Sight & Sound: Critic’s Poll 2012

Sight & Sound: Critic’s Poll 2012

จัดอันดับหนังจากนิตยสาร Sight & Sound ของนักวิจารณ์เมื่อปี 2012

  1. Vertigo (1958) hollywood : Alfred Hitchcock ♥♥♥♥
    “Vertigo มีความหลงใหล คลั่งไคล้ คิดครอบงำ คือความลึกล้ำของ Alfred Hitchcock ที่ต้องใช้การเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์”
  2. Citizen Kane (1941) : Orson Welles
    “Citizen Kane หนังแนวทดลองที่ได้ชื่อว่าเป็นหนังสือเรียนของวิชาภาพยนตร์ ด้วยผลงานแสดงและกำกับโดยชายอัจฉริยะ Orson Welles ดูให้ได้ก่อนตาย นี่คือหนังที่สมบูรณ์ทุกองค์ประกอบเรื่องของโลก”
  3. Tokyo Story (1953) Japanese : Yasujirō Ozu ♠♠♠♠♠
    Tokyo Story ไม่ใช่แค่จิตวิญญาณชาวญี่ปุ่น ชนชาติเอเชีย แต่ยังคือภาพยนตร์ทรงคุณค่าระดับโลก
  4. The Rules of the Game (1939) French : Jean Renoir ♠♠♠♠♠
    “The Rules of the Game ของผู้กำกับ Jean Renoir ได้จำลองสร้างโลกทั้งใบ และบัญญัติกฎของการอาศัยอยู่”
  5. Sunrise: A Song of Two Humans (1927) hollywood : F. W. Murnau ♥♥♥♥♡
    “Sunrise: A Song of Two Humans คือหนังเงียบที่มีความไพเราะที่สุด”
  6. 2001: A Space Odyssey (1968) : Stanley Kubrick
    “2001 A Space Odyssey หนัง Sci-fi แห่งมวลมนุษย์ชาติ ที่ยอดเยี่ยม ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก”
  7. The Searchers (1956) hollywood : John Ford ♥♥♥♥♡
    “The Searchers คือการออกเดินทางเพื่อค้นหาวิธีไถ่โทษตนเองของผู้กำกับ John Ford โดยมี John Wayne เป็นตัวตายตัวแทน”
  8. Chelovek s kino-apparatom (1929) USSR : Dziga Vertov ♥♥♥♥
    Chelovek s kino-apparatom ไม่ใช่แค่ Dziga Vertov ออกเดินถือกล้องถ่ายทำ แต่ยังแบกประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไว้บนบ่า
  9. The Passion of Joan of Arc (1928) French : Carl Theodor Dreyer ♠♠♠♠♠
    “อย่าริอาจเรียกตัวเองว่าคอหนัง ถ้ายังไม่เคยดู The Passion of Joan of Arc”
  10. 8 1/2 (1963) Italian : Federico Fellini ♠♠♠♠♠
    “8½ คือการออกเดินทางสู่จักรวาลอันไร้ขอบเขตพรมแดน ของผู้กำกับ Federico Fellini”
  11. Battleship Potemkin (1925) USSR : Sergei Eisenstein ♠♠♠♠♠
    “Battleship Potemkin ของผู้กำกับ Sergei Eisenstein ได้รับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ ครั้งสำคัญสุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์”
  12. L’Atalante (1934) French : Jean Vigo ♥♥♥♥♡
    “L’Atlante คือภาพยนตร์แห่งการเดินทางของความรักและชีวิตของผู้กำกับ Jean Vigo ที่มีความสวยงามที่สุดในโลก”
  13. Breathless (1960) French : Jean-Luc Godard ♥♥♡
    “Breathless ของ Jean-Luc Godard จะทำให้คุณหยุดหายใจ เพราะขาดอาการหายใจ”
  14. Apocalypse Now (1979) hollywood : Francis Ford Coppola ♥♥♥♥♡
    “Apocalypse Now คือชัยชนะของผู้กำกับ Francis Ford Coppola ต่อวันโลกาวินาศ”
  15. Late Spring (1949) : Japan – Yasujirō Ozu
    “Late Spring อีกหนึ่ง masterpiece ของ Yasujirō Ozu และ Setsuko Hara ในบท Noriko เรื่องราวของหญิงสาวในวัยที่ต้องแต่งงาน หนังแฝงแนวคิด เหตุผลของการแต่งงาน และบทสรุปที่ไม่ธรรมดา ตามสไตล์ของ Ozu”
  16. Au Hasard Balthazar (1966) French : Robert Bresson ♥
    “Au Hasard Balthazar คือความสมบูรณ์แบบในไดเรคชั่นของผู้กำกับ Robert Bresson แต่เป็นจุดตกต่ำสุดของมวลมนุษยชาติ”
  17. Seven Samurai (1954) : Japan – Akira Kurosawa
    “Seven Samurai หนังของ Akira Kurosawa นำแสดงโดย Toshiro Mifune และ Takashi Shimura นี่คือหนัง Epic ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ห้ามตายก่อนได้ดูหนังเรื่องนี้เด็ดขาด!”
  18. (=17) Persona (1966) Swedish : Ingmar Bergman ♥♥♥♥♡
    “Persona คือกระจกสองด้านในชีวิตและการงานของ Ingmar Bergman ที่สะท้อนข้างหนึ่งคือ Bibi Andersson และอีกข้างคือ Liv Ullmann”
  19. The Mirror (1975) USSR : Andrei Tarkovsky ♥♥♥
    “The Mirror กระจกสะท้อนชีวิตของผู้กำกับ Andrei Tarkovsky เขาไม่ได้อยากให้ใครเห็น จึงวางกลไกไว้อย่างลึกซึ้ง มีแต่ผู้ถูกเลือกเท่านั้นที่จะเข้าไปถึงได้”
  20. Singin’ in the Rain (1951) hollywood : Gene Kelly, Stanley Donen ♥♥♥♥♥
    “Singin’ in the Rain คือรีมิกซ์หนังเพลง ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งยุคทองคลาสสิก”
  21. L’Avventura (1960) Italian : Michelangelo Antonioni ♥♥♥♥♡
    “L’Avventura ชีวิตคือการเดินทาง เป้าหมายคืออะไร Michelangelo Antonioni ก็ตอบไม่ได้ เลยทิ้งปริศนาไว้ ให้ผู้ชมคิดวิเคราะห์ค้นหาเอง”
  22. (=21) The Godfather (1972) hollywood : Francis Ford Coppola ♥♥♥♥♡
    “The Godfather คือพ่อทูนหัวของวงการภาพยนตร์”
  23. (=21) Le Mepris(1963) : France – Jean-Luc Godard
    “Le Mepris อีกหนึ่ง masterpiece ของ Jean-Luc Godard ที่ต้องอาศัยการสังเกตและตีความพอสมควรถึงจะเข้าใจได้ ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจและชอบหนังเรื่องนี้”
  24. Ordet (1955) Danish : Carl Theodor Dreyer ♠♠♠♠♠
    “Ordet ของ Carl Theodor Dreyer คือหนังพิสูจน์ศรัทธาสุดยิ่งใหญ่ ของผู้นับถือพระเจ้า เท่านั้น!”
  25. (=24) In the Mood for Love (2000) Hong Kong : Wong Kar-Wai ♥♥♥♥♡
    “In the Mood for Love ในห้วงอารมณ์รักสไตล์ลิสของ Wong Kar-Wai มี Tony Leung Chiu-Wai ที่จะโหยระลึกหา Maggie Cheung ไปชั่วนิรันดร์”
  26. (=24) Rashomon (1950) : Japan – Akira Kurosawa
    “Rashomon เป็นหนังที่มีการเล่าเรื่องเดียวกัน แบบต่างมุมมองที่ยอดเยี่ยมมากๆ ทั้งงานภาพ ศิลป์ เพลงประกอบ กำกับโดย Akira Kurosawa นำแสดงโดย Toshiro Mifune แต่นี่ไม่ใช่หนังที่ทุกคนจะดูแล้วเข้าใจได้”
  27. Andrei Rublev (1966) USSR : Andrei Tarkovsky ♥♥♥♥♡
    ผู้กำกับ Andrei Tarkovsky ระบายภาพจิตรกรเอกชาวรัสเซีย Andrei Rublev ได้อย่างงดงาม ทรงคุณค่า จนกลายเป็นจิตวิญญาณของตนเอง
  28. Mulholland Dr. (2002) : David Lynch
    “Mulholland Drive หนังเกี่ยวกับความฝันและความจริง โดย David Lynch นี่คือหนังที่มีความซับซ้อนที่สุดในโลก”
  29. Stalker (1979) USSR : Andrei Tarkovsky ♥♥♥♥
    Stalker การนำทางเพื่อพิสูจน์ศรัทธาของผู้กำกับ Andrei Tarkovsky มีความลุ่มลึกตราตรึงยิ่ง
  30. (=29) Shoah (1985) French : Claude Lanzmann ♠♠♠♠♠
    “Shoah คือสารคดีบันทึกประวัติศาสตร์และจิตวิญญาณ ที่มองไม่เห็นด้วยตาแต่สามารถสัมผัสได้ด้วยใจ”
  31. The Godfather Part II (1974) hollywood : Francis Ford Coppola ♥♥♥♥
    “The Godfather Part II ยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่ไม่แพ้ภาคแรก มีงานสร้าง เรื่องราว ที่ใหญ่โตกว่า แต่ถ้าถามภาคไหนเยี่ยมกว่า บอกเลยว่า ตอบไม่ได้”
  32. (=31) Taxi Driver (1976) hollywood : Martin Scorsese ♥♥♥♥
    “Taxi Driver คือจิตวิญญาณที่ล่องลอยของ Martin Scorsese และ Robert De Niro จนกลายเป็นความบ้าคลั่ง สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ”
  33. Bicycle Thieves (1948) Italian : Vittorio De Sica ♥♥♥♥♡
    “Bicycle Thieves ของ Vittorio De Sica ได้ขโมย 2 อย่าง จักรยาน และหัวใจของผู้ชม”
  34. The General (1926) hollywood : Clyde Bruckman & Buster Keaton ♥♥♥♥♡
    The General คือผลงาน Masterpiece เรื่องยิ่งใหญ่ที่สุดของ Buster Keaton พาคุณราวกับกำลังนั่งรถไฟเหาะในสวนสนุก
  35. (=34) Psycho (1960) hollywood : Alfred Hitchcock ♥♥♥♥♡
    “สิ่งที่ทำให้ Psycho เป็นผลงาน Masterpiece ของ Alfred Hitchcock และเป็นอมตะ คือ ความกลัวของมนุษย์ที่ปรากฎอยู่ในหนัง”
  36. Metropolis (1927) German : Fritz Lang ♥♥♥♥
    Metropolis นิยามโลกอนาคตของผู้กำกับ Fritz Lang ที่ยังคงความยิ่งใหญ่อลังการ และเป็นจริงเหนือกาลเวลา
  37. (=36) Jeanne Dielman, 23 quai du Commerce, 1080 Bruxelles (1975)  : Chantal Akerman ♥♥♥♥
    Jeanne Dielman, 23 quai du Commerce, 1080 Bruxelles คือหุ่นเชิดของผู้กำกับ Chantal Akerman เรียบง่ายแต่ตราตรึงด้วยลีลาเฉพาะตัว
  38. (=36) Sátántangó (1994)
  39. Les Quatre Cents Coups (1959) French : François Truffaut ♥♥♥♥
    François Truffaut สรรค์สร้าง Les Quatre Cents Coups ด้วยการเปิดโลกทัศน์ใหม่ให้กับวงการภาพยนตร์
  40. (=39) La Dolce Vita (1960) Italian : Federico Fellini ♠♠♠♠♠
    “La Dolce Vita ออกค้นหาปรัชญาแห่งความสุขในชีวิต ของผู้กำกับ Federico Fellini และนักแสดงนำ Marcello Mastroianni”
  41. Journey to Italy (1954) Italian : Roberto Rossellini ♥♥♥♥♡
    “Journey to Italy คือเรื่องราวการผจญภัย มีไกด์คือ Roberto Rossellini ลูกทัวร์ประกอบด้วย Ingrid Bergman และ George Sanders ที่จะนำคุณผ่าน Naples เมืองแห่งความตายขึ้นสู่สวรรค์”
  42. (=41) Pather Panchali (1955) Indian : Satyajit Ray ♥♥♥♥
    Satyajit Ray ได้ถ่ายทอดอรุณรุ่งของชีวิต บทเพลงแห่งการเดินทาง Pather Panchali งดงามทรงคุณค่าที่สุดให้กับวงการภาพยนตร์
  43. Pierrot le Fou (1965) French : Jean-Luc Godard ♥♥♥♥♡ 
    “Pierrot le Fou คือผลงานกินเล่น ‘ป๊อปคอร์น’ ของ Jean-Luc Godard โดยมี Jean-Paul Belmondo และ Anna Karina เพิ่มรสชาดสีสันให้มีสัมผัสอันลุ่มลึกล้ำเหนือกาลเวลา”
  44. (=43) Close-Up (1990) Iranian : Abbas Kiarostami ♥♥♥♥
    “Close-Up ของผู้กำกับ Abbas Kiarostami ที่อาจไม่ใช่เป็นหนังที่ดีที่สุด แต่เป็นหนังที่แสดงถึงอัจฉริยภาพของผู้กำกับมากที่สุด”
  45. (=43) Some Like It Hot (1959) hollywood : Billy Wilder ♥♥♥♥♡
    Marilyn Monroe ได้ทำให้ Some Like It Hot ร้อนเร่าร่านชั่วนิรันดร์
  46. (=43) Playtime (1967) French : Jacques Tati ♥♥♥♥♡
    “Playtime คือสวนสนุกที่ใช้พักผ่อนคลายเครียดของ Jacques Tati มีแห่งเดียวเท่านั้นในจักรวาล”
  47. (=43) Gertrud (1964) Danish : Carl Theodor Dreyer ♥♥♥♥♡
    อิสรภาพของ Gertrud คือสิ่งที่ผู้กำกับ Carl Theodor Dreyer โหยหามาตลอดชีวิต และได้รับมาก่อนหมดสิ้นลมหายใจ
  48. Histoire(s) du Cinéma
  49. (=48) The Battle of Algiers (1966) : Italy – Gillo Pontecorvo
    “The Battle of Algiers อีกหนึ่งสุดยอดหนังโดยผู้กำกับ Gillo Pontecorvo และเพลงประกอบโดย Ennio Morricone นี่คือหนังต้นแบบของการต่อสู้สงครามแบบ Guerrilla ที่มีอิทธิพลต่อผู้ก่อการร้ายทั่วโลก”
  50. City Lights (1931) hollywood : Charlie Chaplin ♥♥♥♥♥
    City Lights คือความเจิดจรัสจร้าที่สาดส่องออกมาจากจิตวิญญาณของ Charlie Chaplin
  51. (=50) Ugetsu (1953) Japanese : Kenji Mizoguchi 
    “Ugetsu คือภาพวาด Masterpiece ของสายฝนยามแสงจันทรา ที่สามารถเคลื่อนไหวได้โดยผู้กำกับ Kenji Mizoguchi”
  52. (=50) La Jetée (1962) French : Chris Marker ♥♥♥♥
    “La Jetée หนังสั้นโดยผู้กำกับ Chris Marker มีความแปลกประหลาดในการนำเสนอ ที่สร้างความลึกล้ำ สวยงาม ไม่เหมือนใคร”
  53. North by Northwest (1959) hollywood : Alfred Hitchcock ♥♥♥♥♡
    “North by Northwest ของ Alfred Hitchcock อาจไม่ได้มีความตื่นตาเหมือนหนัง Action สมัยใหม่ แต่มีความตื่นใจจากความระทึกขวัญสุดตื่นเต้น ในทุกเทคนิคการนำเสนอ”
  54. (=53) Rear Window (1954) hollywood : Alfred Hitchcock ♥♥♥♥♡
    “Rear Window อีกหนึ่ง Masterpiece ของ Alfred Hitchcock มี James Stewart ที่ถึงจะนั่งอยู่เฉยๆ แต่ก็มีส่วนร่วมกับหนังอย่างที่สุด”
  55. (=53) Raging Bull (1980) hollywood : Martin Scorsese ♠♠♠♠♠
    “Raging Bull ชีวิตต้องเอาหัวพุ่งชนเหมือนกระทิง ภาพยนตร์อัตชีวประวัติของทั้งนักมวย Jack LaMotta ผู้กำกับ Martin Scorsese และนักแสดงนำ Robert De Niro”
  56. M (1931) German : Fritz Lang ♥♥♥♥
    M (1931) มุมมองผู้กำกับ Fritz Lang ต่อสาธารณรัฐไวมาร์ยุคสมัยนั้น ไม่ได้เรียกร้องให้ผู้ชมสงสาร แต่เข้าใจสาเหตุผลความเกรี้ยวกราด
  57. Il Gattopardo (1963) Italian : Luchino Visconti ♥♥♥♥♥
    ราชสีห์ยังไงก็เป็นราชสีห์ ไม่มีทางที่ไฮยีน่าหรือลูกแกะน้อยจะสามารถทดแทนได้ นั่นเองทำให้ Luchino Visconti และ Burt Lancaster ได้รับการจดจำไม่รู้ลืม
  58. (=57) Touch of Evil (1958) hollywood : Orson Welles ♥♥♥♥
    “Touch of Evil เป็นจดหมายสั่งลา hollywood ของ Orson Welles ที่มี Charlton Heston เล่นเป็น Mexican”
  59. Sherlock Jr. (1924) hollywood : Buster Keaton ♥♥♥♥◊
    “Sherlock Jr. คือหนังแพรวพราวด้วยเทคนิคที่สุดของ Buster Keaton ที่แฟนเดนตายจะว่ายอดเยี่ยมกว่าหนังเรื่องไหนของ Charlie Chaplin เสียอีก”
  60. (=59) Barry Lyndon (1975) hollywood : Stanley Kubrick ♥♥♥♥
    ผู้กำกับ Stanley Kubrick วาดภาพระบายสี Barry Lyndon ออกมางดงามระดับวิจิตรศิลป์
  61. (=59) The Mother and the Whore (1973) French : Jean Eustache ♥♥♥♡
    “The Mother and the Whore ของ Jean Eustache คือ Masterpiece ที่ทำให้คุณรู้สึกเบื่อสุดขีด แต่มันก็มีเหตุผลของมัน ที่อาจต้องให้นักประวัติศาสตร์ หรือชาวฝรั่งเศสเท่านั้นถึงเข้าใจได้”
  62. (=59) Sansho the Bailiff (1954) : Japan – Kenji Mizoguchi
    “Sansho the Bailiff เป็นหนังเกี่ยวกับความหมายของ ‘ความเป็นมนุษย์’ นี่อาจเป็นหนังที่ดูขาดๆเกินๆ และเห็นแก่ตัวเสียหน่อย แต่คอหนังของ Kenji Mizoguchi ไม่ควรพลาด”
  63. Wild Strawberries (1957) Swedish : Ingmar Bergman ♥♥♥♡
    “Wild Strawberries ของ Ingmar Bergman จะทำให้คุณหวนระลึกถึงอดีต และค้นหาคุณค่าชีวิตของตัวเอง”
  64. (=63) Modern Times (1936) hollywood : Charlie Chaplin ♥♥♥♥♡
    Modern Times คือการทิ้งทายและค่อยๆปรับตัวของ Charlie Chaplin สู่โลกยุคสมัยใหม่
  65. (=63) Sunset Boulevard (1950) hollywood : Billy Wilder ♥♥♥♥♡
    “Sunset Blvd. ของ Billy Wilder สร้างขึ้นเพื่อคนรักหนังโดยเฉพาะ สำหรับเป็นอุทาหรณ์สอนใจ เบื้องหน้าวงการมายาที่ยิ่งใหญ่ ข้างหลังนั้นไซร้ ใช่ว่าจะสวยงาม”
  66. (=63) The Night of the Hunter (1955) hollywood : Charles Laughton ♥♥♥♥♡
    “The Night of the Hunter คือนิทานก่อนนอนชั้นเลิศ สอนเด็กๆได้สาระ สอนผู้ใหญ่ได้ปัญญา สะท้อนเรื่องราวทางสังคมได้ทุกระดับ”
  67. (=63) Pickpocket (1959) : France – Robert Bresson
    “ไม่คิดว่าจะมีหนังเรื่องไหนที่เข้ากับสไตล์การกำกับของ Robert Bresson ได้มากกว่า Pickpocket อีกแล้ว”
  68. (=63) Rio Bravo (1959) hollywood : Howard Hawks ♥♥♥♡
    “Rio Bravo ของผู้กำกับ Howard Hawks และ John Wayne ให้นิยามความเป็น’อเมริกันชน’ได้ตรงตัวที่สุด”
  69. Blade Runner (1982) hollywood : Ridley Scott ♥♥♥♡
    “Blade Runner ภาพยนตร์อภิมหาไซไฟตั้งคำถามเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ มีเอ็ฟเฟ็กตระการตายิ่งใหญ่ และเพลงประกอบสุดล้ำยุคสมัย สร้างโดยผู้กำกับ Ridley Scott และนำแสดงโดย Harrison Ford”
  70. (=69) Blue Velvet (1986) hollywood : David Lynch ♥♥♥♥
    “Blue Velvet หนังตีแผ่ด้านมืดของสังคมและจิตใจมนุษย์ โดยผู้กำกับ David Lynch ที่ดูจบแล้วจะทำให้คุณอารมณ์นัวร์ๆ”
  71. (=69) Sans Soleil (1983) French : Chris Marker ♥♥♥♥
    “Sans Soleil ภาพยนตร์สารคดีของ Chris Marker จดบันทึกเรื่องราวการเดินทางได้อย่างสวยงาม และมีสัมผัสสอดคล้องราวกับบทกวี”
  72. (=69) A Man Escaped (1956) French : Robert Bresson ♥♥♥♥
    “A Man Escaped ด้วยสไตล์ของผู้กำกับ Robert Bresson นำเสนอการหลบหนีออกจากค่ายกักกันนาซี ได้อย่างประณีต ละมุ่นไม สมบูรณ์แบบ”
  73. The Third Man (1949) : Carol Reed
    “Carol Reed กำกับ The Third Man หนัง British ที่ยอดเยี่ยมที่สุด กับการแสดงของ Joseph Cotten และ Orson Welles เราจะได้เห็นงานภาพที่แปลกๆ เครื่องดนตรี zither การตัดต่อที่รวดเร็วฉับไว เป็นส่วนผสมที่แปลกแต่ลงตัวแบบสุดๆ”
  74. (=73) L’Eclisse (1962) Italian : Michelangelo Antonioni ♥♥♥♥
    “L’Eclisse ของผู้กำกับ Michelangelo Antonioni มีความทะเยอทะยานเป็นที่สุด อดีต ปัจจุบัน อนาคตและ Beyond”
  75. (=73) Children of Paradise (1945) French : Marcel Carné ♥♥♥♥♡
    “Children of Paradise คือจดหมายรักต่อศิลปะการแสดงทุกแขนง หนึ่งในหนังที่ยอดเยี่ยมที่สุดของฝรั่งเศส โดยผู้กำกับ Marcel Carné นำแสดงโดย Jean-Louis Barrault”
  76. (=73) The Grand Illusion (1937) French : Jean Renoir ♥♥♥♥♡
    “Jean Renoir ระบายสัจธรรมที่ถูกบดบังใน Le Grande Illusion ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อมวลมนุษยชาติ”
  77. (=73) Nashville (1975) hollywood : Robert Altman ♥♥♥♥
    Nashville ของผู้กำกับ Robert Altman สะท้อนบรรยากาศการเมืองของสหรัฐอเมริกา ช่วงทศวรรษ 60s – 70s ได้อย่างตรงไปตรงมา เจ็บแสบกระสันต์
  78. Chinatown (1974) hollywood : Roman Polanski ♥♥♥♥
    Chinatown ของผู้กำกับ Roman Polanski คือมาสเตอร์พีซที่นำเสนอด้านมืดของตัวละคร อาชญากร และสหรัฐอเมริกา
  79. (=78) Beau Travail (1999) French : Claire Denis ♥♥♥♥
    มุมมองผู้กำกับ Claire Denis ต่อบุรุษเพศ สงคราม และการล่าอาณานิคม ต้องยกย่องสรรเสริญเลยว่า Beau Travail!
  80. (=78) Once Upon a Time in the West (1968) hollywood : Sergio Leone ♥♥♥♥
    Once Upon a Time in the West คือนิทานก่อนนอนกาลครั้งหนึ่งของ Sergio Leone ทำให้ความเพ้อฝันกลับกลายเป็นจริง งดงามอลังการ และได้รับการจดจำชั่วกัลปาวสาน
  81. (=78) The Magnificent Ambersons (1942) hollywood : Orson Welles ♥♥♥♥
    “สิ่งที่เกิดขึ้นใน The Magnificent Ambersons สะท้อนโชคชะตากรรมของผู้กำกับ Orson Welles ความยิ่งใหญ่มาพร้อมกับหายนะที่ใหญ่ยิ่ง”
  82. (=78) Lawrence of Arabia (1962) : David Lean
    “Lawrence of Arabia ภาพจากหนังมีความสวยงามในระดับที่สุดที่กล้องถ่ายภาพจะสามารถบันทึกได้ และเพลงประกอบที่ไพเราะที่สุดในโลก นี่คือหนังที่ต้องดูให้ได้ ห้ามตายก่อนดู”
  83. (=78) The Spirit of the Beehive (1973) Spain : Víctor Erice ♥♥♥♥
    “The Spirit of the Beehive คือ ประวัติศาสตร์โดยย่อยุคเผด็จการ Franco ของสเปน ในคราบการเติบโตของเด็กน้อยไร้เดียงสา ผลงาน Masterpiece ของ Víctor Erice และสุดยอดการแสดงของเด็กหญิง Ana Torrent”
  84. Fanny and Alexander (1982) Swedish : Ingmar Bergman ♥♥♥♥
    “Fanny and Alexander คือโลกทั้งใบของผู้กำกับ Ingmar Bergman”
  85. (=84) Casablanca (1942) hollywood : Michael Curtiz ♥♥♥♥♡
    “Casablanca เป็นหนังที่ทำตัวเหมือนหญิงสาว ให้เราตกหลุมรักแล้วแยกจาก กาลเวลาผ่านไปกลับมารับชมอีก เกิดความหวนระลึกนึกถึงอดีต พอหนังจบก็เล่นตัวจากไปอีก”
  86. (=84) The Color of Pomegranates (1969) USSR : Sergei Parajanov ♥♥♥♥
    “The Color of Pomegranates เป็นหนังดูด้วยตาไม่มีวันเข้าใจ ดูด้วยสมองยังไม่แน่ว่าจะรู้เรื่อง ต้องใช้จิตวิญญาณสัมผัสเอาเท่านั้น จะรู้ว่านี่คือสุดยอดหนัง”
  87. (=84) Greed (1924) hollywood : Erich von Stroheim ♥♥♥♡
    “Greed ของ Erich von Stroheim คือ หนังที่สมบูรณ์แบบในความไม่สมบูรณ์”
  88. (=84) A Brighter Summer Day (1991) Taiwanese : Edward Yang ♥♥♥♥♡
    “A Brighter Summer Day คือจักรวาลชีวิตของผู้กำกับ Edward Yang”
  89. (=84) The Wild Bunch (1969) hollywood : Sam Peckinpah ♥♥♥♡
    “The Wild Bunch นำโดยหัวโจ๊ก Sam Peckinpah บรรจงนำเสนอความรุนแรงออกมาในระดับที่อาจยินยอมรับไม่ได้ แต่ในความอัปลักษณ์เลือดท่วมนั้นมีความสวยงามสมบูรณ์แบบ”
  90. Partie de campagne (1936) French : Jean Renoir ♥♥♥♥♡
    แม้ผู้กำกับ Jean Renoir จะสร้าง Partie de campagne ไม่ทำสำเร็จ แต่ก็งดงามเพียงพอให้เกิดความประทับใจ สุดฟินอิ่มหนำสุขสำราญกายใจ
  91. (=90) Aguirre: The Wrath of God (1972) German : Werner Herzog ♥♥♥♥♡
    “Aguirre, the Wrath of God ความเกรี้ยวกราดของ Klaus Kinski ชักนำพา Werner Herzog ไปสู่ฝั่งฝันและกลายเป็นตำนาน”
  92. (=90) A Matter of Life and Death (1946) British : Michael Powell & Emeric Pressburger ♥♥♥♡
    “A Matter of Life and Death ยิ่งใหญ่ระดับจักรวาล แต่ในโลกทัศน์ของชาวตะวันตก”
  93. (=90) The Seventh Seal (1957) Swedish : Ingmar Bergman ♥♥♥♥
    “The Seventh Seal ของ Ingmar Bergman ได้ทำให้ความตายกลายเป็นอมตะ”
  94. (=90) Un Chien Andalou (1929) French : Luis Buñuel ♥♥♥♥
    Un Chien Andalou เรื่องหมาๆของ Luis Buñuel และ Salvador Dalí กระแทกกระทั้น สั่นคลอนวิธีคิด ศรัทธาความเชื่อผู้คนได้อย่างเจ็บแสบกระสันต์ซ่าน
  95. (=90) Intolerance (1916) hollywood : D.W. Griffith ♥♥♥
    Intolerance คือคำรำพรรณาของ D. W. Griffith ที่มีความยิ่งใหญ่เกินกว่าจะหาอะไรมาเปรียบ
  96. (=90) Yi Yi (2000) Taiwan : Edward Yang ♥♥♥♥♥“Yi Yi ของ Edward Yang เป็นหนังครอบครัวระดับ MASTERPIECE ที่ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
  97. (=90) The Life and Death of Colonel Blimp (1943) British : Michael Powell & Emeric Pressburger ♥♥♥♥
    “The Life and Death of Colonel Blimp คือภาพยนตร์ที่เป็นตัวแทนของชาวอังกฤษ ได้อย่างตรงไปตรงมาที่สุด”
  98. (=90) Touki Bouki (1973)
  99. (=90) Angst essen Seele auf (1974) West German : Rainer Werner Fassbinder ♥♥♥♥♡
    จิตวิญญาณของ Rainer Werner Fassbinder ได้รับการถ่ายทอดผ่าน Ali: Fear Eats the Soul ด้วยความหวาดสะพรึงกลัวอย่างที่สุด
  100. (=90) Imitation of Life (1959) hollywood : Douglas Sirk ♥♥♥♥
    Imitation of Life คือกระจกสะท้อนชีวิตผู้กำกับ Douglas Sirk ที่ได้ค้นพบตัวตนเอง ฉีกกระชากหน้ากากตัวปลอม และเป็นจดหมายทิ้งท้ายสั่งลาผู้ชม
  101. (=90) The Earrings of Madame de… (1953) French : Max Ophüls ♥♥♥♥♡
    The Earrings of Madame de… คือลมหายใจที่ไม่มีวันหมดของผู้กำกับ Max Ophüls และนักแสดงคู่บารมี Danielle Darrieux”
  102. Wavelength (1967)
  103. (=102) The Conformist (1970) Italian : Bernardo Bertolucci ♥♥♥♥
    “The Conformist คือทัศนะทางการเมืองของ Bernardo Bertolucci นำเสนอด้วยความรู้สึกผ่านตัวละครของ Jean-Louis Trintignant ได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
  104. (=102) The Traveling Players (1975)
  105. (=102) Meshes of the Afternoon (1943) hollywood : Maya Deren, Alexander Hammid ♥♥♥♥
    Meshes of the Afternoon คือความโกลาหลที่เหนือความคาดหมาย
  106. (=102) Two or Three Things I Know About Her (1967) French : Jean-Luc Godard ♥♥♥
    “Two or Three Things I Know About Her คือ Essay เรียงความฉบับภาพยนตร์ของ Jean-Luc Godard ที่ใช่ว่าจะมีคนอยากอ่านเสียเท่าไหร่”
  107. (=102) The Tree of Life (2011) hollywood : Terrence Malick ♥♥♥♥♡
    “Tree of Life คือการค้นหาทางจิตวิญญาณของ Terrence Malick เฉพาะผู้ถูกเลือกเท่านั้นที่จะพบเห็นความสวยงามของชีวิต”
  108. (=102) Ivan the Terrible (1944, 1958) USSR : Sergei Eisenstein ♥♥♥
    “Ivan the Terrible คือจุดสิ้นสุดของ Sergei Eisenstein ทั้งยุคสมัยและชีวิต”
  109. (=102) Last Year at Marienbad (1961) French : Alain Resnais ♠♠♠♠♠
    “Last Year at Marienbad ของ Alain Resnais มีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่รู้ อาจมีเกิดขึ้น ไม่มีเกิดขึ้น หรืออาจมีไม่มีเกิดขึ้นก็ได้”
  110. The Lady Eve (1941) hollywood : Preston Sturges ♥♥♥
    “The Lady Eve ความบันเทิงที่สะท้อนตัวตนของผู้กำกับ Preston Sturges ชอบไม่ชอบอยู่ที่รสนิยมส่วนตัว”
  111. (=110) Los Olvidados (1950) Mexican : Luis Buñuel ♥♥♥♥
    “Los Olvidados ในมุมมองของ Luis Buñuel โลกใบนี้โหดโฉดเลวร้ายสิ้นดี นี่เป็นความจริงที่ทุกคนต้องยอมรับให้ได้”
  112. (=110) Bringing Up Baby (1938) hollywood : Howard Hawks ♥♥♥♥♡
    “Bringing Up Baby หนังตลกไร้สาระขบขันที่สุดของ Howard Hawks กับการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของ Katharine Hepburn และ Cary Grant”
  113. (=110) Performance (1970) British : Donald Cammell & Nicolas Roeg ♥♥♥♡
    “Performance คือผสมผสานการแสดงที่สมบูรณ์แบบของ Donald Cammell & Nicolas Roeg และ James Fox & Mick Jagger”
  114. (=110) The Passenger (1974)
  115. (=110) Viridiana (1961) Spainish : Luis Buñuel ♥♥♥
    “Viridiana เป็นหนังที่น่าจะเxย เลวร้ายที่สุด ที่ Luis Buñuel จะสามารถสร้างให้ออกฉายได้”
  116. (=110) L’Age d’Or (1930) French : Luis Buñuel ♥♥♥♡
    L’Age d’or ความคิดที่อยู่เหนือของ Luis Buñuel เกินกว่าคนธรรมดาจะเข้าใจ แต่ถ้าสามารถไต่ไปสัมผัสเพียงขี้เล็บนิ้วเท้า จะพบเห็นโลกใบใหม่ที่กลับหัวกลับหางโดยสิ้นเชิง
  117. A Canterbury Tale (1944) British : Michael Powell & Emeric Pressburger ♥♥♥♥♡
    “A Canterbury Tale แม้จะมิได้ย้อนไปยุคกลาง แต่การหวนระลึกอดีตก่อให้เกิดความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ชาติที่สุดแล้ว”
  118. (=117) Mouchette (1967) French : Robert Bresson ♥♥♡
    “Mouchette สาวน้อยผู้น่าสงสาร ดีแล้วที่ตอนจบเธอจากไป โลกใบนี้ที่ Robert Bresson สร้างมา มันช่างไม่น่าอภิรมย์เสียเลย”
  119. (=117) Dr. Strangelove (1964) hollywood : Stanley Kubrick ♥♥♥♥♥
    “Dr. Strangelove ได้พลิกโลกให้กลับตารปัตร นำเรื่องอึดอัดอั้น อกแตกตาย มาทำการเสียดสี ล้อเลีย(น) น้ำแตก ขี้กระจาย”
  120. (=117) Nosferatu (1922) German : F. W. Murnau ♥♥♥♡
    Nosferatu ฉบับของ F. W. Murnau แม้จะไม่สามารถหลอกหลอนผู้ชมปัจจุบันได้ แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ Dracula ที่ยิ่งใหญ่
  121. (=117) The Red Shoes (1948) : Michael Powell & Emeric Pressburger
    “The Red Shoes หนังที่สมบูรณ์พร้อมในทุกด้าน ภาพสวย เพลงเพราะ ตัดต่อฉับไว ออกแบบฉากอลังการ โดยผู้กำกับ Michael Powell & Emeric Pressburger พบกับสุดยอดการแสดงบัลเล่ต์ของ Moira Shearer และการแสดงของ Anton Walbrook ที่ลึกล้ำ คอหนังไม่ควรพลาด”
  122. (=117) Trouble in Paradise (1932) hollywood : Ernst Lubitsch ♥♥♥♥
    “เรื่องวุ่นๆบนเตียง Trouble in Paradise ของผู้กำกับ Ernst Lubitsch ช่างมีความลึกล้ำซับซ้อน เลิศหรูหรา เฉียบคมคายเสียเหลือเกิน”
  123. (=117) A City of Sadness (1989) : Taiwan – Hou Hsiao-Hsien
    “Hou Hsiao-Hsien สามารถถ่ายทอดบรรยากาศ ความรู้สึกของผู้คนในช่วง การสังหารหมู่ 228 ออกมาใน A City of Sadness ได้สมจริงและเหนือชั้นมากๆ”
  124. (=117) Amarcord (1973) Italian : Federico Fellini ♥♥♥♥♡
    เศษเสี้ยวความทรงจำของ Federico Fellini ที่ปรากฎใน Amarcord ช่างมีความงดงาม ตราตรึง สมบูรณ์แบบ
  125. (=117) The Man Who Shot Liberty Valance (1962) hollywood : John Ford ♥♥♥♥♡
    “The Man Who Shot Liberty Valance ไม่ว่า John Wayne หรือ James Stewart จะเป็นคนยิง แต่ผู้ได้รับเสรีภาพคือ John Ford”
  126. (=117) Days of Heaven (1978) hollywood : Terrence Malick ♥♥♥♥
    “Days of Heaven คือภาพความทรงจำวันวานของ Terrence Malick ที่สวยงามราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์”
  127. Spring in a Small Town (1948) Chinese : Fei Mu ♥♥♥♥
    Spring in a Small Town ถ่ายทอดจิตวิญญาณของชนชาวจีน ยุคสมัยหลังสิ้นสุดสงครามได้อย่างสมบูรณ์แบบ
  128. (=127) Do the Right Thing (1989) hollywood : Spike Lee ♥♥♥♥
    “Do the Right Thing แม้สิ่งที่ผู้กำกับ Spike Lee นำเสนอออกมาจะไม่ถูกต้องเหมาะสมควรทั้งหมด แต่สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์แบบ”
  129. (=127) Out 1 (1990)
  130. (=127) สัตว์ประหลาด (2004) : อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล
    “หนังไทยที่ยอดเยี่ยมที่สุด!”
  131. (=127) The River (1951) French : Jean Renoir ♥♥♥♥
    ความงดงามของ The River ยังคงสวยสดใส น่าประทับใจเหมือนตอนที่ Jean Renoir เริ่มวาดภาพระบายสี 
  132. (=127) Jules et Jim (1962) French : François Truffaut ♥♥♥♥
    “Jules et Jim เป็นหนังที่เต็มไปด้วยภาษาภาพยนตร์ในสไตล์ของ François Truffaut กับสุดยอดการแสดงของ Jeanne Moreau ถ่ายภาพโดย Raoul Coutard และเพลงประกอบสุดไพเราะโดย Georges Delerue”
  133. (=127) Pulp Fiction (1994) hollywood : Quentin Tarantino ♥♥♥♥
    “Pulp Fiction คือตั๋วหนังราคาถูกของ Quentin Tarantino แต่คุณภาพความบันเทิงกลับล้นคลั่ง”
  134. (=127) Meet Me in St. Louis (1944) hollywood : Vincente Minnelli ♥♥♥♥♥
    “Meet Me in St. Louis ยังคงสวยสดใส เหมือนการหวนระลึกถึงความทรงจำวัยเด็ก อิ่มเอิบ อบอุ่น สุขใจ และอาจเป็นหนังยอดเยี่ยมที่สุดของ Judy Garland”
  135. (=127) L’Argent (1983) French : Robert Bresson ♥♥♥♥
    “L’Argent ในกระเป๋าสตางค์ของผู้กำกับ Robert Bresson ซื้อได้แต่ใบเบิกทางขึ้นสู่สรวงสวรรค์เท่านั้น”
  136. (=127) Ikiru (1952) : Japan – Akira Kurosawa
    “Ikiru หนังของ Akira Kurosawa นำแสดงโดย Takashi Shimura นี่คือหนังที่ต้องดูให้ได้ก่อนตาย คุณค่าของหนังเรื่องนี้คือการคิดตามเมื่อดูจบ ว่าฉันเกิดมาเพื่ออะไร? มีชีวิตที่คุ้มค่าหรือไม่?”
  137. (=127) Three Colors: Blue (1993)
  138. (=127) Don’t Look Now (1973) British : Nicolas Roeg ♥♥♥♥♡
    “Don’t Look Now ของ Nicolas Roeg ท้าทายความคิดของมนุษย์กับความเชื่อในสิ่งลึกลับ สุดยอดทั้งงานภาพ ตัดต่อ และการแสดงของ Donald Sutherland กับ Julie Christie”
  139. (=127) Celine and Julie Go Boating (1974)
  140. (=127) Annie Hall (1977) hollywood : Woody Allen ♥♥♥♡
    “Annie Hall ไม่ใช่แค่หนังรักรอมคอมของ Woody Allen กับ Diane Keaton แต่คืออัตชีวประวัติเรื่องเยี่ยมที่สุดในโลก”
  141. (=127) The Apartment (1960) hollywood : Billy Wilder ♥♥♥♥♥
    The Apartment คือหัวใจของ Billy Wilder ที่มี Jack Lemmon และ Shirley MacLaine อาศัยอยู่ชั่วนิรันดร์
  142. (=127) Der letzte Mann (1924) German : F. W. Murnau ♥♥♥♥♡
    Der letzte Mann คือหนังเงียบที่แท้จริง!
  143. (=127) Hiroshima mon amour (1959) French : Alain Resnais ♥♥♥♥♡
    “Hiroshima mon amour ของ Alain Resnais คือจดหมายรัก ที่ย้ำเตือนไม่ให้ผู้ชมลืมเลือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ Hiroshima นำแสดงโดย Emmanuelle Riva และ Eiji Okada”
  144. Blow-Up (1966) British : Michelangelo Antonioni ♥♥♥♥♡
    “Blow-Up ของผู้กำกับ Michelangelo Antonioni เป็นเทรนด์แฟชั่นที่แม้ปัจจุบันอาจดูตกยุค แต่ยังมีความล้ำสมัย”
  145. (=144) The Great Dictator (1940) hollywood : Charlie Chaplin ♥♥♥♡
    “The Great Dictator คือความตั้งใจอันดีของ Charlie Chaplin แต่ก็ทำให้รู้ว่าหนังพูดไม่เหมาะกับเขาเท่าไหร่”
  146. (=144) Memories of Underdevelopment (1966)
  147. (=144) Diary of a Country Priest (1951) French : Robert Bresson ♥♥
    “Diary of a Country Priest ของ Robert Bresson อาจเป็นหนัง Catholic ที่ดีที่สุด แต่ไม่ใช่กับศาสนาอื่น”
  148. (=144) Chungking Express (1994) Hong Kong : Wong Kar-wai ♥♥♥♥♥
    “Chungking Express หนังที่มีเรื่องราวและบรรยากาศสไตล์ของ Wong Kar-Wai ที่จะทำให้คุณอกหัก ตกหลุมรัก แล้วจะอกหัก และตกหลุมรัก อย่างไม่มีที่สิ้นสุด”
  149. (=144) To Be or Not to Be (1942) hollywood : Ernst Lubitsch ♥♥♥♥♡
    “สิ่งที่ผู้กำกับ Ernst Lubitsch ปลุกปั้นให้ Jack Benny กลายเป็นใน To Be or Not to Be คือตำนานสุดคลาสสิกอมตะ”
  150. (=144) A Woman Under the Influence (1974) hollywood : John Cassavetes ♠♠♠♠♠
    A Woman Under the Influence คือผลงานหลุดโลกของผู้กำกับ John Cassavetes ส่งให้ Gena Rowlands กลายเป็นนักแสดงทรงอิทธิพลแห่งวงการภาพยนตร์
  151. (=144) Napoléon (1927) French : Abel Gance ♥♥♥♥
    Napoléon คือวิสัยทัศน์ ความทะเยอทะยานของผู้กำกับ Able Gance ปิดฉากยุคสมัยหนังเงียบได้อย่างอลังการสุดยิ่งใหญ่
  152. (=144) Vivre sa vie (1962) French : Jean-Luc Godard ♥♥♥♡
    “Vivre sa vie การสร้างทฤษฎีปรัชญาด้วยภาษาภาพยนตร์ของ Jean-Luc Godard เป็น Masterpiece ที่คงหาดูที่ไหนอีกไม่ได้แล้ว”
  153. (=144) The Wizard of Oz (1939) hollywood : Victor Fleming ♥♥♥♥
    “The Wizard of Oz แม้จะไม่ใช่หนังที่ยอดเยี่ยมสมบูรณ์แบบ แต่ไม่เคยมีใครหยุดพูดถึง เด็กๆรับชมจะเรียนรู้จดจำนำไปเป็นแบบอย่าง ส่วนผู้ใหญ่จะมองเห็นความคุณค่าในสิ่งที่ต่างออกไป”
  154. Marketa Lazarová (1967)
  155. (=154) Caché (2005) French : Michael Haneke ♥♥♥♥
    ผู้กำกับ Michael Haneke ตีแผ่สัจธรรมความจริงที่หลบซ่อนเร้นใน Caché ให้โลกได้ประจักษ์รับรู้
  156. (=154) The Shining (1980) hollywood : Stanley Kubrick ♥♥♥♥
    “The Shining คือความเสียสติแตกของ Jack Nicholson แต่ผู้กำกับ Stanley Kubrick ถือว่าบ้าคลั่งไร้สติสมประดี”
  157. (=154) Solaris (1972) USSR : Andrei Tarkovsky ♥♥♥♥
    การค้นพบอันยิ่งใหญ่ที่สุดของผู้กำกับ Andrei Tarkovsky ในภาพยนตร์ Solaris คือวิธีติดต่อสื่อสารกับจิตวิญญาณเราเอง
  158. (=154) Chimes at Midnight (1965) : Orson Welles ♥♥♥♥♡
    “Chimes at Midnight เป็น magnum opus ของ Orson Welles คือชีวิตจริง ตัวตน ปรัชญา ความไม่อยากแต่จำเป็น โอ้! ทำไมชีวิตของอัจฉริยะถึงได้เป็นแบบนี้”
  159. (=154) The Gold Rush (1925) hollywood : Charlie Chaplin ♥♥♥♥♡
    “The Gold Rush ทองแท้อยู่ในภูเขา เช่นเดียวกับจิตใจที่ดีของคนอยู่ภายใน ไม่ใช่หน้าตาหรือรูปลักษณ์ภายนอก”
  160. (=154) Letter from an Unknown Woman (1948) hollywood : Max Ophüls ♥♥♥♡
    จดหมายรัก Letter from an Unknown Woman ของ Max Ophüls คงยอดเยี่ยมได้กว่านี้ ถ้าไม่ถูกบดบังวิสัยทัศน์จาก Hollywood
  161. (=154) Brief Encounter (1945) British : David Lean ♥♥♥♥♡
    “Brief Encounter ของ David Lean มีความอมตะที่สวยงาม กับความรักที่อยู่ในธรรมเนียม”
  162. (=154) In a Lonely Place (1950) hollywood : Nicholas Ray ♥♥♥♥♡
    “In a Lonely Place โคตรหนังนัวร์ที่จะทำให้จิตใจของผู้ชมแตกสลาย”
  163. (=154) Black Narcissus (1947) : Michael Powel & Emeric Pressburger
    “Black Narcissus โดยผู้กำกับ Michael Powell และ Emeric Pressburger นำแสดงโดย Deborah Kerr พบกับเรื่องราวที่แฝงแนวคิด เชิงจิตวิทยาวิเคราะห์ที่ตัวละครมีความลึกลับซ้ำซ้อน ภาพสวย ออกแบบฉากยอดเยี่ยม จัดเป็นอีกหนึ่งสุดยอดหนังที่ไม่ควรพลาด”
  164. (=154) My Neighbor Totoro (1988) Japanese : Hayao Miyazaki ♥♥♥♥
    “My Neighbor Totoro คือเพื่อนรักในจินตนาการของ Hayao Miyazaki ที่กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งวงการภาพยนตร์”
  165. (=154) Only Angels Have Wings (1939) hollywood : Howard Hawks ♥♥♥♡
    “Only Angles Have Wings คือคำอธิษฐานของผู้กำกับ Howard Hawks ที่อยากแก้ตัวใหม่ในสิ่งที่เคยทำผิดพลาดไป”
  166. (=154) Vampyr (1932) French : Carl Theodor Dreyer ♥♥♥♥
    “Vampyr หนังแวมไพร์ขึ้นหิ้งของ Carl Theodor Dreyer แค่เพียงเงา ก็ทำให้คุณฝันร้ายได้”
  167. (=154) Come and See (1985) USSR : Elem Klimov ♥♥♥♥♡
    “Come and See เข้ามาและหันหน้ายอมรับกับความจริงในสิ่งที่เคยเกิดขึ้น สุดยอดหนังที่มีความทรงพลัง ทั้งงานภาพ เสียง การแสดง ตัดต่อ นี่คือหนังเกี่ยวกับสงครามที่ดีที่สุดในโลก”
  168. (=154) Distant Voices, Still Lives (1988)
  169. (=154) Once Upon a Time in America (1984) hollywood : Sergio Leone ♥♥♥♥
    Once Upon a Time in America กาลครั้งสุดท้ายของ Sergio Leone ก่อนตื่นจากความฝันที่แม้เนิ่นยาวนาน แต่กลับไม่รู้ลืมเลือน
  170. (=154) Cries and Whispers (1972) Swedish : Ingmar Bergman ♥♥♥♡
    “Cries and Whispers ของ Ingmar Bergman ถ้าหนังไม่ทำให้คุณร้องไห้ ก็จะได้ยินแค่เสียงกระซิบกระซาบ”
  171. King Kong (1933) hollywood : Merian C. Cooper, Ernest B. Schoedsack ♥♥♥♡
    ต้นฉบับ King Kong (1933) ถีงจะมีความดีกดำบรรพ์ แต่คือบรรพบุรุษของภาพยนตร์ที่ใช้ Special Effect สร้างสิ่งมีชีวิตแห่งจินตนาการ กลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ลำดับที่แปดของโลก
  172. (=171) The Werckmeister Harmonies (2000)
  173. (=171) Star Wars (1977)
  174. (=171) Notorious (1946) hollywood : Alfred Hitchcock ♥♥♥♥
    “ยิ่งฉาวยิ่งดัง ความฉาวโฉ่ใน Notorious คือความอมตะของ Ingrid Bergman และ Cary Grant โดยผู้กำกับ Alfred Hitchcock”
  175. (=171) His Girl Friday (1940) hollywood : Howard Hawks ♥♥♥♥♡
    “His Girl Friday หนัง Screwball Comedy ที่น่าจะไร้สาระของ Howard Hawks นำแสดงโดย Cary Grant และ Rosalind Russel แต่กลับตั้งคำถามเกี่ยวกับจรรยาบรรณ และความคอรัปชั่นของมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง”
  176. (=171) GoodFellas (1990) hollywood : Martin Scorsese ♥♥♥♥
    “Martin Scorsese ได้ทำให้ GoodFellas กลายเป็นมาเฟียเพื่อนสนิทสอนใจผู้ชม”
  177. (=171) The Umbrellas of Cherbourg (1964) French : Jacques Demy ♥♥♥♥♡
    “Les Parapluies de Cherbourg เรียบง่าย กินใจ เป็นหนังเพลงที่ทรงพลังที่สุดในโลก”
  178. (=171) A Trip to the Moon (1902) French : Georges Méliès ♠♠♠♠♠
    “A Trip to the Moon ของผู้กำกับ George Méliès ถือว่าได้ทำความฝันของมนุษย์ชาติให้กลายเป็นจริง”
  179. (=171) Sweet Smell of Success (1957)
  180. (=171) Kind Hearts and Coronets (1949) British : Robert Hamer ♥♥♥♥
    Kind Hearts and Coronets สอนให้รู้ว่า อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง
  181. (=171) Tabu (1931) hollywood : F. W. Murnau ♥♥♥♥♡
    “Tabu ของผู้กำกับ F. W. Murnau คือความบริสุทธิ์เดียงสา ไร้มลทินชั่วร้ายใดๆเจือปน”
  182. (=171) Earth (1930) Ukrainian : Alexander Dovzhenko ♥♥♥♡
    “Earth คือหนังที่มีความงดงามดังบทกวี ทั้งงานภาพ การแสดง และเรื่องราวที่แฝงใจความอันลึกซึ้ง”
  183. Breaking the Waves (1996)
  184. (=183) The Grapes of Wrath (1940) hollywood : John Ford ♥♥♥♥
    “The Grapes of Wrath ของผู้กำกับ John Ford แม้เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดของ Henry Fonda แต่ก็อ่อนโยนเบาลงด้วยความซาบซึ้งกินใจของ Jane Darwell”
  185. (=183) Paris, Texas (1984) German : Wim Wenders ♥♥♥♥♡
    “Texas, Paris ของผู้กำกับ Wim Wenders ล่องลอยเรื่อยเปื่อยสู่เป้าหมายที่อาจเดินไม่พบคำตอบ แต่มีความสวยงามราวกับบทกวี”
  186. (=183) E.T. the Extra-Terrestrial (1982) hollywood : Steven Spielberg ♥♥♥♥
    E.T. the Extra-Terrestrial คือความมหัศจรรย์ราวกับเวทย์มนต์ ส่งให้ผู้กำกับ Steven Spielberg กลายเป็นพ่อมดแห่งวงการภาพยนตร์
  187. (=183) Rome, Open City (1945) Italian : Roberto Rossellini ♥♥♥♥
    “Rome, Open City คือ Masterpiece ของ Roberto Rossellini ถึงการสร้างที่มีข้อจำกัดมากมาย แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ในระดับที่กลายเป็นเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของวงการภาพยนตร์อิตาเลี่ยน”
  188. (=183) Faces (1968) hollywood : John Cassavetes ♥♥♥♥
    John Cassavetes ทำการกระชากหน้ากากของ Faces เปิดเผยสิ่งเท็จจริงที่สุดแห่งวงการภาพยนตร์
  189. (=183) Jalsaghar (1958) Bollywood : Satyajit Ray ♥♥♥♥♡
    Jalsaghar คือห้องแสดงดนตรีแห่งศักดิ์ศรี กินไม่ได้แต่สามารถฆ่าคนตาย
  190. (=183) The Story of the Late Chrysanthemum (1939)
  191. (=183) A Touch of Zen (1971) Taiwanese : King Hu ♠♠♠♠♠
    “A Touch of Zen สัมผัสแห่งการหลุดพ้นของ King Hu ผลงานระดับ Masterpiece ที่สวยงาม ตราตรึง ลึกซึ้ง ไร้เทียมทาน”
  192. (=183) Listen to Britain (1942)
  193. (=183) Day of Wrath (1943) Danish : Carl Theodor Dreyer ♥♥♥
    Carl Theodor Dreyer ได้ทำการสารภาพความเกรี้ยวกราดโกรธกับ Day of Wrath จนพระผู้เป็นเจ้าต้องยินยอมให้อภัย แต่คนดูนั้นไซร้ก็แล้วแต่รสนิยม
  194. (=183) The Thin Red Line (1998) hollywood : Terrence Malick ♥♥♥♥
    “The Thin Red Line ตั้งคำถามปรัชญาสงคราม ความขัดแย้ง และการต่อสู้ งดงามวิจิตรในสไตล์ของ Terrence Malick”
  195. (=183) Eraserhead (1976)
  196. (=183) The Texas Chain Saw Massacre (1974) hollywood : Tobe Hooper ♥♥♥
    “The Texas Chain Saw Massacre คือ Masterpiece ของหนังแนว Horror สวยงามล้ำในแง่ของศิลปะ แต่ไร้ซึ่งขอบเขตจิตสำนึก เหตุผลทางมโนธรรม”
  197. (=183) The Discreet Charm of the Bourgeoisie (1972) French : Luis Buñuel ♥♥♥♥♡
    “The Discreet Charm of the Bourgeoisie นี่น่าจะเป็นหนังที่ดูง่าย สนุกที่สุด ตลกที่สุดของ Luis Buñuel”
  198. (=183) The Conversation (1974) hollywood : Francis Ford Coppola ♥♥♥♥
    “The Conversation ถึงการสนทนาของ Gene Hackman จะไม่อยากให้ใครอื่นได้ยิน แต่ Francis Ford Coppola ทำให้มันกึกก้องกังวาลดังทั่วผืนปฐพี”
  199. (=183) Out of the Past (1947) hollywood : Jacques Tourneur ♥♥♥♥♡
    “Out of the Past อดีตที่ไม่มีวันเอาชนะ แต่กลับทำให้ผู้กำกับ Jacques Tourneur และ Robert Mitchum กลายเป็นอมตะ อนาคตไม่รู้ลืม”
  200. (=183) I Was Born, But… (1932) Japan : Yasujirô Ozu ♥♥♥♥◊
    “I Was Born, But… แม้จะเป็นผลงานในยุคแรกๆของ Yasujirô Ozu แต่ยังโดดเด่นในสไตล์และเรื่องราวแฝงแนวคิดการใช้ชีวิต ต่อเด็กและผู้ใหญ่”
  201. (=183) I Know Where I’m Going! (1945)
  202. The Death of Mr. Lazarescu (2005)
  203. (=202) Red Desert (1964)
  204. (=202) Chelsea Girls (1966)
  205. (=202) Badlands (1973) hollywood : Terrence Malick ♥♥♥♥
    Badlands ผลงานแจ้งเกิดระดับตำนานของ Terrence Malick ชั่วร้ายแต่งดงามบริสุทธิ์ อาจจะครั้งแรกครั้งเดียวในวงการภาพยนตร์
  206. (=202) Im Lauf der Zeit (1976) German : Wim Wenders ♥♥♥♥
    ผู้กำกับ Wim Wenders ได้กลายเป็น Kings of the Road ตัวจริงเสียงจริง
  207. (=202) There Will Be Blood (2007) hollywood : Paul Thomas Anderson ♥♥♥♥♡
    “There Will Be Blood ได้ทำให้ผู้กำกับ Paul Thomas Anderson เลือดท่วมเต็มจอ ด้วยความบ้าคลั่งไร้ขอบเขตของ Daniel Day-Lewis”
  208. (=202) WALL-E (2008)
  209. (=202) Berlin Alexanderplatz
  210. (=202) Videodrome (1983)
  211. (=202) Daisies (1966)
  212. (=202) Uncle Boonmee Who Can Recall His Past Lives (2010)
  213. (=202) Manhattan (1979) hollywood : Woody Allen ♥♥♥♥♡
    “Manhattan ผลงาน Masterpiece ของ Woody Allen สวยล้ำด้วยภาพขาว-ดำ ของ Gordon Willis และยิ่งใหญ่ทรงพลังด้วยบทเพลงของ George Gershwin”
  214. (=202) Cléo de 5 à 7 (1962) French : Agnès Varda ♥♥♥♥
    ผู้กำกับ Agnès Varda บรรจงเขียนแต่ง Cléo de 5 à 7 จนสามารถก้าวผ่านข้อจำกัดเพศหญิง สู่อิสรภาพอันไร้ขอบเขต
  215. (=202) West of the Tracks (2002)
  216. (=202) Russian Ark (2002)
  217. (=202) A Tale of Tales (1979)
  218. (=202) Spirited Away (2001) Japanese : Hayao Miyazaki ♥♥♥♥♥
    “ถอดวิญญาณล่องลอยไปกับ Spirited Away ในโลกของ Hayao Miyazaki แค่เพียงบทเพลงของ Joe Hisaishi ก็ทำให้คุณไม่อยากหวนกลับคืนร่างแล้ว”
  219. (=202) La Strada (1954) Italian : Federico Fellini ♥♥♥♥♡
    “La Strada คือเหตุผลการมีตัวตนของผู้กำกับ Federico Fellini มี Anthony Quinn กับ Giulietta Masina เป็นตัวตายตัวแทนได้อย่างซาบซึ้งกินใจที่สุดแล้ว”
  220. (=202) Paisan (1946) Italian : Roberto Rossellini ♥♥♥♡
    “Paisà ของผู้กำกับ Roberto Rossellini แม้การสื่อสารทางภาษาจะเข้าใจไม่ตรงกัน แต่หนังมีใจความสู่จุดมุ่งหมายเดียวกัน ทั้งในแง่เรื่องราวและสาสน์ในสื่อภาพยนตร์”
  221. (=202) The Shop Around the Corner (1940) hollywood : Ernst Lubitsch ♥♥♥♥
    “The Shop Around the Corner ร้านของผู้กำกับ Ernst Lubitsch ถึงจะหลบซ่อนอยู่ตรงหัวมุม แต่ James Stewart กับ Margaret Sullavan กลับไม่เคยเดินเข้าร้านผิด”
  222. (=202) The Big Sleep (1946) hollywood : Howard Hawks ♥♥♥♡
    “ในโลกอาชญากรรมของ The Big Sleep ดูไม่รู้เรื่องก็ช่างมัน แค่การแสดงของ Bogart & Bacall เหลือเฟือเพียงพอแล้วกระมัง”
  223. (=202) Killer of Sheep (1977)
  224. (=202) Wanda (1970)
  225. (=202) Germania anno zero (1948) : Roberto Rossellini ♥♥♥
    Roberto Rossellini ทำให้ Germania anno zero เริ่มต้นจากศูนย์และมาจบสิ้นที่สูญ
  226. (=202) The Life of Oharu (1952) : Japan – Kenji Mizoguchi
    “The Life of Oharu อีกหนึ่ง masterpiece จาก Kenji Mizoguchi นำแสดงโดย Kinuyo Tanaka อย่าเพิ่งยอมแพ้ถ้าคิดว่าตัวเองโชคร้าย ไม่มีใครในโลกที่จะซวยได้มากกว่า Oharu อีกแล้ว”
  227. (=202) Army of Shadows (1969) French : Jean-Pierre Melville ♥♥♥♥
    “Army of Shadows คือโลกในความทรงจำของ Jean-Pierre Melville ถ่ายทอดออกมาเต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณ”
  228. (=202) Salò, or the 120 Days of Sodom (1975) Italian : Pier Paolo Pasolini ♥♥♡
    “Salò, or the 120 Days of Sodom ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนตกนรกทั้งเป็น แต่ผู้กำกับ Pier Paolo Pasolini กลับได้ขึ้นสู่สรวงสวรรค์ชั้นฟ้า”
  229. (=202) Duck Soup (1933) United State : Leo McCarey ♥♥♥♥
    รสชาดของ Duck Soup อาจไม่ถูกปากทุกคน แต่เมื่อได้ลิ้มลองเพียงครั้งเดียว น้อยนักจะสามารถหลบหลีกหนี Marx Brothers ได้อีกต่อไป
  230. (=202) The Devil Probably (1977)
  231. (=202) The Turin Horse (2011)
  232. (=202) Love Streams (1984)
  233. (=202) The Exterminating Angel (1962) Mexican : Luis Buñuel ♥♥♥♥
    “The Exterminating Angel ถึง Luis Buñuel จะสามารถฉุดนางฟ้าให้ตกสวรรค์ได้สำเร็จ แต่ตัวเขากลับขึ้นสวรรค์กลายเป็นตำนานค้างฟ้า สอยยังไงก็ไม่มีวันตก”
  234. (=202) Floating Clouds (1955) Japanese : Mikio Naruse ♥♥♥♥
    “Floating Clouds ผลงาน Masterpiece ของ Mikio Naruse ที่จะทำให้คุณล่องลองเหมือนก้อนเมฆ ตามหาจุดเชื่อมกันระหว่างความฝันกับความจริง”
  235. The Piano (1993) New Zealand : Jane Campion ♥♥♥♥♡
    “The Piano (น่าจะ)คือหนัง Feminist เรื่องเยี่ยมที่สุดในโลก”
  236. (=235) Gone with the Wind (1939) hollywood : Victor Fleming ♥♥♥♥
    Gone with the Wind คือสายลมที่ยังคงพัดผ่าน เหนือกาลเวลา ยิ่งใหญ่คลาสสิก
  237. (=235) Melancholia (2011)
  238. (=235) The House Is Black (1962)
  239. (=235) Das Cabinet des Dr. Caligari (1920) German : Robert Wiene ♥♥♥♥
    Das Cabinet des Dr. Caligari คือตู้เก็บประวัติศาสตร์เยอรมัน ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
  240. (=235) Red River (1948) hollywood : Howard Hawks ♥♥♥♥
    “Red River ลำธารที่ Howard Hawks ให้ John Wayne กับ Montgomery Clift ต้อนวัวข้ามไปนี้ มีความกว้างใหญ่อลังการที่สุดแล้ว”
  241. (=235) A Clockwork Orange (1971) British : Stanley Kubrick 
    “โลกอนาคตในจินตนาการของ Stanley Kubrick มี Malcolm McDowell กลายร่างเป็น A Clockwork Orange รูปลักษณ์ภายนอกเหมือนจักรกล แต่ภายในคลุ้มคลั่งด้วยความรุนแรง”
  242. (=235) Two-Lane Blacktop (1971)
  243. (=235) An Autumn Afternoon (1962) Japanese : Yasujirō Ozu ♥♥♥♥♡
    “An Autumn Afternoon ผลงานทิ้งท้ายของ Yasujirō Ozu ความเสียสละของพ่อช่างงดงาม ซาบซึ้งกินใจ สั่นสะท้านถึงทรวง”
  244. (=235) The Thin Blue Line (1988) hollywood : Errol Morris ♥♥♥♥
    The Thin Blue Line ของผู้กำกับ Errol Morris ได้ทำการเบลอเส้นแบ่งระหว่างภาพยนตร์-สารคดี เรื่องแต่ง-เหตุการณ์จริง ได้อย่างมีสีสันสไตล์ลิสต์
  245. (=235) Apur Sansar (1959) Bollywood : Satyajit Ray ♥♥♥♥♥
    Apur Sansar ของ Satyajit Ray คือภาพยนตร์ที่เป็น ‘จิตสำนึก’ แห่งมวลมนุษยชาติ
  246. (=235) The Testament of Dr. Mabuse (1933)
  247. (=235) My Darling Clementine (1946) hollywood : John Ford ♥♥♥♥
    “My Darling Clementine คือภาพยนตร์ Western ที่มีความสุภาพอ่อนหวานที่สุดของ John Ford และ Henry Fonda”
  248. (=235) The Double Life of Veronique (1991)
  249. (=235) Kes (1969) British : Ken Loach ♥♥♥♥
    จิตวิญญาณของ Kes ช่างมีความสง่างาม น่าเกรงขาม มองจากฟากฟ้านภา พบเห็นภาพรวมของสังคมที่ไม่น่าอภิรมณ์เริงใจเลยสักนิด
  250. (=235) Three Colors: Red (1994)
  251. (=235) The Big Lebowski (1998) hollywood : Joel Coen ♥♥♥♥♡
    “The Big Lebowski หนังติสต์ๆของคนแนวๆ โดย Coen Brothers และสุดยอดการแสดงของ Jeff Bridges ที่อาจทำให้คุณกลายเป็น The Dude โดยไม่รู้ตัว”
  252. (=235) Das weiße Band (2009) German : Michael Haneke ♥♥♥♥
    Das weiße Band ริบบิ้นสีขาวที่ผูกโดย Michael Haneke แม้บนโลกที่มืดมนอับจนแสงสว่าง แต่กลับมีความโดดเด่นเจิดจรัสจร้า ทรงคุณค่าเหนือสิ่งอื่นใด

reference : http://www.bfi.org.uk/films-tv-people/sightandsoundpoll2012/critics