
ศิลปินสาวตาบอด (รับบทโดย Shima Iwashita) ออกเดินทางไปทำการแสดงทั่วญี่ปุ่น พานผ่านช่วงเวลาสุข-ทุกข์ ระทมขมขื่น แต่การได้พบเจอชายคนหนึ่งที่ไม่เคยเรียกร้องอะไร กลายเป็นความอิ่มอุ่น ชุ่มชื่นหฤทัย
asian film, bollywood, chinese, korean, japanese, thai, etc.

ศิลปินสาวตาบอด (รับบทโดย Shima Iwashita) ออกเดินทางไปทำการแสดงทั่วญี่ปุ่น พานผ่านช่วงเวลาสุข-ทุกข์ ระทมขมขื่น แต่การได้พบเจอชายคนหนึ่งที่ไม่เคยเรียกร้องอะไร กลายเป็นความอิ่มอุ่น ชุ่มชื่นหฤทัย

ย้อนเวลากลับไปยุคสมัยญี่ปุ่นโบราณ (Ancient Japan) หมอผี/คนทรง Himiko (รับบทโดย Shima Iwashita) มีความสามารถได้ยินพระวจนะของเทพสุริยัน (Sun God) มักจะทำนายทายทัก กำหนดทิศทางอาณาจักร แต่เธอมีพลังพิเศษนั้นจริงๆนะหรือ?

ในขณะที่ Silence (2016) ของผู้กำกับ Martin Scorsese นำเสนอผ่านมุมมองคนนอก เต็มไปด้วยสัญญะศาสนา ความเชื่อศรัทธาส่วนบุคคล, ฉบับของผู้กำกับ Masahiro Shinoda มุ่งเน้นฉายภาพการใช้อำนาจรัฐ กดขี่ข่มเหงประชาชนครุ่นคิดเห็นแตกต่าง ซึ่งสามารถสะท้อนสภาพสังคม-การเมืองญี่ปุ่นปัจจุบัน(นั้น)

ในยุคสมัย Edo Period (1600-1868) มีกระแสนิยมบทละครเกี่ยวกับคู่รักร่วมกันกระทำอัตวินิบาต (心中, Shinjū แปลว่า Double Suicide) นี่ไม่ใช่แค่เครื่องพิสูจน์ความรักนิรันดร์ แต่ยังคือการสำแดงความหัวขบถ ต่อต้านขนบวิถี ประเพณีวัฒนธรรม สังคมและการเมืองอย่างถึงที่สุด

ชื่อหนังแอบบอกใบ้ว่า ซามูไร (รับบทโดย Tetsurō Tamba) จักถูกลอบสังหาร แต่เพราะเหตุใด? ทำไม? เพื่ออะไร? มันช่างมีความสลับซับซ้อนซ่อนเงื่อน แถมผู้กำกับ Masahiro Shinoda พยายามนำเสนอจากหลากหลายมุมมอง เพื่อให้อดีตกลายเป็นภาพสะท้อนปัจจุบัน

ยากูซ่าเพิ่งได้รับการปล่อยตัว พบเจอหญิงสาวสวยชื่นชอบการพนัน โหยหาความตื่นเต้นเร้าใจ แววตาลุกโพลงเมื่อเห็นเขาฆ่าคนตาย แต่ดอกไม้เบ่งบาน ไม่นานก็แห้งเหี่ยวเฉา

ผลงานมาสเตอร์พีซของผู้กำกับ Hiroshi Shimizu, นำเสนอการผจญภัยของกลุ่มเด็กกำพร้าจากสงคราม (War Orphan) พานผ่านเศษซากปรักหักพังของญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

ปัญหาของผู้ใหญ่คือสิ่งที่เด็กๆยังมิอาจทำความเข้าใจ แต่การแก้ปัญหาตามประสาเด็กๆอาจสามารถเป็นบทเรียนชีวิตสำหรับผู้ใหญ่ ภาคต่อที่ไม่ใช่ภาคต่อของ Children in the Wind (1937), “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”

เด็กชายเปรียบดั่งสายลม พัดพามรสุม ก่อความวุ่นวายไม่รู้จักจบจักสิ้น แต่หลังจากบิดาถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินบริษัท ชีวิตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เขาจึงจำต้องปรับตัว เติบโต เรียนรู้จักโลกกว้าง

Chishū Ryū ระหว่างอาบน้ำแร่ แช่ออนเซ็น เท้าเหยียบปิ่นปักผมได้รับบาดเจ็บ พูดคุยกับเพื่อนเข้าพัก รู้สึกเหมือนฝัน ราวกับกวีนิพนธ์ “my foot has been pierced by poetry” ใครๆต่างครุ่นคิดว่าเธอคนนั้นต้องเป็นหญิงสาวสวยแน่ๆ แต่ความจริงแล้ว …

หมอนวดตาบอดออกเดินทางไปยังรีสอร์ทบนเขา ระหว่างทางรถโดยสารแล่นผ่าน ได้กลิ่นหอมรัญจวนของหญิงสาวจาก Tokyo เกิดความฉงนสงสัย เธอมาพักผ่อนหรือทำอะไร? แม้สายตามองไม่เห็นแต่จิตใจมิได้มืดบอด

มองผิวเผินอาจเป็นแค่หนัง Road Movie ดำเนินไปอย่างเอื่อยๆเฉื่อยๆ (Slow Life) ไม่ได้มีเรื่องราวน่าตื่นตาตื่นใจอะไร แต่เบื้องลึกกลับซุกซ่อนผลกระทบจาก Shōwa Depression (1930-32) คำขอบคุณเล็กๆระหว่างการเดินทาง สามารถสร้างพลังชีวิตอย่างล้นหลาม, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”

เรื่องราวรักสาม(สี่)เส้าของหญิงชาวญี่ปุ่น ณ เมืองท่า Yokohama ความอิจฉาริษยาทำให้เธอลั่นไกปืน หลบหนีอยู่หลายปีก่อนหวนกลับมาทำงานโสเภณี พบเจออดีตคนรักแต่งงานกับเพื่อนสนิท ถึงอย่างนั้นถ่านไฟเก่ายังคงคุกรุ่น ฟังดูวุ่นๆวายๆ แต่การร้อยเรียงภาพถ่ายทิวทัศน์ใน ‘สไตล์ Shimizu’ ช่างงดงามเหลือหลาย

ในยุคสมัยที่ญี่ปุ่นเต็มไปด้วยสารพัดปัญหาเศรษฐกิจ สงคราม การเมือง Our Neighbor, Miss Yae (1934) เป็นภาพยนตร์ที่ช่วยสร้างความเพลิดเพลินผ่อนคลาย เรื่องราวรักสดใสของวัยรุ่นหนุ่ม-สาว มันช่างมีความบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา คิกขุอาโนเนะ

มันช่างประหลาดและน่าขัน! ภาพยนตร์ที่ถือเป็นหนังพูด (Talkie) เรื่องแรกของญี่ปุ่น กลับนำเสนอความน่ารำคาญของสรรพเสียง โดยเฉพาะเพื่อนบ้านขับร้อง-เล่นดนตรีแจ๊ส ส่งเสียงดังจนไม่สามารถทำการทำงาน พอจะไปห้ามปรามกลับม่วนจอยซะงั้น!

เปรียบดั่งประติมากรรมแกะสลัก Venus de Milo แม้สูญเสียแขนสองข้าง แต่ยังมีความงามสมบูรณ์แบบ! What Made Her Do It? (1930) คือโคตรหนังเงียบที่หลายๆฉากสูญหาย แต่ยังมีความทรงพลังตราตรึง แรงระเบิดจากการถูกกดขี่ข่มเหง แผดเผาทำลายทุกสิ่งอย่างราบเรียบหน้ากลอง

หนังเงียบเรื่องสุดท้ายของผู้กำกับ Mikio Naruse และกับสตูดิโอ Shōchiku ก่อนย้ายไป P.C.L. Studios (ในอนาคตจะผนวกรวมกับ Toho) ร้อยเรียงทิวทัศน์ท้องถนน Ginza, Tokyo เก็บฝังไว้ในไทม์แคปซูล

ความฝันของแม่เลี้ยงเดี่ยว อยากมีอาชีพการงานมั่นคง โหยหาใครสักคนสามารถเป็นที่พึ่งพักพิง การหวนกลับมาของสามีเหมือนจะทำให้ชีวิตดีขึ้น แต่ทว่า …

บุตรชายวัยรุ่นเต็มไปด้วยอคติต่อมารดาเกอิชา เริ่มโดดเรียน เข้ากลุ่มอันธพาล ทำการลักเล็กขโมยน้อย ถ้าไม่เพราะพี่สาวสุดสวย (เพื่อนเกอิชาของมารดา) นำพาไปพบเจอญาติพี่น้อง พบเห็นบางสิ่งอย่างที่ทำให้เขาเข้าใจความทุกข์ยากลำบากชีวิต, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”

มารดาแท้ๆทอดทิ้งลูกในไส้เพื่อดำเนินตามความฝัน หลายปีถัดมาต้องทวงคืนสิทธิ์ดังกล่าว แต่บุตรสาวกลับเลือกแม่บุญธรรม ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดใดๆ ใครถูก? ใครผิด? ใครควรมีสิทธิ์ตัดสินใจ?