Cahiers du cinéma: Top 100 of all time
จัดอันดับ 100 ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของนิตยสาร Cahiers du cinéma
- Citizen Kane (1941) : Orson Welles
“Citizen Kane หนังแนวทดลองที่ได้ชื่อว่าเป็นหนังสือเรียนของวิชาภาพยนตร์ ด้วยผลงานแสดงและกำกับโดยชายอัจฉริยะ Orson Welles ดูให้ได้ก่อนตาย นี่คือหนังที่สมบูรณ์ทุกองค์ประกอบเรื่องของโลก” - The Night of the Hunter (1955)
: Charles Laughton ♥♥♥♥♡
“The Night of the Hunter คือนิทานก่อนนอนชั้นเลิศ สอนเด็กๆได้สาระ สอนผู้ใหญ่ได้ปัญญา สะท้อนเรื่องราวทางสังคมได้ทุกระดับ”
- The Rules of the Game (1939)
: Jean Renoir ♠♠♠♠♠
“The Rules of the Game ของผู้กำกับ Jean Renoir ได้จำลองสร้างโลกทั้งใบ และบัญญัติกฎของการอาศัยอยู่” - Sunrise: A Song of Two Humans (1927)
: F. W. Murnau ♥♥♥♥♡
“Sunrise: A Song of Two Humans คือหนังเงียบที่มีความไพเราะที่สุด” - L’Atalante (1934)
: Jean Vigo ♥♥♥♥♡
“L’Atlante คือภาพยนตร์แห่งการเดินทางของความรักและชีวิตของผู้กำกับ Jean Vigo ที่มีความสวยงามที่สุดในโลก” - M (1931) : Germany – Fritz Lang
“M ผลงาน masterpiece หนังเสียงเรื่องแรกของผู้กำกับ Fritz Lang ว่ากันว่านี่คือหนัง Serial-Killer เรื่องแรกของโลก นำแสดงโดย Peter Lorre ใบหน้าฆาตกรของเขากลายภาพติดตาของคนทั้งโลก คอหนังคลาสสิคไม่ควรพลาด” - Singin’ in the Rain (1951)
: Gene Kelly, Stanley Donen ♥♥♥♥♥
“Singin’ in the Rain คือรีมิกซ์หนังเพลง ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งยุคทองคลาสสิก” - Vertigo (1958)
: Alfred Hitchcock ♥♥♥♥
“Vertigo มีความหลงใหล คลั่งไคล้ คิดครอบงำ คือความลึกล้ำของ Alfred Hitchcock ที่ต้องใช้การเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์” - Children of Paradise (1945)
: Marcel Carné ♥♥♥♥♡
“Children of Paradise คือจดหมายรักต่อศิลปะการแสดงทุกแขนง หนึ่งในหนังที่ยอดเยี่ยมที่สุดของฝรั่งเศส โดยผู้กำกับ Marcel Carné นำแสดงโดย Jean-Louis Barrault” - The Searchers (1956)
: John Ford ♥♥♥♥♡
“The Searchers คือการออกเดินทางเพื่อค้นหาวิธีไถ่โทษตนเองของผู้กำกับ John Ford โดยมี John Wayne เป็นตัวตายตัวแทน” - Greed (1924)
: Erich von Stroheim ♥♥♥♡
“Greed ของ Erich von Stroheim คือ หนังที่สมบูรณ์แบบในความไม่สมบูรณ์” - Rio Bravo (1959)
: Howard Hawks ♥♥♥♡
“Rio Bravo ของผู้กำกับ Howard Hawks และ John Wayne ให้นิยามความเป็น’อเมริกันชน’ได้ตรงตัวที่สุด” - To Be or Not to Be (1942)
: Ernst Lubitsch ♥♥♥♥♡
“สิ่งที่ผู้กำกับ Ernst Lubitsch ปลุกปั้นให้ Jack Benny กลายเป็นใน To Be or Not to Be คือตำนานสุดคลาสสิกอมตะ” - Tokyo Story (1953) : Japan – Yasujirō Ozu
“ผลงานระดับตำนาน กับผู้กำกับระดับตำนาน Yasujirō Ozu สไตล์การกำกับภาพที่เป็นเอกลักษณ์ เนื้อเรื่องที่กินใจ การตัดต่อ ใส่เสียงที่เรียบง่าย นุ่มนวล แต่มีความหมายที่ลึกซึ้งไปถึงทรวง” - Le Mepris(1963) : France – Jean-Luc Godard
“Le Mepris อีกหนึ่ง masterpiece ของ Jean-Luc Godard ที่ต้องอาศัยการสังเกตและตีความพอสมควรถึงจะเข้าใจได้ ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจและชอบหนังเรื่องนี้” - Ugetsu (1953)
: Kenji Mizoguchi ♥♥♥♥♡
“Ugetsu คือภาพวาด Masterpiece ของสายฝนยามแสงจันทรา ที่สามารถเคลื่อนไหวได้โดยผู้กำกับ Kenji Mizoguchi” - City Lights (1931)
: Charlie Chaplin ♥♥♥♥♥
“City Lights ของ Charlie Chaplin มีฉากจบที่สวยงามที่สุดในโลก” - The General (1926)
: Clyde Bruckman & Buster Keaton ♥♥♥♥◊
“The General คือ Masterpiece ที่อเมริกันมากไปหน่อยของ Buster Keaton แต่ก็ยังสุดยอดด้วยเทคนิคที่เหนือชั้น อันตราย สมจริง เป็นหนังเกี่ยวกับรถไฟที่สนุกที่สุดและตลกที่สุดในโลก” - Nosferatu (1922)
: F. W. Murnau ♥♥♥♡
“Nosferatu ฉบับของ F. W. Murnau แม้จะไม่สามารถหลอกหลอนผู้ชมปัจจุบันได้ แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ Dracula ที่ยิ่งใหญ่” - The Music Room (1958)
: Satyajit Ray ♥♥♥♥♡
“The Music Room คือห้องแสดงดนตรีแห่งศักดิ์ศรี กินไม่ได้แต่ฆ่าคนได้ สุดยอดหนังโดยปรมาจารย์ Satyajit Ray ต้องดูให้ได้ก่อนตาย” - Freaks (1932)
: Tod Browning ♥♥♥
Freaks คือสัตว์ประหลาดที่มีความน่าหวาดสะพรึงกลัว แต่จะมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับระดับความอัปลักษณ์ในจิตใจของตัวคุณเอง”
- Johnny Guitar – Nicholas Ray
- The Mother and the Whore (1973)
: Jean Eustache ♥♥♥♡
“The Mother and the Whore ของ Jean Eustache คือ Masterpiece ที่ทำให้คุณรู้สึกเบื่อสุดขีด แต่มันก็มีเหตุผลของมัน ที่อาจต้องให้นักประวัติศาสตร์ หรือชาวฝรั่งเศสเท่านั้นถึงเข้าใจได้” - The Great Dictator (1940)
: Charlie Chaplin ♥♥♥♡
“The Great Dictator คือความตั้งใจอันดีของ Charlie Chaplin แต่ก็ทำให้รู้ว่าหนังพูดไม่เหมาะกับเขาเท่าไหร่”
- The Leopard (1963) : Italian – Luchino Visconti
“The Leopard โดยผู้กำกับ Luchino Visconti หนึ่งในหนังที่มีภาพสวย เพลงเพราะที่สุดในโลก” - Hiroshima mon amour (1959)
: Alain Resnais ♥♥♥♥♡
“Hiroshima mon amour ของ Alain Resnais คือจดหมายรัก ที่ย้ำเตือนไม่ให้ผู้ชมลืมเลือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ Hiroshima นำแสดงโดย Emmanuelle Riva และ Eiji Okada” - Pandora’s Box (1929)
: G. W. Pabst ♥♥♥♡
“Pandora’s Box มีเนื้อเรื่องที่แสนธรรมดา แต่เพราะมี Louise Brooks ที่สวย เริด เชิด โดดเด่นเหนือกว่าทุกสิ่งอย่าง” - North by Northwest (1959)
: Alfred Hitchcock ♥♥♥♥♡
“North by Northwest ของ Alfred Hitchcock อาจไม่ได้มีความตื่นตาเหมือนหนัง Action สมัยใหม่ แต่มีความตื่นใจจากความระทึกขวัญสุดตื่นเต้น ในทุกเทคนิคการนำเสนอ” - Pickpocket (1959) : France – Robert Bresson
“ไม่คิดว่าจะมีหนังเรื่องไหนที่เข้ากับสไตล์การกำกับของ Robert Bresson ได้มากกว่า Pickpocket อีกแล้ว” - Golden Helmet (Casque d’or) – Jacques Becker
- The Barefoot Contessa – Joseph Mankiewitz
- Moonfleet – Fritz Lang
- The Earrings of Madame de… (1953)
: Max Ophüls ♥♥♥♥♡
The Earrings of Madame de… คือลมหายใจที่ไม่มีวันหมดของผู้กำกับ Max Ophüls และนักแสดงคู่บารมี Danielle Darrieux” - Pleasure – Max Ophüls
- The Deer Hunter (1978)
: Michael Cimino ♥♥♥♥♥
“The Deer Hunter เปรียบการทำสงคราม คือการเลือกไปฆ่าตัวตาย หนัง Masterpiece หนึ่งเดียวของ Michael Cimino และสุดยอดการแสดงของ Robert De Niro, Christopher Walken และ Meryl Streep” - L’Avventura (1960)
: Michelangelo Antonioni ♥♥♥♥♡
“L’Avventura ชีวิตคือการเดินทาง เป้าหมายคืออะไร Michelangelo Antonioni ก็ตอบไม่ได้ เลยทิ้งปริศนาไว้ ให้ผู้ชมคิดวิเคราะห์ค้นหาเอง” - Battleship Potemkin (1925) : Sergei Eisenstein
“Battleship Potemkin โดยผู้กำกับรุ่นบุกเบิก Sergei Eisenstein นี่คือหนังที่ทรงพลังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ต่อศาสตร์ภาพยนตร์ และต่อโลก” - Notorious (1946)
: Alfred Hitchcock ♥♥♥♥
“ยิ่งฉาวยิ่งดัง ความฉาวโฉ่ใน Notorious คือความอมตะของ Ingrid Bergman และ Cary Grant โดยผู้กำกับ Alfred Hitchcock”
- Ivan the Terrible (1944, 1958)
: Sergei Eisenstein ♥♥♥
“Ivan the Terrible คือจุดสิ้นสุดของ Sergei Eisenstein ทั้งยุคสมัยและชีวิต” - The Godfather (1972)
: Francis Ford Coppola ♥♥♥♥♡
“The Godfather คือพ่อทูนหัวของวงการภาพยนตร์”
- Touch of Evil (1958)
: Orson Welles ♥♥♥♥
“Touch of Evil เป็นจดหมายสั่งลา hollywood ของ Orson Welles ที่มี Charlton Heston เล่นเป็น Mexican” - The Wind (1928)
: Victor Sjöström ♥♥♥♥♡
“The Wind คือผลงาน Masterpiece ของผู้กำกับ Victor Sjöström นำแสดงโดย Lillian Gish ที่ทุกสิ่งอย่างของยุคสมัยหนังเงียบ จะพัดผ่านไปกับภาพยนตร์เรื่องนี้”
- 2001: A Space Odyssey (1968) : Stanley Kubrick
“2001 A Space Odyssey หนัง Sci-fi แห่งมวลมนุษย์ชาติ ที่ยอดเยี่ยม ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” - Fanny and Alexander (1982)
: Ingmar Bergman ♥♥♥♥
“Fanny and Alexander คือโลกทั้งใบของผู้กำกับ Ingmar Bergman” - The Crowd (1928)
: King Vidor ♥♥♥♥
“The Crowd ของ King Vidor สร้างความธรรมดาสามัญในฝูงชน ให้กลายเป็นความสมบูรณ์แบบ”
- 8 1/2 (1963)
: Federico Fellini ♠♠♠♠♠
“8½ คือการออกเดินทางสู่จักรวาลอันไร้ขอบเขตพรมแดน ของผู้กำกับ Federico Fellini” - La Jetée (1962)
: Chris Marker ♥♥♥♥
“La Jetée หนังสั้นโดยผู้กำกับ Chris Marker มีความแปลกประหลาดในการนำเสนอ ที่สร้างความลึกล้ำ สวยงาม ไม่เหมือนใคร” - Pierrot le Fou (1965)
: Jean-Luc Godard ♥♥♥♥♡
“Pierrot le Fou คือผลงานกินเล่น ‘ป๊อปคอร์น’ ของ Jean-Luc Godard โดยมี Jean-Paul Belmondo และ Anna Karina เพิ่มรสชาดสีสันให้มีสัมผัสอันลุ่มลึกล้ำเหนือกาลเวลา” - Confessions of a Cheat (Le Roman d’un tricheur) – Sacha Guitry
- Amarcord (1972) : Italy – Federico Fellini
“Amarcord หนังสุด nostalgia ที่จะนำคุณไประลึกถึงความหลังวัยเด็กได้อย่างสมจริงและเพลิดเพลินไปกับเพลงประกอบที่แสนไพเราะโดย Nino Rota อีกหนึ่ง masterpiece ของ Federico Fellini ที่คอหนังห้ามพลาด” - La Belle et la Bête (1946)
: Jean Cocteau ♥♥♥♥
“La Belle et la Bête ของผู้กำกับ Jean Cocteau พรรณาด้วยบทกวี อันจะทำให้หลุดเข้าไปในโลกแห่งเทพนิยายแฟนตาซี” - Some Like It Hot (1959) : Billy Wilder
“Some Like It Hot บางคนชอบเล่นกับไฟ กำกับโดย Billy Wilder นำแสดงโดย Marilyn Monroe, Tony Curtis และ Jack Lemmon นี่เป็นหนังที่ตลกที่สุดในโลก” - Some Came Running – Vincente Minnelli
- Gertrud – Carl Theodor Dreyer
- King Kong (1933) : Merian C. Cooper & Ernest B. Schoedsack
“King Kong ต้นฉบับ 1933 มีก้าวกระโดดที่สำคัญต่อวงการ Visual Effect และเพลงประกอบหนัง แต่เดินถอยหลังด้วยแนวคิด Racism ที่ชั่วร้ายมาก” - Laura (1944)
: Otto Preminger ♥♥♥♥
“Laura ของผู้กำกับ Otto Preminger มีความพิศวงที่จะทำให้คุณกลายเป็นนักสืบ ท้าทายว่าจะหาคำตอบพบก่อนหนังจบหรือเปล่า” - Seven Samurai (1954) : Japan – Akira Kurosawa
“Seven Samurai หนังของ Akira Kurosawa นำแสดงโดย Toshiro Mifune และ Takashi Shimura นี่คือหนัง Epic ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ห้ามตายก่อนได้ดูหนังเรื่องนี้เด็ดขาด!” - Les Quatre Cents Coups (1959)
: François Truffaut ♥♥♥♥
François Truffaut สรรค์สร้าง Les Quatre Cents Coups ด้วยการเปิดโลกทัศน์ใหม่ให้กับวงการภาพยนตร์ - La Dolce Vita (1960)
: Federico Fellini ♠♠♠♠♠
“La Dolce Vita ออกค้นหาปรัชญาแห่งความสุขในชีวิต ของผู้กำกับ Federico Fellini และนักแสดงนำ Marcello Mastroianni” - The Dead – John Huston
- Trouble in Paradise (1932)
: Ernst Lubitsch ♥♥♥♥
“เรื่องวุ่นๆบนเตียง Trouble in Paradise ของผู้กำกับ Ernst Lubitsch ช่างมีความลึกล้ำซับซ้อน เลิศหรูหรา เฉียบคมคายเสียเหลือเกิน” - It’s a Wonderful Life (1946)
: Frank Capra ♥♥♥♥♥
“It’s a Wonderful Life คือของขวัญสุดมหัศจรรย์ มอบให้กับมนุษย์ทุกคนที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้” - Monsieur Verdoux – Charlie Chaplin
- The Passion of Joan of Arc (1928)
: Carl Theodor Dreyer ♠♠♠♠♠
“อย่าริอาจเรียกตัวเองว่าคอหนัง ถ้ายังไม่เคยดู The Passion of Joan of Arc” - Breathless (1960)
: Jean-Luc Godard ♥♥♡
“Breathless ของ Jean-Luc Godard จะทำให้คุณหยุดหายใจ เพราะขาดอาการหายใจ” - Apocalypse Now (1979) : Francis Ford Coppola
“Apocalypse Now หนังสงครามที่เจ๋ง และบ้าคลั่งที่สุดในโลก กำกับโดย Francis Ford Coppola” - Barry Lyndon – Stanley Kubrick
- The Grand Illusion (1937) : France – Jean Renoir
“La Grande Illusion หนังสงครามที่ไม่มีฉากสงครามของ Jean Renoir พบสุดยอดการแสดงของ Jean Gabin และ Erich von Stroheim ดูแล้วคุณจะเข้าใจว่า สงครามคืออะไร!” - Intolerance (1916) : D.W. Griffith
“Intolerance หนัง Epic อลังการระดับตำนานที่มีการตัดต่ออันเหนือชั้น เปรียบเหมือนตำราเรียนขึ้นหิ้งโดยบรมครู D.W. Griffith” - A Day in the Country (Partie de campagne) – Jean Renoir
- Playtime (1967)
: Jacques Tati ♥♥♥♥♡
“Playtime คือสวนสนุกที่ใช้พักผ่อนคลายเครียดของ Jacques Tati มีแห่งเดียวเท่านั้นในจักรวาล” - Rome, Open City (1945)
: Roberto Rossellini ♥♥♥♥
“Rome, Open City คือ Masterpiece ของ Roberto Rossellini ถึงการสร้างที่มีข้อจำกัดมากมาย แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ในระดับที่กลายเป็นเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของวงการภาพยนตร์อิตาเลี่ยน”
- Livia (Senso) – Luchino Visconti
- Modern Times (1936)
: Charlie Chaplin ♥♥♥♥♡
“Modern Times คือหนังเงียบเรื่องสุดท้ายของ Charlie Chaplin ในบท The Tramp ที่ยุคสมัย Silent Era พ่ายแพ้กับให้กับโลกยุคใหม่ Modern Era นี่เป็นหนังที่ดูเมื่อไหร่ก็ไม่เก่าเลยและต้องดูให้ได้ก่อนตาย” - Van Gogh (1991)
: Maurice Pialat ♥♥♥♥
“ถึงหน้าตาของ Jacques Dutronc จะไม่ได้คล้าย Vincent van Gogh เลย แต่เราต้องมองลึกเข้าไปข้างใน จะเห็นความสวยงามที่สลับซับซ้อนในหนังของ Maurice Pialat เรื่องนี้” - An Affair to Remember – Leo McCarey
- Andrei Rublev (1966) : Russia – Andrei Tarkovsky
“ใครดูหนังเรื่องนี้ไม่จบถือว่าพลาดแล้ว Andrei Rublev ความสวยงามบนความยิ่งใหญ่อลังการ ไม่มีหนังเรื่องไหนที่ทำให้คุณทั้งเกลียดและหลงรักได้ในเรื่องเดียวกัน แต่ Andrei Tarkovsky ผู้กำกับชาวรัสเซียคนนี้ทำได้” - The Scarlet Empress (1934)
: Josef von Sternberg ♥♥♥♡
“The Scarlet Empress ของ Josef von Sternberg มีการออกแบบที่สุดแปลกประหลาด และ Marlene Dietrich ที่เฉิดฉายเหมือนนางฟ้าในหมู่มาร”
- Sansho the Bailiff (1954) : Japan – Kenji Mizoguchi
“Sansho the Bailiff เป็นหนังเกี่ยวกับความหมายของ ‘ความเป็นมนุษย์’ นี่อาจเป็นหนังที่ดูขาดๆเกินๆ และเห็นแก่ตัวเสียหน่อย แต่คอหนังของ Kenji Mizoguchi ไม่ควรพลาด” - Talk to Her – Pedro Almodóvar
- The Party – Blake Edwards
- Tabu (1931)
: F. W. Murnau ♥♥♥♥♡
“Tabu ของผู้กำกับ F. W. Murnau คือความบริสุทธิ์เดียงสา ไร้มลทินชั่วร้ายใดๆเจือปน” - The Band Wagon (1953)
: Vincente Minnelli ♥♥♥♡
“The Band Wagon เป็นหนังเพลงที่มีเบื้องหน้าสวยงามสุดยิ่งใหญ่ แต่เบื้องหลังเละเป็นโจ๊ก นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะยอมรับได้”
- A Star Is Born (1954)
: George Cukor ♥♥♥♥
“A Star is Born ฉบับของ Judy Garland จะทำให้คุณไม่สามารถแบ่งแยกได้ว่า นี่คือภาพยนตร์หรือชีวิตจริง” - Les Vacances de Monsieur Hulot (1953)
: Jacques Tati ♥♥♥♥♡
“Les Vacances de Monsieur Hulot ของ Jacques Tati ได้ทำให้วันหยุดพักผ่อนของคุณมีความเพียงพอ” - America, America – Elia Kazan
- El – Luis Buñuel
- Kiss Me Deadly – Robert Aldrich
- Once Upon a Time in America – Sergio Leone
- Le Jour Se Lève (1939)
: Marcel Carné ♥♥♥♥♡
“ช่วงเวลาฟ้าสาง Le Jour Se Lève ของผู้กำกับ Marcel Carné นำแสดงโดย Jean Gabin ช่างเต็มไปด้วยความมืดหม่น หดหู่ที่สุดแห่งวงการภาพยนตร์”
- Letter from an Unknown Woman – Max Ophüls
- Lola – Jacques Demy
- Manhattan (1979)
: Woody Allen ♥♥♥♥♡
“Manhattan ผลงาน Masterpiece ของ Woody Allen สวยล้ำด้วยภาพขาว-ดำ ของ Gordon Willis และยิ่งใหญ่ทรงพลังด้วยบทเพลงของ George Gershwin”
- Mulholland Dr. (2002) : David Lynch
“Mulholland Drive หนังเกี่ยวกับความฝันและความจริง โดย David Lynch นี่คือหนังที่มีความซับซ้อนที่สุดในโลก” - My Night at Maud’s (Ma nuit chez Maud) – Eric Rohmer
- Night and Fog (1956)
: Alain Resnais ♥♥♥♡
“Night and Fog สารคดีสั้นของ Alain Resnais จะทำให้คุณหวาดกลัวสงครามจนขี้เยี่ยวเล็ดหด”
- The Gold Rush (1925)
: Charlie Chaplin ♥♥♥♥♡
“The Gold Rush ทองแท้อยู่ในภูเขา เช่นเดียวกับจิตใจที่ดีของคนอยู่ภายใน ไม่ใช่หน้าตาหรือรูปลักษณ์ภายนอก” - Scarface – Howard Hawks
- Bicycle Thieves (1948)
: Vittorio De Sica ♥♥♥♥♡
“Bicycle Thieves ของ Vittorio De Sica ได้ขโมย 2 อย่าง จักรยาน และหัวใจของผู้ชม” - Napoléon (1927)
: Abel Gance ♥♥♥♥
“Napoléon อีกหนึ่ง Holy Grail ที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ เพราะเรื่องราวที่ค้างคา แต่คุณภาพเป็นเลิศ”
ref : http://www.cahiersducinema.com/