดเบี้ยวผิดรูปร่าง เป็นวิวัฒนาการที่ต่อให้ซิ่งจักรยานเร็วแค่ไหนก็ยังติดตามแทบไม่ทัน แถมใครมัวเชื่องช้าล้าหลังหมดเรี่ยวแรง จักถูกฉุดคร่าลักพาสู่มุมมืดมิดของโลก ซึ่งถ้าจะเอาตัวรอดจากนรกขุมนี้ ต้องรีบเร่งปั่นขึ้นเนินเขา ประสบความสำเร็จถึงจุดสูงสุดเมื่อไหร่ก็ไม่มีอะไรต้องหวาดกลัว
Vampyr (1932)
Vampyr (1932) : Carl Theodor Dreyer ♥♥♥♥
ทั้งๆที่ฟุตเทจบางส่วนขาดหาย แต่กลับมีความสมบูรณ์แบบยิ่งใหญ่กว่า Nosferatu (1922) และ Dracula (1931) รวมกันเสียอีก โดยผู้กำกับ The Passion of Joan of Arc (1928) ลักษณะกึ่งหนังเงียบ สไตล์ Minimalist กอปรกับงานภาพหลอนๆ เพลงประกอบน่าสะพรึง ทั้งหมดนี้เพื่อให้เกิดบรรยากาศขนลุกขนพอง เงาแวมไพร์น่ากลัวกว่าตัวจริงเสียอีก!
The Jazz Singer (1927) hollywood : Alan Crosland ♥♥♡
คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่า The Jazz Singer คือหนังพูด (Talkie) เรื่องแรกของโลก จริงๆแล้วไม่ใช่นะครับ, นี่ไม่ใช่หนังที่มีเสียงเรื่องแรกของโลก, ไม่ใช่หนังที่มีการบันทึกเสียงพูดให้ตรงกับปากเรื่องแรกของโลก, แต่คือหนัง Hollywood ขนาดยาว (Feature-Length) ที่มีการบันทึกบทสนทนาให้ตรงกับปาก เรื่องแรกของโลก
The Scarlet Empress (1934)
เรื่องราวกึ่งชีวประวัติ จักรพรรดินีแคทเธอรีนที่ 2 แห่งรัสเซีย (Catherine the Great) ตั้งแต่อภิเสกสมรสจนขึ้นครองราชสมบัติ ประทับอยู่พระราชวังเต็มไปด้วยรูปปั้น สัตว์ประหลาดหน้าตาอัปลักษณ์ และเรื่องราวความรักที่สุดแสนสัปดล จนสามารถเรียกได้ว่า Gothic Masterpiece