Sight & Sound: Director’s Poll 2012
จัดอันดับหนังจากนิตยสาร Sight & Sound โหวตโดยผู้กำกับชื่อดังเมื่อปี 2012
- Tokyo Story (1953)
: Yasujirō Ozu ♠♠♠♠♠
Tokyo Story ไม่ใช่แค่จิตวิญญาณชาวญี่ปุ่น ชนชาติเอเชีย แต่ยังคือภาพยนตร์ทรงคุณค่าระดับโลก - 2001: A Space Odyssey (1968) : Stanley Kubrick
“2001 A Space Odyssey หนัง Sci-fi แห่งมวลมนุษย์ชาติ ที่ยอดเยี่ยม ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” - (=2) Citizen Kane (1941) : Orson Welles
“Citizen Kane หนังแนวทดลองที่ได้ชื่อว่าเป็นหนังสือเรียนของวิชาภาพยนตร์ ด้วยผลงานแสดงและกำกับโดยชายอัจฉริยะ Orson Welles ดูให้ได้ก่อนตาย นี่คือหนังที่สมบูรณ์ทุกองค์ประกอบเรื่องของโลก” - 8 1/2 (1963)
: Federico Fellini ♠♠♠♠♠
“8½ คือการออกเดินทางสู่จักรวาลอันไร้ขอบเขตพรมแดน ของผู้กำกับ Federico Fellini” - Taxi Driver (1976)
: Martin Scorsese ♥♥♥♥
“Taxi Driver คือจิตวิญญาณที่ล่องลอยของ Martin Scorsese และ Robert De Niro จนกลายเป็นความบ้าคลั่ง สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ” - Apocalypse Now (1979)
: Francis Ford Coppola ♥♥♥♥♡
“Apocalypse Now คือชัยชนะของผู้กำกับ Francis Ford Coppola ต่อวันโลกาวินาศ” - Vertigo (1958)
: Alfred Hitchcock ♥♥♥♥
“Vertigo มีความหลงใหล คลั่งไคล้ คิดครอบงำ คือความลึกล้ำของ Alfred Hitchcock ที่ต้องใช้การเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์” - (=7) The Godfather (1972)
: Francis Ford Coppola ♥♥♥♥♡
“The Godfather คือพ่อทูนหัวของวงการภาพยนตร์” - The Mirror (1975)
: Andrei Tarkovsky ♥♥♥
“The Mirror กระจกสะท้อนชีวิตของผู้กำกับ Andrei Tarkovsky เขาไม่ได้อยากให้ใครเห็น จึงวางกลไกไว้อย่างลึกซึ้ง มีแต่ผู้ถูกเลือกเท่านั้นที่จะเข้าไปถึงได้” - Bicycle Thieves (1948)
: Vittorio De Sica ♥♥♥♥♡
“Bicycle Thieves ของ Vittorio De Sica ได้ขโมย 2 อย่าง จักรยาน และหัวใจของผู้ชม” - Breathless (1960)
: Jean-Luc Godard ♥♥♡
“Breathless ของ Jean-Luc Godard จะทำให้คุณหยุดหายใจ เพราะขาดอาการหายใจ” - Raging Bull (1980)
: Martin Scorsese ♠♠♠♠♠
“Raging Bull ชีวิตต้องเอาหัวพุ่งชนเหมือนกระทิง ภาพยนตร์อัตชีวประวัติของทั้งนักมวย Jack LaMotta ผู้กำกับ Martin Scorsese และนักแสดงนำ Robert De Niro” - Persona (1966)
: Ingmar Bergman ♥♥♥♥♡
“Persona คือกระจกสองด้านในชีวิตและการงานของ Ingmar Bergman ที่สะท้อนข้างหนึ่งคือ Bibi Andersson และอีกข้างคือ Liv Ullmann” - (=13) Les Quatre Cents Coups (1959)
: François Truffaut ♥♥♥♥
François Truffaut สรรค์สร้าง Les Quatre Cents Coups ด้วยการเปิดโลกทัศน์ใหม่ให้กับวงการภาพยนตร์ - (=13) Andrei Rublev (1966)
: Andrei Tarkovsky ♥♥♥♥♡
ผู้กำกับ Andrei Tarkovsky ระบายภาพจิตรกรเอกชาวรัสเซีย Andrei Rublev ได้อย่างงดงาม ทรงคุณค่า จนกลายเป็นจิตวิญญาณของตนเอง - Fanny and Alexander (1982)
: Ingmar Bergman ♥♥♥♥
“Fanny and Alexander คือโลกทั้งใบของผู้กำกับ Ingmar Bergman” - Seven Samurai (1954) : Japan – Akira Kurosawa
“Seven Samurai หนังของ Akira Kurosawa นำแสดงโดย Toshiro Mifune และ Takashi Shimura นี่คือหนัง Epic ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ห้ามตายก่อนได้ดูหนังเรื่องนี้เด็ดขาด!” - Rashomon (1950) : Japan – Akira Kurosawa
“Rashomon เป็นหนังที่มีการเล่าเรื่องเดียวกัน แบบต่างมุมมองที่ยอดเยี่ยมมากๆ ทั้งงานภาพ ศิลป์ เพลงประกอบ กำกับโดย Akira Kurosawa นำแสดงโดย Toshiro Mifune แต่นี่ไม่ใช่หนังที่ทุกคนจะดูแล้วเข้าใจได้” - Barry Lyndon (1975)
: Stanley Kubrick ♥♥♥♥
ผู้กำกับ Stanley Kubrick วาดภาพระบายสี Barry Lyndon ออกมางดงามระดับวิจิตรศิลป์ - (=20) Ordet (1955)
: Carl Theodor Dreyer ♠♠♠♠♠
“Ordet ของ Carl Theodor Dreyer คือหนังพิสูจน์ศรัทธาสุดยิ่งใหญ่ ของผู้นับถือพระเจ้า เท่านั้น!” - Au Hasard Balthazar (1966)
: Robert Bresson ♥♥♥
“Au Hasard Balthazar คือความสมบูรณ์แบบในไดเรคชั่นของผู้กำกับ Robert Bresson แต่เป็นจุดตกต่ำสุดของมวลมนุษยชาติ” - Modern Times (1936)
: Charlie Chaplin ♥♥♥♥♡
Modern Times คือการทิ้งทายและค่อยๆปรับตัวของ Charlie Chaplin สู่โลกยุคสมัยใหม่ - (=22) L’Atalante (1934)
: Jean Vigo ♥♥♥♥♡
“L’Atlante คือภาพยนตร์แห่งการเดินทางของความรักและชีวิตของผู้กำกับ Jean Vigo ที่มีความสวยงามที่สุดในโลก” - (=22) Sunrise: A Song of Two Humans (1927)
: F. W. Murnau ♥♥♥♥♡
“Sunrise: A Song of Two Humans คือหนังเงียบที่มีความไพเราะที่สุด” - (=22) The Rules of the Game (1939)
: Jean Renoir ♠♠♠♠♠
“The Rules of the Game ของผู้กำกับ Jean Renoir ได้จำลองสร้างโลกทั้งใบ และบัญญัติกฎของการอาศัยอยู่” - Touch of Evil (1958)
: Orson Welles ♥♥♥♥
“Touch of Evil เป็นจดหมายสั่งลา hollywood ของ Orson Welles ที่มี Charlton Heston เล่นเป็น Mexican” - (=26) The Night of the Hunter (1955)
: Charles Laughton ♥♥♥♥♡
“The Night of the Hunter คือนิทานก่อนนอนชั้นเลิศ สอนเด็กๆได้สาระ สอนผู้ใหญ่ได้ปัญญา สะท้อนเรื่องราวทางสังคมได้ทุกระดับ” - (=26) The Battle of Algiers (1966) : Italy – Gillo Pontecorvo
“The Battle of Algiers อีกหนึ่งสุดยอดหนังโดยผู้กำกับ Gillo Pontecorvo และเพลงประกอบโดย Ennio Morricone นี่คือหนังต้นแบบของการต่อสู้สงครามแบบ Guerrilla ที่มีอิทธิพลต่อผู้ก่อการร้ายทั่วโลก” - (=26) La Strada (1954)
: Federico Fellini ♥♥♥♥♡
“La Strada คือเหตุผลการมีตัวตนของผู้กำกับ Federico Fellini มี Anthony Quinn กับ Giulietta Masina เป็นตัวตายตัวแทนได้อย่างซาบซึ้งกินใจที่สุดแล้ว” - Stalker (1979)
: Andrei Tarkovsky ♥♥♥♥
Stalker การนำทางเพื่อพิสูจน์ศรัทธาของผู้กำกับ Andrei Tarkovsky มีความลุ่มลึกตราตรึงยิ่ง - (=30) City Lights (1931)
: Charlie Chaplin ♥♥♥♥♥
City Lights คือความเจิดจรัสจร้าที่สาดส่องออกมาจากจิตวิญญาณของ Charlie Chaplin - (=30) L’Avventura (1960)
: Michelangelo Antonioni ♥♥♥♥♡
“L’Avventura ชีวิตคือการเดินทาง เป้าหมายคืออะไร Michelangelo Antonioni ก็ตอบไม่ได้ เลยทิ้งปริศนาไว้ ให้ผู้ชมคิดวิเคราะห์ค้นหาเอง” - (=30) Amarcord (1973)
: Federico Fellini ♥♥♥♥♡
เศษเสี้ยวความทรงจำของ Federico Fellini ที่ปรากฎใน Amarcord ช่างมีความงดงาม ตราตรึง สมบูรณ์แบบ - (=30) The Gospel According to St. Matthew (1964)
: Pier Paolo Pasolini ♠♠♠♠♠
“The Gospel According to St. Matthew ของผู้กำกับ Pier Paolo Pasolini คือภาพยนตร์ที่เหนือกว่าศรัทธาความเชื่อศาสนา มีความงดงามทรงคุณเลอค่าทางศิลปะอย่างล้นพ้น”
- (=30) The Godfather Part II (1974)
: Francis Ford Coppola ♥♥♥♥
“The Godfather Part II ยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่ไม่แพ้ภาคแรก มีงานสร้าง เรื่องราว ที่ใหญ่โตกว่า แต่ถ้าถามภาคไหนเยี่ยมกว่า บอกเลยว่า ตอบไม่ได้” - (=30) Come and See (1985)
: Elem Klimov ♥♥♥♥♡
“Come and See เข้ามาและหันหน้ายอมรับกับความจริงในสิ่งที่เคยเกิดขึ้น สุดยอดหนังที่มีความทรงพลัง ทั้งงานภาพ เสียง การแสดง ตัดต่อ นี่คือหนังเกี่ยวกับสงครามที่ดีที่สุดในโลก” - Close-Up (1990)
: Abbas Kiarostami ♥♥♥♥
“Close-Up ของผู้กำกับ Abbas Kiarostami ที่อาจไม่ใช่เป็นหนังที่ดีที่สุด แต่เป็นหนังที่แสดงถึงอัจฉริยภาพของผู้กำกับมากที่สุด” - (=37) Some Like It Hot (1959)
: Billy Wilder ♥♥♥♥♡
Marilyn Monroe ได้ทำให้ Some Like It Hot ร้อนเร่าร่านชั่วนิรันดร์ - (=37) La Dolce Vita (1960)
: Federico Fellini ♠♠♠♠♠
“La Dolce Vita ออกค้นหาปรัชญาแห่งความสุขในชีวิต ของผู้กำกับ Federico Fellini และนักแสดงนำ Marcello Mastroianni” - (=37) The Passion of Joan of Arc (1928)
: Carl Theodor Dreyer ♠♠♠♠♠
“อย่าริอาจเรียกตัวเองว่าคอหนัง ถ้ายังไม่เคยดู The Passion of Joan of Arc” - (=37) Playtime (1967)
: Jacques Tati ♥♥♥♥♡
“Playtime คือสวนสนุกที่ใช้พักผ่อนคลายเครียดของ Jacques Tati มีแห่งเดียวเท่านั้นในจักรวาล” - (=37) A Man Escaped (1956)
: Robert Bresson ♥♥♥♥
“A Man Escaped ด้วยสไตล์ของผู้กำกับ Robert Bresson นำเสนอการหลบหนีออกจากค่ายกักกันนาซี ได้อย่างประณีต ละมุ่นไม สมบูรณ์แบบ” - (=37) Viridiana (1961)
: Luis Buñuel ♥♥♥
“Viridiana เป็นหนังที่น่าจะเxย เลวร้ายที่สุด ที่ Luis Buñuel จะสามารถสร้างให้ออกฉายได้” - Once Upon a Time in the West (1968)
: Sergio Leone ♥♥♥♥
Once Upon a Time in the West คือนิทานก่อนนอนกาลครั้งหนึ่งของ Sergio Leone ทำให้ความเพ้อฝันกลับกลายเป็นจริง งดงามอลังการ และได้รับการจดจำชั่วกัลปาวสาน - (=44) Le Mepris(1963) : France – Jean-Luc Godard
“Le Mepris อีกหนึ่ง masterpiece ของ Jean-Luc Godard ที่ต้องอาศัยการสังเกตและตีความพอสมควรถึงจะเข้าใจได้ ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจและชอบหนังเรื่องนี้” - (=44) The Apartment (1960)
: Billy Wilder ♥♥♥♥♥
The Apartment คือหัวใจของ Billy Wilder ที่มี Jack Lemmon และ Shirley MacLaine อาศัยอยู่ชั่วนิรันดร์ - (=44) Hour of the Wolf (1968)
: Ingmar Bergman ♥♥♡
“Hour of the Wolf ชั่วโมงแห่งความเป็นตายของ Ingmar Bergman ที่ได้แสดงความอัปลักษณ์ในจิตใจตนเองออกมา แต่ใครที่ไหนจะอยากเห็นเข้าใจกัน!” - One Flew Over the Cuckoo’s Nest (1975)
: Miloš Forman ♥♥♥♥♡
“One Flew Over the Cuckoo’s Nest คือ Miloš Forman นำพา Jack Nicholson และ Louise Fletcher โบยบินออกจากรัง มุ่งสู่สรวงสวรรค์ กลายเป็นดาวดาราค้างฟ้า” - (=48) The Searchers (1956)
: John Ford ♥♥♥♥♡
“The Searchers คือการออกเดินทางเพื่อค้นหาวิธีไถ่โทษตนเองของผู้กำกับ John Ford โดยมี John Wayne เป็นตัวตายตัวแทน” - (=48) Psycho (1960)
: Alfred Hitchcock ♥♥♥♥♡
“สิ่งที่ทำให้ Psycho เป็นผลงาน Masterpiece ของ Alfred Hitchcock และเป็นอมตะ คือ ความกลัวของมนุษย์ที่ปรากฎอยู่ในหนัง” - (=48) Chelovek s kino-apparatom (1929)
: Dziga Vertov ♥♥♥♥
Chelovek s kino-apparatom ไม่ใช่แค่ Dziga Vertov ออกเดินถือกล้องถ่ายทำ แต่ยังแบกประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไว้บนบ่า - (=48) Shoah (1985)
: Claude Lanzmann ♠♠♠♠♠
“Shoah คือสารคดีบันทึกประวัติศาสตร์และจิตวิญญาณ ที่มองไม่เห็นด้วยตาแต่สามารถสัมผัสได้ด้วยใจ”
- (=48) Lawrence of Arabia (1962) : David Lean
“Lawrence of Arabia ภาพจากหนังมีความสวยงามในระดับที่สุดที่กล้องถ่ายภาพจะสามารถบันทึกได้ และเพลงประกอบที่ไพเราะที่สุดในโลก นี่คือหนังที่ต้องดูให้ได้ ห้ามตายก่อนดู” - (=48) L’Eclisse (1962)
: Michelangelo Antonioni ♥♥♥♥
“L’Eclisse ของผู้กำกับ Michelangelo Antonioni มีความทะเยอทะยานเป็นที่สุด อดีต ปัจจุบัน อนาคตและ Beyond” - (=48) Pickpocket (1959) : France – Robert Bresson
“ไม่คิดว่าจะมีหนังเรื่องไหนที่เข้ากับสไตล์การกำกับของ Robert Bresson ได้มากกว่า Pickpocket อีกแล้ว” - (=48) Pather Panchali (1955)
: Satyajit Ray ♥♥♥♥
Satyajit Ray ได้ถ่ายทอดอรุณรุ่งของชีวิต บทเพลงแห่งการเดินทาง Pather Panchali งดงามทรงคุณค่าที่สุดให้กับวงการภาพยนตร์ - (=48) Rear Window (1954)
: Alfred Hitchcock ♥♥♥♥♡
“Rear Window อีกหนึ่ง Masterpiece ของ Alfred Hitchcock มี James Stewart ที่ถึงจะนั่งอยู่เฉยๆ แต่ก็มีส่วนร่วมกับหนังอย่างที่สุด” - (=48) GoodFellas (1990)
: Martin Scorsese ♥♥♥♥
“Martin Scorsese ได้ทำให้ GoodFellas กลายเป็นมาเฟียเพื่อนสนิทสอนใจผู้ชม” - Blow-Up (1966)
: Michelangelo Antonioni ♥♥♥♥♡
“Blow-Up ของผู้กำกับ Michelangelo Antonioni เป็นเทรนด์แฟชั่นที่แม้ปัจจุบันอาจดูตกยุค แต่ยังมีความล้ำสมัย” - (=59) The Conformist (1970)
: Bernardo Bertolucci ♥♥♥♥
“The Conformist คือทัศนะทางการเมืองของ Bernardo Bertolucci นำเสนอด้วยความรู้สึกผ่านตัวละครของ Jean-Louis Trintignant ได้อย่างสมบูรณ์แบบ” - (=59) Aguirre: The Wrath of God (1972)
: Werner Herzog ♥♥♥♥♡
“Aguirre, the Wrath of God ความเกรี้ยวกราดของ Klaus Kinski ชักนำพา Werner Herzog ไปสู่ฝั่งฝันและกลายเป็นตำนาน” - (=59) Gertrud (1964)
: Carl Theodor Dreyer ♥♥♥♥♡
อิสรภาพของ Gertrud คือสิ่งที่ผู้กำกับ Carl Theodor Dreyer โหยหามาตลอดชีวิต และได้รับมาก่อนหมดสิ้นลมหายใจ - (=59) A Woman Under the Influence (1974)
: John Cassavetes ♠♠♠♠♠
A Woman Under the Influence คือผลงานหลุดโลกของผู้กำกับ John Cassavetes ส่งให้ Gena Rowlands กลายเป็นนักแสดงทรงอิทธิพลแห่งวงการภาพยนตร์ - (=59) The Good, The Bad and The Ugly (1966)
: Sergio Leone ♥♥♥♥♥
“The Good, The Bad and the Ugly คือสามประสานที่สวยงาม อลังการ บ้าคลั่งสุดในวงการภาพยนตร์ ประกอบด้วยสามนักแสดงนำ ผู้กำกับ Sergio Leone และเพลงประกอบของ Ennio Morricone” - (=59) Blue Velvet (1986)
: David Lynch ♥♥♥♥
“Blue Velvet หนังตีแผ่ด้านมืดของสังคมและจิตใจมนุษย์ โดยผู้กำกับ David Lynch ที่ดูจบแล้วจะทำให้คุณอารมณ์นัวร์ๆ” - (=59) La Grande Illusion (1937)
: Jean Renoir ♥♥♥♥♡
“Jean Renoir ระบายสัจธรรมที่ถูกบดบังใน Le Grande Illusion ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อมวลมนุษยชาติ” - Badlands (1973)
: Terrence Malick ♥♥♥♥
Badlands ผลงานแจ้งเกิดระดับตำนานของ Terrence Malick ชั่วร้ายแต่งดงามบริสุทธิ์ อาจจะครั้งแรกครั้งเดียวในวงการภาพยนตร์
- (=67) Blade Runner (1982)
: Ridley Scott ♥♥♥♡
“Blade Runner ภาพยนตร์อภิมหาไซไฟตั้งคำถามเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ มีเอ็ฟเฟ็กตระการตายิ่งใหญ่ และเพลงประกอบสุดล้ำยุคสมัย สร้างโดยผู้กำกับ Ridley Scott และนำแสดงโดย Harrison Ford” - (=67) Sunset Boulevard (1950)
: Billy Wilder ♥♥♥♥♡
“Sunset Blvd. ของ Billy Wilder สร้างขึ้นเพื่อคนรักหนังโดยเฉพาะ สำหรับเป็นอุทาหรณ์สอนใจ เบื้องหน้าวงการมายาที่ยิ่งใหญ่ ข้างหลังนั้นไซร้ ใช่ว่าจะสวยงาม” - (=67) Ugetsu (1953)
: Kenji Mizoguchi ♥♥♥♥♡
“Ugetsu คือภาพวาด Masterpiece ของสายฝนยามแสงจันทรา ที่สามารถเคลื่อนไหวได้โดยผู้กำกับ Kenji Mizoguchi” - (=67) Singin’ in the Rain (1951)
: Gene Kelly, Stanley Donen ♥♥♥♥♥
“Singin’ in the Rain คือรีมิกซ์หนังเพลง ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งยุคทองคลาสสิก” - (=67) In the Mood for Love (2000)
: Wong Kar-Wai ♥♥♥♥♡
“In the Mood for Love ในห้วงอารมณ์รักสไตล์ลิสของ Wong Kar-Wai มี Tony Leung Chiu-Wai ที่จะโหยระลึกหา Maggie Cheung ไปชั่วนิรันดร์” - (=67) Journey to Italy (1954)
: Roberto Rossellini ♥♥♥♥♡
“Journey to Italy คือเรื่องราวการผจญภัย มีไกด์คือ Roberto Rossellini ลูกทัวร์ประกอบด้วย Ingrid Bergman และ George Sanders ที่จะนำคุณผ่าน Naples เมืองแห่งความตายขึ้นสู่สวรรค์” - (=67) Vivre sa vie (1962)
: Jean-Luc Godard ♥♥♥♡
“Vivre sa vie การสร้างทฤษฎีปรัชญาด้วยภาษาภาพยนตร์ของ Jean-Luc Godard เป็น Masterpiece ที่คงหาดูที่ไหนอีกไม่ได้แล้ว” - The Seventh Seal (1957)
: Ingmar Bergman ♥♥♥♥
“The Seventh Seal ของ Ingmar Bergman ได้ทำให้ความตายกลายเป็นอมตะ” - (=75) Caché (2005)
: Michael Haneke ♥♥♥♥
ผู้กำกับ Michael Haneke ตีแผ่สัจธรรมความจริงที่หลบซ่อนเร้นใน Caché ให้โลกได้ประจักษ์รับรู้ - (=75) Battleship Potemkin (1925)
: Sergei Eisenstein ♠♠♠♠♠
“Battleship Potemkin เรือรบของผู้กำกับ Sergei Eisenstein ได้รับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ ครั้งสำคัญสุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์” - (=75) M (1931)
: Fritz Lang ♥♥♥♥
M (1931) มุมมองผู้กำกับ Fritz Lang ต่อสาธารณรัฐไวมาร์ยุคสมัยนั้น ไม่ได้เรียกร้องให้ผู้ชมสงสาร แต่เข้าใจสาเหตุผลความเกรี้ยวกราด - (=75) There Will Be Blood (2007)
: Paul Thomas Anderson ♥♥♥♥♡
“There Will Be Blood ได้ทำให้ผู้กำกับ Paul Thomas Anderson เลือดท่วมเต็มจอ ด้วยความบ้าคลั่งไร้ขอบเขตของ Daniel Day-Lewis” - (=75) The Shining (1980)
: Stanley Kubrick ♥♥♥♥
“The Shining คือความเสียสติแตกของ Jack Nicholson แต่ผู้กำกับ Stanley Kubrick ถือว่าบ้าคลั่งไร้สติสมประดี” - (=75) The General (1926)
: Clyde Bruckman & Buster Keaton ♥♥♥♥♡
The General คือผลงาน Masterpiece เรื่องยิ่งใหญ่ที่สุดของ Buster Keaton พาคุณราวกับกำลังนั่งรถไฟเหาะในสวนสนุก - (=75) Mulholland Dr. (2002) : David Lynch
“Mulholland Drive หนังเกี่ยวกับความฝันและความจริง โดย David Lynch นี่คือหนังที่มีความซับซ้อนที่สุดในโลก” - (=75) A Clockwork Orange (1971)
: Stanley Kubrick ♥♥♥♥♡
“โลกอนาคตในจินตนาการของ Stanley Kubrick มี Malcolm McDowell กลายร่างเป็น A Clockwork Orange รูปลักษณ์ภายนอกเหมือนจักรกล แต่ภายในคลุ้มคลั่งด้วยความรุนแรง” - (=75) Angst essen Seele auf (1974)
: Rainer Werner Fassbinder ♥♥♥♥♡
จิตวิญญาณของ Rainer Werner Fassbinder ได้รับการถ่ายทอดผ่าน Ali: Fear Eats the Soul ด้วยความหวาดสะพรึงกลัวอย่างที่สุด
- (=75) Kes (1969)
: Ken Loach ♥♥♥♥
จิตวิญญาณของ Kes ช่างมีความสง่างาม น่าเกรงขาม มองจากฟากฟ้านภา พบเห็นภาพรวมของสังคมที่ไม่น่าอภิรมณ์เริงใจเลยสักนิด - (=75) Husbands (1970)
: John Cassavetes ♥♥♡
Husbands คือภาพยนตร์เห็นแก่ตัวที่สุดของ John Cassavetes ทำในสิ่งตอบสนองความพึงพอใจส่วนตนเท่านั้น
- (=75) The Wild Bunch (1969)
: Sam Peckinpah ♥♥♥♡
“The Wild Bunch นำโดยหัวโจ๊ก Sam Peckinpah บรรจงนำเสนอความรุนแรงออกมาในระดับที่อาจยินยอมรับไม่ได้ แต่ในความอัปลักษณ์เลือดท่วมนั้นมีความสวยงามสมบูรณ์แบบ” - (=75) Salò, or the 120 Days of Sodom (1975)
: Pier Paolo Pasolini ♥♥♡
“Salò, or the 120 Days of Sodom ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนตกนรกทั้งเป็น แต่ผู้กำกับ Pier Paolo Pasolini กลับได้ขึ้นสู่สรวงสวรรค์ชั้นฟ้า”
- (=75) Jaws (1975) : Steven Spielberg
“พบกับความตื่นเต้น สั่นประสาทพร้อมกับเพลงประกอบสุดระทึก Jaws หนัง Blockbuster เรื่องแรกของโลกโดย Steven Spielberg และคอมโพเซอร์คู่ใจ John Williams”
- (=75) Los Olvidados (1950)
: Luis Buñuel ♥♥♥♥
“Los Olvidados ในมุมมองของ Luis Buñuel โลกใบนี้โหดโฉดเลวร้ายสิ้นดี นี่เป็นความจริงที่ทุกคนต้องยอมรับให้ได้” - Pierrot le Fou (1965)
: Jean-Luc Godard ♥♥♥♥♡
“Pierrot le Fou คือผลงานกินเล่น ‘ป๊อปคอร์น’ ของ Jean-Luc Godard โดยมี Jean-Paul Belmondo และ Anna Karina เพิ่มรสชาดสีสันให้มีสัมผัสอันลุ่มลึกล้ำเหนือกาลเวลา” - (=91) Un Chien Andalou (1929)
: Luis Buñuel ♥♥♥♥
Un Chien Andalou เรื่องหมาๆของ Luis Buñuel และ Salvador Dalí กระแทกกระทั้น สั่นคลอนวิธีคิด ศรัทธาความเชื่อผู้คนได้อย่างเจ็บแสบกระสันต์ซ่าน - (=91) Chinatown (1974)
: Roman Polanski ♥♥♥♥
Chinatown ของผู้กำกับ Roman Polanski คือมาสเตอร์พีซที่นำเสนอด้านมืดของตัวละคร อาชญากร และสหรัฐอเมริกา - (=91) The Mother and the Whore (1973)
: Jean Eustache ♥♥♥♡
“The Mother and the Whore ของ Jean Eustache คือ Masterpiece ที่ทำให้คุณรู้สึกเบื่อสุดขีด แต่มันก็มีเหตุผลของมัน ที่อาจต้องให้นักประวัติศาสตร์ หรือชาวฝรั่งเศสเท่านั้นถึงเข้าใจได้” - (=91) Beau Travail (1999)
: Claire Denis ♥♥♥♥
มุมมองผู้กำกับ Claire Denis ต่อบุรุษเพศ สงคราม และการล่าอาณานิคม ต้องยกย่องสรรเสริญเลยว่า Beau Travail! - (=91) Opening Night (1977)
: John Cassavetes ♥♥♥♥
Opening Night แม้เป็นค่ำคืนที่ถูกหลงลืมเลือน แต่กาลเวลาทำให้ผู้กำกับ John Cassavetes และ Gena Rowlands ค่อยๆเจิดจรัสท่ามกลางฟากฟ้านภา
- (=91) The Gold Rush (1925)
: Charlie Chaplin ♥♥♥♥♡
“The Gold Rush ทองแท้อยู่ในภูเขา เช่นเดียวกับจิตใจที่ดีของคนอยู่ภายใน ไม่ใช่หน้าตาหรือรูปลักษณ์ภายนอก” - (=91) Zero for Conduct (1933)
: Jean Vigo ♥♥♥
“Zero for Conduct โลกแห่งความเสมอภาคเท่าเทียมของผู้กำกับ Jean Vigo คงมีแต่เพียงในความเพ้อฝันของเขากระมัง”
- (=91) The Deer Hunter (1978)
: Michael Cimino ♥♥♥♥♥
“The Deer Hunter เปรียบการทำสงคราม คือการเลือกไปฆ่าตัวตาย หนัง Masterpiece หนึ่งเดียวของ Michael Cimino และสุดยอดการแสดงของ Robert De Niro, Christopher Walken และ Meryl Streep” - (=91) L’Argent (1983)
: Robert Bresson ♥♥♥♥
“L’Argent ในกระเป๋าสตางค์ของผู้กำกับ Robert Bresson ซื้อได้แต่ใบเบิกทางขึ้นสู่สรวงสวรรค์เท่านั้น” - (=91) The Killing of a Chinese Bookie (1976)
: John Cassavetes ♥♥♥♡
สิ่งที่ John Cassavetes และ Ben Gazzara เข่นฆาตกรรมใน The Killing of a Chinese Bookie คือด้านมืดในจิตใจพวกเขา และระบบสตูดิโอ Hollywood
- (=91) Sans Soleil (1983)
: Chris Marker ♥♥♥♥
“Sans Soleil ภาพยนตร์สารคดีของ Chris Marker จดบันทึกเรื่องราวการเดินทางได้อย่างสวยงาม และมีสัมผัสสอดคล้องราวกับบทกวี” - (=91) Don’t Look Now (1973)
: Nicolas Roeg ♥♥♥♥♡
“Don’t Look Now ของ Nicolas Roeg ท้าทายความคิดของมนุษย์กับความเชื่อในสิ่งลึกลับ สุดยอดทั้งงานภาพ ตัดต่อ และการแสดงของ Donald Sutherland กับ Julie Christie” - (=91) Soy Cuba (1964) : Russia,Cuba – Mikhail Kalatozov
“Soy Cuba หนัง Russia-Cuba กำกับโดย Mikhail Kalatozov หนังอาจจะไม่สนุกเท่าไหร่ แต่มีการถ่ายภาพโดย Sergey Urusevsky อันสวยงาม โดดเด่นและยอดเยี่ยมที่สุดในโลก” - (=91) Last Year at Marienbad (1961)
: Alain Resnais ♠♠♠♠♠
“Last Year at Marienbad ของ Alain Resnais มีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่รู้ อาจมีเกิดขึ้น ไม่มีเกิดขึ้น หรืออาจมีไม่มีเกิดขึ้นก็ได้”
- (=91) Le Samouraï (1967)
: Jean-Pierre Melville ♥♥♥♥
“ถึง Alain Delon จะมิได้เป็น Le Samouraï แต่ผู้กำกับ Jean-Pierre Melville ก็สร้างโลกอีกใบให้เขากลายเป็น”
ref : http://www.bfi.org.uk/films-tv-people/sightandsoundpoll2012/directors