
นักเชิดหุ่น จับพลัดจับพลูมุดลงรูโพรงกระต่าย สวมวิญญาณ อวตาร เข้าไปในร่าง John Malkovich, เทพนิยายผู้ใหญ่ที่มีความเหนือจริง ตั้งคำถามชวนสัปดนเกี่ยวกับความรู้อยากเห็น อยากเป็นบุคคลอื่น จนสูญเสียความเป็นตัวของตนเอง
นักเชิดหุ่น จับพลัดจับพลูมุดลงรูโพรงกระต่าย สวมวิญญาณ อวตาร เข้าไปในร่าง John Malkovich, เทพนิยายผู้ใหญ่ที่มีความเหนือจริง ตั้งคำถามชวนสัปดนเกี่ยวกับความรู้อยากเห็น อยากเป็นบุคคลอื่น จนสูญเสียความเป็นตัวของตนเอง
ชีวิตสามศตวรรษของ Orlando พบเห็นความเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่สิ่งน่าสนใจที่สุดคือบทบาททางทางเพศในสังคมผู้ดีอังกฤษ เมื่อชายกลับกลายเป็นหญิง รับบทโดยนักแสดงคนเดียว Tilda Swinton (เล่นเป็นทั้งชายและหญิง) งดงาม ท้าทาย แต่อาจต้องปีนป่ายบันไดสูงสักหน่อย
สร้างใหม่จาก A Guy Named Joe (1943) หนึ่งในแรงบันดาลใจ Steven Spielberg ให้อยากเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ นำเสนอเรื่องราวความเชื่อว่าเมื่อคนรักตายจากไป อีกฝ่ายจะกลายเป็นวิญญาณ ยังคงล่องลอยอยู่เคียงข้าง ‘ตลอดไป’
อนาคตอันใกล้ ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นได้กลายเป็นสกุลเงินเข้มแข็งที่สุดในโลก นำพาผู้อพยพลักลอบเข้ามาทำงานผิดกฎหมายมากมาย พวกเขาตั้งชื่อเล่นเมืองแห่งนี้ว่า Yentown (円都, en to) แต่ชาวญี่ปุ่นกลับเรียกหัวขโมยเหล่านี้ว่า Yen Thieves หรือ Yentowns (円盗, en tou), นี่คือผลงาน Masterpiece ของผู้กำกับ Shuji Iwai
พระราชาให้คำมั่นสัญญาต่อราชินีผู้ล่วงลับ จะอภิเสกสมรสใหม่เฉพาะกับหญิงสาวเลิศเลอโฉมกว่า แต่ทั่วหล้ากลับมีเพียงพระธิดาของพระองค์เอง เจ้าหญิงจึงต้องปรึกษานางฟ้าแม่ทูนหัว แนะนำให้ปลอมตัวสวมหนังลา (Donkey Skin) แล้วหาหนทางหลบหนีออกจากพระราชวัง
คณะพันธมิตร(แห่งแหวน) จาริกแสวงบุญมุ่งสู่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ คาดหวังจะโจรกรรมองค์ความรู้ที่ทำให้กลายเป็นอมตะ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้กลับมีลักษณะชวนเชื่อ (Propaganda) ชี้นำเข้าสู่ลัทธินอกรีต (Cults) ก่อนทรยศหักหลังผู้ชมให้ต้องหวนกลับสู่โลกความจริง
Okko เด็กหญิงวัย 12 ขวบ สูญเสียครอบครัวจากอุบัติเหตุบนท้องถนน จำต้องมาอาศัยอยู่กับคุณย่าดูแลโรงแรมเล็กๆแห่งหนึ่ง เพราะไม่มีทางเลือกอื่นเธอจึงกลายเป็นผู้จัดการรุ่นเยาว์ ค่อยๆเรียนรู้ เติบโต ก้าวข้ามผ่านความทรงจำอันเลวร้าย
เด็กสาวเงือก Lu มาพร้อมรอยยิ้มและภยันตราย เมื่อได้ยินเสียงจังหวะดนตรี ครีบหางของเธอสามารถสลับสับเปลี่ยนเป็นขาสองข้าง (Merfolk) พอถูกมนุษย์พบเห็นเลยกลายเป็นศูนย์กลางความสนใจ ถูกใช้กอบโกยผลประโยชน์โดยไม่สนอะไร และเมื่อเกิดเหตุร้ายๆก็พร้อมขับไล่ผลักไสส่งอย่างไร้เยื่อใย … ทำไมพล็อตเรื่องมันเฉิ่มเชยขนาดนี้!
จากความตั้งใจให้เป็นอนิเมะสะท้อนวิกฤตการณ์ภาวะโลกร้อน แต่การตัดสินใจของ Hodaka กลับบอกช่างแม้ง ต่อให้น้ำท่วมโลกฉันก็ยังจะรักเธอ … เอิ่ม?
ผู้กำกับ Mamoru Hosoda พยายามครุ่นคิดแทนลูกชายวัย 4 ขวบ ทำไมถึงแสดงพฤติกรรมขี้อิจฉาต่อน้องสาวเพิ่งคลอด แต่แทนที่จะนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาสำหรับผู้ใหญ่ กลับเสี้ยมสั่งสอนมโนธรรมต่อเด็กอายุแค่นั้นเนี่ยนะ!
Hayao Miyazaki ตัดสินใจกำกับ Howl’s Moving Castle เมื่อตอนอายุก้าวผ่าน 60 ปี แม้ร่างกายเริ่มแห้งเหี่ยว พละกำลังโรยรา ทรงผมขาวหงอกโพลนทั่วศีรษะ แต่จิตใจยังคงหนุ่มแน่น แข็งขัน มากด้วยประสบการณ์ และความคิดสร้างสรรค์ พร้อมเป็นพลังขับเคลื่อนปราสาท Ghibli ให้โบยบินบนฟากฟ้าชั่วนิรันดร์
เกาะลอยฟ้า Laputa ดินแดนราวกับสรวงสวรรค์ สถานที่อุดมคติเมื่อเทคโนโลยีและธรรมชาติสามารถธำรงอยู่ร่วมกัน แต่การมาถึงของมนุษย์ไม่ว่าฝั่งฝ่ายไหน ล้วนต้องการที่จะครอบครอง แสวงหาพลังอำนาจ เพื่อทำลายล้างทุกสิ่งอย่าง, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
เด็กหญิงพยายามปกป้อง ‘ไข่’ ของรักของหวง ราวกับลูกในครรภ์ แต่การมาถึงของชายคนหนึ่ง ชักชวนให้ครุ่นคิดตั้งคำถาม สิ่งมีค่าข้างในนั้นคืออะไร? ซึ่งวินาทีที่เขาตัดสินใจทุบทำลาย ความเชื่อมั่น ศรัทธาต่อพระเจ้า ของผู้กำกับ Mamoru Oshii ก็พลันสูญสิ้นไป
เพี้ยนมาจากคำอ่านออกเสียง Tekkin Konkurito แปลว่า Steel-Reinforced Concrete, คอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งเป็นการสื่อถึงเมือง Takaramachi (แปลว่า Treasure Town) ป่าคอนกรีตที่เด็กชายสองคน Black & White ใช้ชีวิตอาศัย ต่อสู้ดิ้นรน บนความเปลี่ยนแปลงวิถีโลก
เรื่องราวโรแมนติก แฟนตาซี ชวนหัว ที่มีกลิ่นอาย ‘Lubitsch’s Touch’ อยู่เล็กๆ, ชายหนุ่มทายาทมหาเศรษฐีพยายามหลบหนีการแต่งงาน ถูกเสี้ยมสอนจากคณะบาทหลวงให้สมรสกับหุ่น (Die Puppe) สร้างโดยนักประดิษฐ์ชื่อดังที่ผลงานมีความสมจริงอย่างมาก แต่ด้วยความจับพลัดจับพลูบางอย่าง หุ่นสาวตนนั้นกลับดันมีชีวิตขึ้นมา!
ต้นฉบับนวนิยาย Lost Horizon (1933) ให้กำเนิดสถานที่แห่งอุดมคติ แชงกรีล่า (Shangri-La) ดินแดนลึกลับสุดปลายขอบฟ้า หลบซ่อนท่ามกลางขุนเขาหิมาลัย ใครๆต่างใช้ชีวิตอย่างสุขสงบร่มเย็น มีความเพียงพอดี พึงพอใจในสิ่งที่มี มิต้องต่อสู้ดิ้นรนแข่งกับใคร แต่ใช่ว่าทุกคนจะอยากอยู่อาศัยยังสรวงสวรรค์แห่งนี้, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
มหากาพย์แฟนตาซี Nibelungenlied เกี่ยวกับการเดินทางของนักฆ่ามังกร Siegfried ตกหลุมรักครองคู่สาวงาม Kriemhild แล้วกลับถูกพี่เขย/พี่ร่วมสาบาน King Gunther ทรยศหักหลักเข่นฆ่าตกตาย เพื่อจะได้มีโอกาสแก้แค้นคืนให้คนรัก เธอยินยอมกระทั่งแต่งงานใหม่กับ King Etzel ผู้มีหน้าตาอัปลักษณ์ นิสัยป่าเถื่อนดุร้าย
ชุมชนชาวยิวช่วงปลายศตวรรษที่ 16th ด้วยความหวาดกลัวการกวาดล้างเชื้อชาติพันธุ์ของจักรวรรดิโรมัน จีงกระทำการชุบชีวิต The Golem มนุษย์ดินปั้นที่มีพละกำลัง ความแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ แต่เจ้าสิ่งนี้ไม่เพียงสร้างคุณานุคุณ ยังบังก่อเกิดหายนะร้ายแรง, ภาพยนตร์ที่ถือเป็น ‘Landmark’ แห่งยุคสมัย German Expressionism
ภาพยนตร์ที่ถือเป็นพินัยกรรม/คำสั่งเสียทิ้งท้ายของผู้กำกับ Jean Cocteau พยายามใช้คำพูดอธิบายความแนวความคิด โลกทัศนคติของตัวตนเอง ปิดฉากตำนานที่อาจไม่น่าพีงพอใจนัก แต่ก็แล้วแต่ผู้ชมจะครุ่นคิดรู้สีกเช่นไร
ผู้กำกับ Jean Cocteau นำเทพนิยายกรีก Orpheus มากระทำการปู้ยี้ปู้ยำ ตีความใหม่ ดำเนินเรื่องในยุคสมัยปัจจุบัน(นั้น) ณ กรุง Paris สอดไส้แนวคิดทัศนคติส่วนตน ตื่นตระการตาด้วยลูกเล่น ‘มายากล’ ราวกับหลุดเข้าไปยังโลกแห่งความเพ้อฝัน แฟนตาซี ชีวิตและความตาย