เรื่องจริงของ Marie-Louise Giraud (รับบทโดย Isabelle Huppert คว้ารางวัล Volpi Cup for Best Actress) ถูกประหารชีวิตด้วยกิโยตินในช่วง Vichy France เนื่องจากรับทำแท้งเถื่อนหญิงสาว 27 คน มันอาจดูเป็นเรื่องผิดศีลธรรม แต่ลองรับฟังเหตุผลของเธอก่อน แล้วค่อยตัดสินถูก-ผิด ดี-ชั่ว สมควรได้รับความสงสารเห็นใจหรือไม่
ป้ายกำกับ: World Wars 2
Ballada o soldate (1959)
บทกวีรำพันเรื่องราวทหารรัสเซียนายหนึ่ง ได้รับอนุญาตให้ลากลับบ้าน แต่ระหว่างทางพบเจอเรื่องวุ่นๆวายๆ ที่จักทำให้ผู้ชมอมยิ้ม ตกหลุมรัก ก่อนหัวใจแตกสลาย, สามารถเข้าชิง Oscar: Best Original Screenplay
Skazka skazok (1979)
ขูดๆขีดๆเรื่องเล่าความทรงจำ นำเสนอผ่านมุมมองเจ้าหมาป่าน้อย (Grey Wolf) พบเห็นความวุ่นๆวายๆของมนุษย์ชาวรัสเซีย ในช่วงคาบเกี่ยวสงครามโลกครั้งที่สอง ตัดสลับระหว่างโลกความจริง-จินตนาการเพ้อฝัน ได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ Mirror (1975)
Voskhozhdeniye (1977)
ภาพยนตร์สู่ความเป็นนิรันดร์ของผู้กำกับ Larisa Shepitko ตั้งคำถามถึงการมีชีวิตบนโลกแห่งความสิ้นหวัง เราควรยึดถือมั่น ตายเพื่ออุดมการณ์ หรือเป็นอย่าง Judas ทรยศหักหลัง Jesus Christ เพื่อความอยู่รอดปลอดภัย, คว้ารางวัล Golden Bear จากเทศกาลหนังเมือง Berlin
การตัดสินใจของกปิตัน Humphrey Bogart สร้างความหวาดระแวง วิตกจริต เหมือนมีอาการผิดปกติทางจิต ทำให้สมาชิกบนเรือกวาดทุ่นระเบิด(นามสมมติ) USS Caine ครุ่นคิดก่อการกบฎ ปลดออกจากตำแหน่ง นำไปสู่การพิจารณาคดีบนศาลทหาร (Court Marshal)
Monsieur Klein (1976)
พื้นหลัง Vichy France ช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง Monsieur Klein (รับบทโดย Alain Delon) ถูกตำรวจเข้าใจผิดครุ่นคิดว่าเป็นอีก Monsieur Klein พยายามพิสูจน์ตนเอง ออกค้นหารากเหง้า ฉันไม่ใช่ชาวยิว แต่จนแล้วจนรอดปลายทางของเขาก็ยังคือ Auschwitz
In Which We Serve (1942)
ภาพยนตร์แนวปลุกใจรักชาติ (Patriotic Film) แม้เรือพิฆาต HMS Kelly ถูกโจมตีจนอับปางลง แต่ก็ไม่ทำให้จิตวิญญาณผู้คนจมดิ่งสู่ก้นเบื้องมหาสมุทร, กำกับการแสดงโดย Noël Coward และหน้าที่กำกับอื่นๆโดย David Lean
49th Parallel (1941)
ภาพยนตร์ชวนเชื่อรวมดารา ผลงานลำดับที่สามของ Powell & Pressburger, ถ่ายภาพโดย Freddie Young, ตัดต่อโดย David Lean, เมื่อกลุ่มทหารนาซีเยอรมันถูกปล่อยเกาะบนผืนแผ่นดินแคนาดา อุดมการณ์ที่ไม่ยอมแปรเปลี่ยน เมื่อต้องเผชิญหน้าแนวคิดเสรีภาพ มันช่างเป็นความคู่ขนานกันโดยสิ้นเชิง
โดยปกติแล้วภาพยนตร์ชวนเชื่อ (Propaganda) มักพยายามโน้มน้าว เสียดสี ชี้ชักนำ ใส่ร้ายอีกฝั่งฝ่าย ไม่ก็ยกยอปอปั้นตนเอง แต่สำหรับ Listen to Britain (1942) กลับทำออกมาในลักษณะ ‘กวีภาพยนตร์’ งดงามวิจิตรศิลป์
หลังสหรัฐอเมริกาถูกโจมตี Pearl Harbor เสนาธิการทหารบก George C. Marshall ติดต่อขอให้ผู้กำกับ Frank Capra สรรค์สร้างภาพยนตร์ชวนเชื่อ (Propaganda Film) เพื่อโต้ตอบกลับ Triumph of the Will (1935) กลายมาเป็นหนังซีรีย์จำนวน 7 ภาคละ 40-83 นาที
Die Ehe der Maria Braun (1978)
เรื่องราวการไต่เต้า ก้าวสู่จุดสูงสุดของ Maria Braun (รับบทโดย Hanna Schygulla) สะท้อนอิทธิพลสงครามโลกครั้งที่สอง หลังจากเยอรมันราบเรียบเป็นหน้ากลอง ค่อยๆก่อร่างสร้างตัวขึ้นใหม่ จนกระทั่งหวนกลับมายิ่งใหญ่เทียบเท่าอดีตอีกครั้ง
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับชีเปลือย หรือหญิงสาวเปลื้องผ้า แต่คือการเปิดโปงธาตุแท้ของสงคราม ว่าเป็นเพียงกลเกม ความทะเยอทะยานของใครบางคน ต้องการไปให้ถึงจุดสูงสุดบนยอดเขา เข้าครอบครองตำแหน่งสำคัญทางยุทธศาสตร์ โดยไม่สนว่าต้องแลกมาด้วยชีวิต หรือความตายของผู้อื่นใด
ดัดแปลงจากนวนิยายของ Erich Maria Remarque ผู้แต่ง All Quiet on the Western Front (1928) นำเสนอผ่านมุมมองนายทหารเยอรมัน/นาซี ช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ได้มีโอกาสลาพักสามสัปดาห์ พบเจอหญิงสาวเคยรู้จัก ตกหลุมรัก ตัดสินใจแต่งงาน แล้วใช้ชีวิตครองคู่เพียงระยะเวลาสั้นๆ เพราะเมื่อเขาหวนกลับไปแนวหน้านั้น…
Mrs. Miniver (1942) : William Wyler ♥♥♥♡
ขนาดว่า Joseph Goebbels ยังต้องเอ่ยปากชื่นชมและหวาดสะพรึงกลัว! เรื่องราวของครอบครัว Miniver ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามโลกครั้งที่สอง ไร้ซึ่งถ้อยคำตำหนิด่าทอทหารเยอรมัน แต่สามารถชักชวนเชื่อให้ต่อต้านนาซีอย่างทรงพลัง, คว้า Oscar ถึง 6 สาขา รวมถึงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี
Merry Christmas, Mr. Lawrence (1983)
Merry Christmas, Mr. Lawrence (1983) : Nagisa Oshima ♥♥♡
ท่ามกลางความแตกต่างตรงกันข้ามระหว่างวิถีชีวิต วัฒนธรรม ความเชื่อของ ญี่ปุ่น/ตะวันออก vs. อังกฤษ/ตะวันตก มีสิ่งหนึ่งที่เป็นภาษาสากล สามารถสร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความทรงจำสุดพิเศษ นั่นคือเทศกาลคริสต์มาสและสุขสันต์วันขึ้นปีใหม่
To Be or Not to Be (1942)
To Be or Not to Be (1942) : Ernst Lubitsch ♥♥♥♥♡
The Great Dictator (1940) ของผู้กำกับ Charlie Chaplin ชิดซ้ายตกกระป๋องไปเลยเมื่อเทียบกับ To Be or Not to Be (1942) ด้วย ‘สัมผัสของ Lubitsch’ ทำให้ภาพยนตร์เสียดสีล้อเลียน Adolf Hitler และนาซีเรื่องนี้มีความลุ่มลึกล้ำ เฉียบคมคาย คลาสสิกเหนือกาลเวลา แต่ผู้ชม/นักวิจารณ์สมัยนั้น ต่างขำกันไม่ออกเลยสักนิด
The Night of the Shooting Stars (1982)
The Night of the Shooting Stars (1982) : Taviani brothers ♥♥♥
ชื่อหนังและโปสเตอร์ดาวตกนี้ ช่างมีความสวยงามน่าสนใจเหลือเกิน สงสัยจะเกี่ยวกับเทพนิยายแฟนตาซีเพ้อฝัน แต่แท้จริงแล้วคือเรื่องราวกึ่งชีวประวัติของสองพี่น้องผู้กำกับ Taviani ในความค่ำคืนทรงจำที่พวกเขาประจักษ์เห็นเพื่อนบ้านถูกทหารนาซีกราดยิงสังหารหมู่, คว้ารางวัล Grand Prix จากเทศกาลหนังเมือง Cannes
Army of Shadows (1969)
Army of Shadows (1969) : Jean-Pierre Melville ♥♥♥♥
สัมผัสความรู้สึกอันมืดหมองหม่นสิ้นหวัง ของสมาชิกขบวนการต่อต้านฝรั่งเศส (French Resistance) ที่ต่อสู้กับนาซีเยอรมันขณะเข้ายึดครองฝรั่งเศสในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ทั้งรู้มันอาจไม่มีประโยชน์อะไร แล้วยังจะทนฝืนต่อสู้ไปเพื่ออะไร? อีกหนึ่งผลงาน Masterpiece ของผู้กำกับ Jean-Pierre Melville ถ่ายทอดออกมาจากจิตวิญญาณและความทรงจำของตนเอง
Europa Europa (1990) : Agnieszka Holland ♥♥♥♡
ความน่ารักน่าชังของ Julie Delpy ขโมยซีนในหนังรางวัล Golden Globe: Best Foreign Language Film ไปเต็มๆ โดดเด่นกว่าเรื่องราวสุดมหัศจรรย์น่าทึ่งของ Solomon Perel เด็กชายหนุ่มเชื้อสายยิว ที่เอาตัวรอดผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยการแปรพักตร์เปลี่ยนข้างไปเรื่อยๆ และยังเข้าร่วม Hitler Youth โดยไม่มีใครจับผิดได้
Downfall (2004) : Oliver Hirschbiegel ♥♥♥
สิ่งที่เป็นข้อถกเถียงกันอย่างมากต่อหนังเรื่องนี้ ‘มันสมควรแล้วหรือ ที่จะนำเสนอความเป็นมนุษย์ให้กับ Adolf Hitler?’ กับสิบวันสุดท้ายก่อนฆ่าตัวตาย ช่วงเวลาที่แทบทุกคนใกล้ตัวเริ่มหันหลังให้ จากเคยยิ่งใหญ่คับฟ้าถึงคราตกต่ำ ‘Downfall’ ดำเนินเรื่องแทบทั้งหมดใน Führerbunker ศูนย์บัญชาการและสถานที่หลบภัยใต้ดิน ณ กรุง Berlin