Sight & Sound: Critic’s Poll 2012
จัดอันดับหนังจากนิตยสาร Sight & Sound ของนักวิจารณ์เมื่อปี 2012
- Vertigo (1958)
: Alfred Hitchcock ♥♥♥♥
“Vertigo มีความหลงใหล คลั่งไคล้ คิดครอบงำ คือความลึกล้ำของ Alfred Hitchcock ที่ต้องใช้การเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์” - Citizen Kane (1941) : Orson Welles
“Citizen Kane หนังแนวทดลองที่ได้ชื่อว่าเป็นหนังสือเรียนของวิชาภาพยนตร์ ด้วยผลงานแสดงและกำกับโดยชายอัจฉริยะ Orson Welles ดูให้ได้ก่อนตาย นี่คือหนังที่สมบูรณ์ทุกองค์ประกอบเรื่องของโลก” - Tokyo Story (1953)
: Yasujirō Ozu ♠♠♠♠♠
Tokyo Story ไม่ใช่แค่จิตวิญญาณชาวญี่ปุ่น ชนชาติเอเชีย แต่ยังคือภาพยนตร์ทรงคุณค่าระดับโลก - The Rules of the Game (1939)
: Jean Renoir ♠♠♠♠♠
“The Rules of the Game ของผู้กำกับ Jean Renoir ได้จำลองสร้างโลกทั้งใบ และบัญญัติกฎของการอาศัยอยู่” - Sunrise: A Song of Two Humans (1927)
: F. W. Murnau ♥♥♥♥♡
“Sunrise: A Song of Two Humans คือหนังเงียบที่มีความไพเราะที่สุด” - 2001: A Space Odyssey (1968) : Stanley Kubrick
“2001 A Space Odyssey หนัง Sci-fi แห่งมวลมนุษย์ชาติ ที่ยอดเยี่ยม ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” - The Searchers (1956)
: John Ford ♥♥♥♥♡
“The Searchers คือการออกเดินทางเพื่อค้นหาวิธีไถ่โทษตนเองของผู้กำกับ John Ford โดยมี John Wayne เป็นตัวตายตัวแทน” - Chelovek s kino-apparatom (1929)
: Dziga Vertov ♥♥♥♥
Chelovek s kino-apparatom ไม่ใช่แค่ Dziga Vertov ออกเดินถือกล้องถ่ายทำ แต่ยังแบกประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไว้บนบ่า - The Passion of Joan of Arc (1928)
: Carl Theodor Dreyer ♠♠♠♠♠
“อย่าริอาจเรียกตัวเองว่าคอหนัง ถ้ายังไม่เคยดู The Passion of Joan of Arc” - 8 1/2 (1963)
: Federico Fellini ♠♠♠♠♠
“8½ คือการออกเดินทางสู่จักรวาลอันไร้ขอบเขตพรมแดน ของผู้กำกับ Federico Fellini” - Battleship Potemkin (1925)
: Sergei Eisenstein ♠♠♠♠♠
“Battleship Potemkin ของผู้กำกับ Sergei Eisenstein ได้รับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ ครั้งสำคัญสุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์” - L’Atalante (1934)
: Jean Vigo ♥♥♥♥♡
“L’Atlante คือภาพยนตร์แห่งการเดินทางของความรักและชีวิตของผู้กำกับ Jean Vigo ที่มีความสวยงามที่สุดในโลก” - Breathless (1960)
: Jean-Luc Godard ♥♥♡
“Breathless ของ Jean-Luc Godard จะทำให้คุณหยุดหายใจ เพราะขาดอาการหายใจ” - Apocalypse Now (1979)
: Francis Ford Coppola ♥♥♥♥♡
“Apocalypse Now คือชัยชนะของผู้กำกับ Francis Ford Coppola ต่อวันโลกาวินาศ” - Late Spring (1949) : Japan – Yasujirō Ozu
“Late Spring อีกหนึ่ง masterpiece ของ Yasujirō Ozu และ Setsuko Hara ในบท Noriko เรื่องราวของหญิงสาวในวัยที่ต้องแต่งงาน หนังแฝงแนวคิด เหตุผลของการแต่งงาน และบทสรุปที่ไม่ธรรมดา ตามสไตล์ของ Ozu” - Au Hasard Balthazar (1966)
: Robert Bresson ♥♥♥
“Au Hasard Balthazar คือความสมบูรณ์แบบในไดเรคชั่นของผู้กำกับ Robert Bresson แต่เป็นจุดตกต่ำสุดของมวลมนุษยชาติ” - Seven Samurai (1954) : Japan – Akira Kurosawa
“Seven Samurai หนังของ Akira Kurosawa นำแสดงโดย Toshiro Mifune และ Takashi Shimura นี่คือหนัง Epic ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ห้ามตายก่อนได้ดูหนังเรื่องนี้เด็ดขาด!” - (=17) Persona (1966)
: Ingmar Bergman ♥♥♥♥♡
“Persona คือกระจกสองด้านในชีวิตและการงานของ Ingmar Bergman ที่สะท้อนข้างหนึ่งคือ Bibi Andersson และอีกข้างคือ Liv Ullmann” - The Mirror (1975)
: Andrei Tarkovsky ♥♥♥
“The Mirror กระจกสะท้อนชีวิตของผู้กำกับ Andrei Tarkovsky เขาไม่ได้อยากให้ใครเห็น จึงวางกลไกไว้อย่างลึกซึ้ง มีแต่ผู้ถูกเลือกเท่านั้นที่จะเข้าไปถึงได้” - Singin’ in the Rain (1951)
: Gene Kelly, Stanley Donen ♥♥♥♥♥
“Singin’ in the Rain คือรีมิกซ์หนังเพลง ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งยุคทองคลาสสิก” - L’Avventura (1960)
: Michelangelo Antonioni ♥♥♥♥♡
“L’Avventura ชีวิตคือการเดินทาง เป้าหมายคืออะไร Michelangelo Antonioni ก็ตอบไม่ได้ เลยทิ้งปริศนาไว้ ให้ผู้ชมคิดวิเคราะห์ค้นหาเอง” - (=21) The Godfather (1972)
: Francis Ford Coppola ♥♥♥♥♡
“The Godfather คือพ่อทูนหัวของวงการภาพยนตร์” - (=21) Le Mepris(1963) : France – Jean-Luc Godard
“Le Mepris อีกหนึ่ง masterpiece ของ Jean-Luc Godard ที่ต้องอาศัยการสังเกตและตีความพอสมควรถึงจะเข้าใจได้ ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจและชอบหนังเรื่องนี้” - Ordet (1955)
: Carl Theodor Dreyer ♠♠♠♠♠
“Ordet ของ Carl Theodor Dreyer คือหนังพิสูจน์ศรัทธาสุดยิ่งใหญ่ ของผู้นับถือพระเจ้า เท่านั้น!” - (=24) In the Mood for Love (2000)
: Wong Kar-Wai ♥♥♥♥♡
“In the Mood for Love ในห้วงอารมณ์รักสไตล์ลิสของ Wong Kar-Wai มี Tony Leung Chiu-Wai ที่จะโหยระลึกหา Maggie Cheung ไปชั่วนิรันดร์” - (=24) Rashomon (1950) : Japan – Akira Kurosawa
“Rashomon เป็นหนังที่มีการเล่าเรื่องเดียวกัน แบบต่างมุมมองที่ยอดเยี่ยมมากๆ ทั้งงานภาพ ศิลป์ เพลงประกอบ กำกับโดย Akira Kurosawa นำแสดงโดย Toshiro Mifune แต่นี่ไม่ใช่หนังที่ทุกคนจะดูแล้วเข้าใจได้” - Andrei Rublev (1966)
: Andrei Tarkovsky ♥♥♥♥♡
ผู้กำกับ Andrei Tarkovsky ระบายภาพจิตรกรเอกชาวรัสเซีย Andrei Rublev ได้อย่างงดงาม ทรงคุณค่า จนกลายเป็นจิตวิญญาณของตนเอง - Mulholland Dr. (2002) : David Lynch
“Mulholland Drive หนังเกี่ยวกับความฝันและความจริง โดย David Lynch นี่คือหนังที่มีความซับซ้อนที่สุดในโลก” - Stalker (1979)
: Andrei Tarkovsky ♥♥♥♥
Stalker การนำทางเพื่อพิสูจน์ศรัทธาของผู้กำกับ Andrei Tarkovsky มีความลุ่มลึกตราตรึงยิ่ง - (=29) Shoah (1985)
: Claude Lanzmann ♠♠♠♠♠
“Shoah คือสารคดีบันทึกประวัติศาสตร์และจิตวิญญาณ ที่มองไม่เห็นด้วยตาแต่สามารถสัมผัสได้ด้วยใจ” - The Godfather Part II (1974)
: Francis Ford Coppola ♥♥♥♥
“The Godfather Part II ยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่ไม่แพ้ภาคแรก มีงานสร้าง เรื่องราว ที่ใหญ่โตกว่า แต่ถ้าถามภาคไหนเยี่ยมกว่า บอกเลยว่า ตอบไม่ได้” - (=31) Taxi Driver (1976)
: Martin Scorsese ♥♥♥♥
“Taxi Driver คือจิตวิญญาณที่ล่องลอยของ Martin Scorsese และ Robert De Niro จนกลายเป็นความบ้าคลั่ง สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ” - Bicycle Thieves (1948)
: Vittorio De Sica ♥♥♥♥♡
“Bicycle Thieves ของ Vittorio De Sica ได้ขโมย 2 อย่าง จักรยาน และหัวใจของผู้ชม” - The General (1926)
: Clyde Bruckman & Buster Keaton ♥♥♥♥♡
The General คือผลงาน Masterpiece เรื่องยิ่งใหญ่ที่สุดของ Buster Keaton พาคุณราวกับกำลังนั่งรถไฟเหาะในสวนสนุก - (=34) Psycho (1960)
: Alfred Hitchcock ♥♥♥♥♡
“สิ่งที่ทำให้ Psycho เป็นผลงาน Masterpiece ของ Alfred Hitchcock และเป็นอมตะ คือ ความกลัวของมนุษย์ที่ปรากฎอยู่ในหนัง” - Metropolis (1927)
: Fritz Lang ♥♥♥♥
Metropolis นิยามโลกอนาคตของผู้กำกับ Fritz Lang ที่ยังคงความยิ่งใหญ่อลังการ และเป็นจริงเหนือกาลเวลา - (=36) Jeanne Dielman, 23 quai du Commerce, 1080 Bruxelles (1975)
: Chantal Akerman ♥♥♥♥
Jeanne Dielman, 23 quai du Commerce, 1080 Bruxelles คือหุ่นเชิดของผู้กำกับ Chantal Akerman เรียบง่ายแต่ตราตรึงด้วยลีลาเฉพาะตัว
- (=36) Sátántangó (1994)
- Les Quatre Cents Coups (1959)
: François Truffaut ♥♥♥♥
François Truffaut สรรค์สร้าง Les Quatre Cents Coups ด้วยการเปิดโลกทัศน์ใหม่ให้กับวงการภาพยนตร์ - (=39) La Dolce Vita (1960)
: Federico Fellini ♠♠♠♠♠
“La Dolce Vita ออกค้นหาปรัชญาแห่งความสุขในชีวิต ของผู้กำกับ Federico Fellini และนักแสดงนำ Marcello Mastroianni” - Journey to Italy (1954)
: Roberto Rossellini ♥♥♥♥♡
“Journey to Italy คือเรื่องราวการผจญภัย มีไกด์คือ Roberto Rossellini ลูกทัวร์ประกอบด้วย Ingrid Bergman และ George Sanders ที่จะนำคุณผ่าน Naples เมืองแห่งความตายขึ้นสู่สวรรค์”
- (=41) Pather Panchali (1955)
: Satyajit Ray ♥♥♥♥
Satyajit Ray ได้ถ่ายทอดอรุณรุ่งของชีวิต บทเพลงแห่งการเดินทาง Pather Panchali งดงามทรงคุณค่าที่สุดให้กับวงการภาพยนตร์ - Pierrot le Fou (1965)
: Jean-Luc Godard ♥♥♥♥♡
“Pierrot le Fou คือผลงานกินเล่น ‘ป๊อปคอร์น’ ของ Jean-Luc Godard โดยมี Jean-Paul Belmondo และ Anna Karina เพิ่มรสชาดสีสันให้มีสัมผัสอันลุ่มลึกล้ำเหนือกาลเวลา” - (=43) Close-Up (1990)
: Abbas Kiarostami ♥♥♥♥
“Close-Up ของผู้กำกับ Abbas Kiarostami ที่อาจไม่ใช่เป็นหนังที่ดีที่สุด แต่เป็นหนังที่แสดงถึงอัจฉริยภาพของผู้กำกับมากที่สุด” - (=43) Some Like It Hot (1959)
: Billy Wilder ♥♥♥♥♡
Marilyn Monroe ได้ทำให้ Some Like It Hot ร้อนเร่าร่านชั่วนิรันดร์
- (=43) Playtime (1967)
: Jacques Tati ♥♥♥♥♡
“Playtime คือสวนสนุกที่ใช้พักผ่อนคลายเครียดของ Jacques Tati มีแห่งเดียวเท่านั้นในจักรวาล” - (=43) Gertrud (1964)
: Carl Theodor Dreyer ♥♥♥♥♡
อิสรภาพของ Gertrud คือสิ่งที่ผู้กำกับ Carl Theodor Dreyer โหยหามาตลอดชีวิต และได้รับมาก่อนหมดสิ้นลมหายใจ - Histoire(s) du Cinéma
- (=48) The Battle of Algiers (1966) : Italy – Gillo Pontecorvo
“The Battle of Algiers อีกหนึ่งสุดยอดหนังโดยผู้กำกับ Gillo Pontecorvo และเพลงประกอบโดย Ennio Morricone นี่คือหนังต้นแบบของการต่อสู้สงครามแบบ Guerrilla ที่มีอิทธิพลต่อผู้ก่อการร้ายทั่วโลก” - City Lights (1931)
: Charlie Chaplin ♥♥♥♥♥
City Lights คือความเจิดจรัสจร้าที่สาดส่องออกมาจากจิตวิญญาณของ Charlie Chaplin - (=50) Ugetsu (1953)
: Kenji Mizoguchi ♥♥♥♥♡
“Ugetsu คือภาพวาด Masterpiece ของสายฝนยามแสงจันทรา ที่สามารถเคลื่อนไหวได้โดยผู้กำกับ Kenji Mizoguchi” - (=50) La Jetée (1962)
: Chris Marker ♥♥♥♥
“La Jetée หนังสั้นโดยผู้กำกับ Chris Marker มีความแปลกประหลาดในการนำเสนอ ที่สร้างความลึกล้ำ สวยงาม ไม่เหมือนใคร” - North by Northwest (1959)
: Alfred Hitchcock ♥♥♥♥♡
“North by Northwest ของ Alfred Hitchcock อาจไม่ได้มีความตื่นตาเหมือนหนัง Action สมัยใหม่ แต่มีความตื่นใจจากความระทึกขวัญสุดตื่นเต้น ในทุกเทคนิคการนำเสนอ” - (=53) Rear Window (1954)
: Alfred Hitchcock ♥♥♥♥♡
“Rear Window อีกหนึ่ง Masterpiece ของ Alfred Hitchcock มี James Stewart ที่ถึงจะนั่งอยู่เฉยๆ แต่ก็มีส่วนร่วมกับหนังอย่างที่สุด” - (=53) Raging Bull (1980)
: Martin Scorsese ♠♠♠♠♠
“Raging Bull ชีวิตต้องเอาหัวพุ่งชนเหมือนกระทิง ภาพยนตร์อัตชีวประวัติของทั้งนักมวย Jack LaMotta ผู้กำกับ Martin Scorsese และนักแสดงนำ Robert De Niro” - M (1931)
: Fritz Lang ♥♥♥♥
M (1931) มุมมองผู้กำกับ Fritz Lang ต่อสาธารณรัฐไวมาร์ยุคสมัยนั้น ไม่ได้เรียกร้องให้ผู้ชมสงสาร แต่เข้าใจสาเหตุผลความเกรี้ยวกราด - Il Gattopardo (1963)
: Luchino Visconti ♥♥♥♥♥
ราชสีห์ยังไงก็เป็นราชสีห์ ไม่มีทางที่ไฮยีน่าหรือลูกแกะน้อยจะสามารถทดแทนได้ นั่นเองทำให้ Luchino Visconti และ Burt Lancaster ได้รับการจดจำไม่รู้ลืม - (=57) Touch of Evil (1958)
: Orson Welles ♥♥♥♥
“Touch of Evil เป็นจดหมายสั่งลา hollywood ของ Orson Welles ที่มี Charlton Heston เล่นเป็น Mexican” - Sherlock Jr. (1924)
: Buster Keaton ♥♥♥♥◊
“Sherlock Jr. คือหนังแพรวพราวด้วยเทคนิคที่สุดของ Buster Keaton ที่แฟนเดนตายจะว่ายอดเยี่ยมกว่าหนังเรื่องไหนของ Charlie Chaplin เสียอีก” - (=59) Barry Lyndon (1975)
: Stanley Kubrick ♥♥♥♥
ผู้กำกับ Stanley Kubrick วาดภาพระบายสี Barry Lyndon ออกมางดงามระดับวิจิตรศิลป์ - (=59) The Mother and the Whore (1973)
: Jean Eustache ♥♥♥♡
“The Mother and the Whore ของ Jean Eustache คือ Masterpiece ที่ทำให้คุณรู้สึกเบื่อสุดขีด แต่มันก็มีเหตุผลของมัน ที่อาจต้องให้นักประวัติศาสตร์ หรือชาวฝรั่งเศสเท่านั้นถึงเข้าใจได้” - (=59) Sansho the Bailiff (1954) : Japan – Kenji Mizoguchi
“Sansho the Bailiff เป็นหนังเกี่ยวกับความหมายของ ‘ความเป็นมนุษย์’ นี่อาจเป็นหนังที่ดูขาดๆเกินๆ และเห็นแก่ตัวเสียหน่อย แต่คอหนังของ Kenji Mizoguchi ไม่ควรพลาด” - Wild Strawberries (1957)
: Ingmar Bergman ♥♥♥♡
“Wild Strawberries ของ Ingmar Bergman จะทำให้คุณหวนระลึกถึงอดีต และค้นหาคุณค่าชีวิตของตัวเอง” - (=63) Modern Times (1936)
: Charlie Chaplin ♥♥♥♥♡
Modern Times คือการทิ้งทายและค่อยๆปรับตัวของ Charlie Chaplin สู่โลกยุคสมัยใหม่ - (=63) Sunset Boulevard (1950)
: Billy Wilder ♥♥♥♥♡
“Sunset Blvd. ของ Billy Wilder สร้างขึ้นเพื่อคนรักหนังโดยเฉพาะ สำหรับเป็นอุทาหรณ์สอนใจ เบื้องหน้าวงการมายาที่ยิ่งใหญ่ ข้างหลังนั้นไซร้ ใช่ว่าจะสวยงาม” - (=63) The Night of the Hunter (1955)
: Charles Laughton ♥♥♥♥♡
“The Night of the Hunter คือนิทานก่อนนอนชั้นเลิศ สอนเด็กๆได้สาระ สอนผู้ใหญ่ได้ปัญญา สะท้อนเรื่องราวทางสังคมได้ทุกระดับ” - (=63) Pickpocket (1959) : France – Robert Bresson
“ไม่คิดว่าจะมีหนังเรื่องไหนที่เข้ากับสไตล์การกำกับของ Robert Bresson ได้มากกว่า Pickpocket อีกแล้ว” - (=63) Rio Bravo (1959)
: Howard Hawks ♥♥♥♡
“Rio Bravo ของผู้กำกับ Howard Hawks และ John Wayne ให้นิยามความเป็น’อเมริกันชน’ได้ตรงตัวที่สุด” - Blade Runner (1982)
: Ridley Scott ♥♥♥♡
“Blade Runner ภาพยนตร์อภิมหาไซไฟตั้งคำถามเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ มีเอ็ฟเฟ็กตระการตายิ่งใหญ่ และเพลงประกอบสุดล้ำยุคสมัย สร้างโดยผู้กำกับ Ridley Scott และนำแสดงโดย Harrison Ford” - (=69) Blue Velvet (1986)
: David Lynch ♥♥♥♥
“Blue Velvet หนังตีแผ่ด้านมืดของสังคมและจิตใจมนุษย์ โดยผู้กำกับ David Lynch ที่ดูจบแล้วจะทำให้คุณอารมณ์นัวร์ๆ” - (=69) Sans Soleil (1983)
: Chris Marker ♥♥♥♥
“Sans Soleil ภาพยนตร์สารคดีของ Chris Marker จดบันทึกเรื่องราวการเดินทางได้อย่างสวยงาม และมีสัมผัสสอดคล้องราวกับบทกวี” - (=69) A Man Escaped (1956)
: Robert Bresson ♥♥♥♥
“A Man Escaped ด้วยสไตล์ของผู้กำกับ Robert Bresson นำเสนอการหลบหนีออกจากค่ายกักกันนาซี ได้อย่างประณีต ละมุ่นไม สมบูรณ์แบบ” - The Third Man (1949) : Carol Reed
“Carol Reed กำกับ The Third Man หนัง British ที่ยอดเยี่ยมที่สุด กับการแสดงของ Joseph Cotten และ Orson Welles เราจะได้เห็นงานภาพที่แปลกๆ เครื่องดนตรี zither การตัดต่อที่รวดเร็วฉับไว เป็นส่วนผสมที่แปลกแต่ลงตัวแบบสุดๆ” - (=73) L’Eclisse (1962)
: Michelangelo Antonioni ♥♥♥♥
“L’Eclisse ของผู้กำกับ Michelangelo Antonioni มีความทะเยอทะยานเป็นที่สุด อดีต ปัจจุบัน อนาคตและ Beyond” - (=73) Children of Paradise (1945)
: Marcel Carné ♥♥♥♥♡
“Children of Paradise คือจดหมายรักต่อศิลปะการแสดงทุกแขนง หนึ่งในหนังที่ยอดเยี่ยมที่สุดของฝรั่งเศส โดยผู้กำกับ Marcel Carné นำแสดงโดย Jean-Louis Barrault” - (=73) The Grand Illusion (1937)
: Jean Renoir ♥♥♥♥♡
“Jean Renoir ระบายสัจธรรมที่ถูกบดบังใน Le Grande Illusion ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อมวลมนุษยชาติ” - (=73) Nashville (1975)
: Robert Altman ♥♥♥♥
Nashville ของผู้กำกับ Robert Altman สะท้อนบรรยากาศการเมืองของสหรัฐอเมริกา ช่วงทศวรรษ 60s – 70s ได้อย่างตรงไปตรงมา เจ็บแสบกระสันต์ - Chinatown (1974)
: Roman Polanski ♥♥♥♥
Chinatown ของผู้กำกับ Roman Polanski คือมาสเตอร์พีซที่นำเสนอด้านมืดของตัวละคร อาชญากร และสหรัฐอเมริกา - (=78) Beau Travail (1999)
: Claire Denis ♥♥♥♥
มุมมองผู้กำกับ Claire Denis ต่อบุรุษเพศ สงคราม และการล่าอาณานิคม ต้องยกย่องสรรเสริญเลยว่า Beau Travail! - (=78) Once Upon a Time in the West (1968)
: Sergio Leone ♥♥♥♥
Once Upon a Time in the West คือนิทานก่อนนอนกาลครั้งหนึ่งของ Sergio Leone ทำให้ความเพ้อฝันกลับกลายเป็นจริง งดงามอลังการ และได้รับการจดจำชั่วกัลปาวสาน - (=78) The Magnificent Ambersons (1942)
: Orson Welles ♥♥♥♥
“สิ่งที่เกิดขึ้นใน The Magnificent Ambersons สะท้อนโชคชะตากรรมของผู้กำกับ Orson Welles ความยิ่งใหญ่มาพร้อมกับหายนะที่ใหญ่ยิ่ง”
- (=78) Lawrence of Arabia (1962) : David Lean
“Lawrence of Arabia ภาพจากหนังมีความสวยงามในระดับที่สุดที่กล้องถ่ายภาพจะสามารถบันทึกได้ และเพลงประกอบที่ไพเราะที่สุดในโลก นี่คือหนังที่ต้องดูให้ได้ ห้ามตายก่อนดู” - (=78) The Spirit of the Beehive (1973)
: Víctor Erice ♥♥♥♥
“The Spirit of the Beehive คือ ประวัติศาสตร์โดยย่อยุคเผด็จการ Franco ของสเปน ในคราบการเติบโตของเด็กน้อยไร้เดียงสา ผลงาน Masterpiece ของ Víctor Erice และสุดยอดการแสดงของเด็กหญิง Ana Torrent” - Fanny and Alexander (1982)
: Ingmar Bergman ♥♥♥♥
“Fanny and Alexander คือโลกทั้งใบของผู้กำกับ Ingmar Bergman” - (=84) Casablanca (1942)
: Michael Curtiz ♥♥♥♥♡
“Casablanca เป็นหนังที่ทำตัวเหมือนหญิงสาว ให้เราตกหลุมรักแล้วแยกจาก กาลเวลาผ่านไปกลับมารับชมอีก เกิดความหวนระลึกนึกถึงอดีต พอหนังจบก็เล่นตัวจากไปอีก” - (=84) The Color of Pomegranates (1969)
: Sergei Parajanov ♥♥♥♥
“The Color of Pomegranates เป็นหนังดูด้วยตาไม่มีวันเข้าใจ ดูด้วยสมองยังไม่แน่ว่าจะรู้เรื่อง ต้องใช้จิตวิญญาณสัมผัสเอาเท่านั้น จะรู้ว่านี่คือสุดยอดหนัง”
- (=84) Greed (1924)
: Erich von Stroheim ♥♥♥♡
“Greed ของ Erich von Stroheim คือ หนังที่สมบูรณ์แบบในความไม่สมบูรณ์” - (=84) A Brighter Summer Day (1991)
: Edward Yang ♥♥♥♥♡
“A Brighter Summer Day คือจักรวาลชีวิตของผู้กำกับ Edward Yang” - (=84) The Wild Bunch (1969)
: Sam Peckinpah ♥♥♥♡
“The Wild Bunch นำโดยหัวโจ๊ก Sam Peckinpah บรรจงนำเสนอความรุนแรงออกมาในระดับที่อาจยินยอมรับไม่ได้ แต่ในความอัปลักษณ์เลือดท่วมนั้นมีความสวยงามสมบูรณ์แบบ” - Partie de campagne (1936)
: Jean Renoir ♥♥♥♥♡
แม้ผู้กำกับ Jean Renoir จะสร้าง Partie de campagne ไม่ทำสำเร็จ แต่ก็งดงามเพียงพอให้เกิดความประทับใจ สุดฟินอิ่มหนำสุขสำราญกายใจ - (=90) Aguirre: The Wrath of God (1972)
: Werner Herzog ♥♥♥♥♡
“Aguirre, the Wrath of God ความเกรี้ยวกราดของ Klaus Kinski ชักนำพา Werner Herzog ไปสู่ฝั่งฝันและกลายเป็นตำนาน” - (=90) A Matter of Life and Death (1946)
: Michael Powell & Emeric Pressburger ♥♥♥♡
“A Matter of Life and Death ยิ่งใหญ่ระดับจักรวาล แต่ในโลกทัศน์ของชาวตะวันตก” - (=90) The Seventh Seal (1957)
: Ingmar Bergman ♥♥♥♥
“The Seventh Seal ของ Ingmar Bergman ได้ทำให้ความตายกลายเป็นอมตะ” - (=90) Un Chien Andalou (1929)
: Luis Buñuel ♥♥♥♥
Un Chien Andalou เรื่องหมาๆของ Luis Buñuel และ Salvador Dalí กระแทกกระทั้น สั่นคลอนวิธีคิด ศรัทธาความเชื่อผู้คนได้อย่างเจ็บแสบกระสันต์ซ่าน - (=90) Intolerance (1916)
: D.W. Griffith ♥♥♥
Intolerance คือคำรำพรรณาของ D. W. Griffith ที่มีความยิ่งใหญ่เกินกว่าจะหาอะไรมาเปรียบ - (=90) Yi Yi (2000)
: Edward Yang ♥♥♥♥♥“Yi Yi ของ Edward Yang เป็นหนังครอบครัวระดับ MASTERPIECE ที่ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
- (=90) The Life and Death of Colonel Blimp (1943)
: Michael Powell & Emeric Pressburger ♥♥♥♥
“The Life and Death of Colonel Blimp คือภาพยนตร์ที่เป็นตัวแทนของชาวอังกฤษ ได้อย่างตรงไปตรงมาที่สุด” - (=90) Touki Bouki (1973)
- (=90) Angst essen Seele auf (1974)
: Rainer Werner Fassbinder ♥♥♥♥♡
จิตวิญญาณของ Rainer Werner Fassbinder ได้รับการถ่ายทอดผ่าน Ali: Fear Eats the Soul ด้วยความหวาดสะพรึงกลัวอย่างที่สุด - (=90) Imitation of Life (1959)
: Douglas Sirk ♥♥♥♥
Imitation of Life คือกระจกสะท้อนชีวิตผู้กำกับ Douglas Sirk ที่ได้ค้นพบตัวตนเอง ฉีกกระชากหน้ากากตัวปลอม และเป็นจดหมายทิ้งท้ายสั่งลาผู้ชม
- (=90) The Earrings of Madame de… (1953)
: Max Ophüls ♥♥♥♥♡
The Earrings of Madame de… คือลมหายใจที่ไม่มีวันหมดของผู้กำกับ Max Ophüls และนักแสดงคู่บารมี Danielle Darrieux”
- Wavelength (1967)
- (=102) The Conformist (1970)
: Bernardo Bertolucci ♥♥♥♥
“The Conformist คือทัศนะทางการเมืองของ Bernardo Bertolucci นำเสนอด้วยความรู้สึกผ่านตัวละครของ Jean-Louis Trintignant ได้อย่างสมบูรณ์แบบ” - (=102) The Traveling Players (1975)
- (=102) Meshes of the Afternoon (1943)
: Maya Deren, Alexander Hammid ♥♥♥♥
Meshes of the Afternoon คือความโกลาหลที่เหนือความคาดหมาย
- (=102) Two or Three Things I Know About Her (1967)
: Jean-Luc Godard ♥♥♥
“Two or Three Things I Know About Her คือ Essay เรียงความฉบับภาพยนตร์ของ Jean-Luc Godard ที่ใช่ว่าจะมีคนอยากอ่านเสียเท่าไหร่”
- (=102) The Tree of Life (2011)
: Terrence Malick ♥♥♥♥♡
“Tree of Life คือการค้นหาทางจิตวิญญาณของ Terrence Malick เฉพาะผู้ถูกเลือกเท่านั้นที่จะพบเห็นความสวยงามของชีวิต” - (=102) Ivan the Terrible (1944, 1958)
: Sergei Eisenstein ♥♥♥
“Ivan the Terrible คือจุดสิ้นสุดของ Sergei Eisenstein ทั้งยุคสมัยและชีวิต”
- (=102) Last Year at Marienbad (1961)
: Alain Resnais ♠♠♠♠♠
“Last Year at Marienbad ของ Alain Resnais มีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่รู้ อาจมีเกิดขึ้น ไม่มีเกิดขึ้น หรืออาจมีไม่มีเกิดขึ้นก็ได้” - The Lady Eve (1941)
: Preston Sturges ♥♥♥
“The Lady Eve ความบันเทิงที่สะท้อนตัวตนของผู้กำกับ Preston Sturges ชอบไม่ชอบอยู่ที่รสนิยมส่วนตัว” - (=110) Los Olvidados (1950)
: Luis Buñuel ♥♥♥♥
“Los Olvidados ในมุมมองของ Luis Buñuel โลกใบนี้โหดโฉดเลวร้ายสิ้นดี นี่เป็นความจริงที่ทุกคนต้องยอมรับให้ได้” - (=110) Bringing Up Baby (1938)
: Howard Hawks ♥♥♥♥♡
“Bringing Up Baby หนังตลกไร้สาระขบขันที่สุดของ Howard Hawks กับการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของ Katharine Hepburn และ Cary Grant” - (=110) Performance (1970)
: Donald Cammell & Nicolas Roeg ♥♥♥♡
“Performance คือผสมผสานการแสดงที่สมบูรณ์แบบของ Donald Cammell & Nicolas Roeg และ James Fox & Mick Jagger” - (=110) The Passenger (1974)
- (=110) Viridiana (1961)
: Luis Buñuel ♥♥♥
“Viridiana เป็นหนังที่น่าจะเxย เลวร้ายที่สุด ที่ Luis Buñuel จะสามารถสร้างให้ออกฉายได้” - (=110) L’Age d’Or (1930)
: Luis Buñuel ♥♥♥♡
L’Age d’or ความคิดที่อยู่เหนือของ Luis Buñuel เกินกว่าคนธรรมดาจะเข้าใจ แต่ถ้าสามารถไต่ไปสัมผัสเพียงขี้เล็บนิ้วเท้า จะพบเห็นโลกใบใหม่ที่กลับหัวกลับหางโดยสิ้นเชิง - A Canterbury Tale (1944)
: Michael Powell & Emeric Pressburger ♥♥♥♥♡
“A Canterbury Tale แม้จะมิได้ย้อนไปยุคกลาง แต่การหวนระลึกอดีตก่อให้เกิดความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ชาติที่สุดแล้ว” - (=117) Mouchette (1967)
: Robert Bresson ♥♥♡
“Mouchette สาวน้อยผู้น่าสงสาร ดีแล้วที่ตอนจบเธอจากไป โลกใบนี้ที่ Robert Bresson สร้างมา มันช่างไม่น่าอภิรมย์เสียเลย” - (=117) Dr. Strangelove (1964)
: Stanley Kubrick ♥♥♥♥♥
“Dr. Strangelove ได้พลิกโลกให้กลับตารปัตร นำเรื่องอึดอัดอั้น อกแตกตาย มาทำการเสียดสี ล้อเลีย(น) น้ำแตก ขี้กระจาย” - (=117) Nosferatu (1922)
: F. W. Murnau ♥♥♥♡
Nosferatu ฉบับของ F. W. Murnau แม้จะไม่สามารถหลอกหลอนผู้ชมปัจจุบันได้ แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ Dracula ที่ยิ่งใหญ่ - (=117) The Red Shoes (1948) : Michael Powell & Emeric Pressburger
“The Red Shoes หนังที่สมบูรณ์พร้อมในทุกด้าน ภาพสวย เพลงเพราะ ตัดต่อฉับไว ออกแบบฉากอลังการ โดยผู้กำกับ Michael Powell & Emeric Pressburger พบกับสุดยอดการแสดงบัลเล่ต์ของ Moira Shearer และการแสดงของ Anton Walbrook ที่ลึกล้ำ คอหนังไม่ควรพลาด”
- (=117) Trouble in Paradise (1932)
: Ernst Lubitsch ♥♥♥♥
“เรื่องวุ่นๆบนเตียง Trouble in Paradise ของผู้กำกับ Ernst Lubitsch ช่างมีความลึกล้ำซับซ้อน เลิศหรูหรา เฉียบคมคายเสียเหลือเกิน”
- (=117) A City of Sadness (1989) : Taiwan – Hou Hsiao-Hsien
“Hou Hsiao-Hsien สามารถถ่ายทอดบรรยากาศ ความรู้สึกของผู้คนในช่วง การสังหารหมู่ 228 ออกมาใน A City of Sadness ได้สมจริงและเหนือชั้นมากๆ”
- (=117) Amarcord (1973)
: Federico Fellini ♥♥♥♥♡
เศษเสี้ยวความทรงจำของ Federico Fellini ที่ปรากฎใน Amarcord ช่างมีความงดงาม ตราตรึง สมบูรณ์แบบ - (=117) The Man Who Shot Liberty Valance (1962)
: John Ford ♥♥♥♥♡
“The Man Who Shot Liberty Valance ไม่ว่า John Wayne หรือ James Stewart จะเป็นคนยิง แต่ผู้ได้รับเสรีภาพคือ John Ford”
- (=117) Days of Heaven (1978)
: Terrence Malick ♥♥♥♥
“Days of Heaven คือภาพความทรงจำวันวานของ Terrence Malick ที่สวยงามราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์”
- Spring in a Small Town (1948)
: Fei Mu ♥♥♥♥
Spring in a Small Town ถ่ายทอดจิตวิญญาณของชนชาวจีน ยุคสมัยหลังสิ้นสุดสงครามได้อย่างสมบูรณ์แบบ - (=127) Do the Right Thing (1989)
: Spike Lee ♥♥♥♥
“Do the Right Thing แม้สิ่งที่ผู้กำกับ Spike Lee นำเสนอออกมาจะไม่ถูกต้องเหมาะสมควรทั้งหมด แต่สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์แบบ”
- (=127) Out 1 (1990)
- (=127) สัตว์ประหลาด (2004) : อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล
“หนังไทยที่ยอดเยี่ยมที่สุด!”
- (=127) The River (1951)
: Jean Renoir ♥♥♥♥
ความงดงามของ The River ยังคงสวยสดใส น่าประทับใจเหมือนตอนที่ Jean Renoir เริ่มวาดภาพระบายสี
- (=127) Jules et Jim (1962)
: François Truffaut ♥♥♥♥
“Jules et Jim เป็นหนังที่เต็มไปด้วยภาษาภาพยนตร์ในสไตล์ของ François Truffaut กับสุดยอดการแสดงของ Jeanne Moreau ถ่ายภาพโดย Raoul Coutard และเพลงประกอบสุดไพเราะโดย Georges Delerue” - (=127) Pulp Fiction (1994)
: Quentin Tarantino ♥♥♥♥
“Pulp Fiction คือตั๋วหนังราคาถูกของ Quentin Tarantino แต่คุณภาพความบันเทิงกลับล้นคลั่ง” - (=127) Meet Me in St. Louis (1944)
: Vincente Minnelli ♥♥♥♥♥
“Meet Me in St. Louis ยังคงสวยสดใส เหมือนการหวนระลึกถึงความทรงจำวัยเด็ก อิ่มเอิบ อบอุ่น สุขใจ และอาจเป็นหนังยอดเยี่ยมที่สุดของ Judy Garland” - (=127) L’Argent (1983)
: Robert Bresson ♥♥♥♥
“L’Argent ในกระเป๋าสตางค์ของผู้กำกับ Robert Bresson ซื้อได้แต่ใบเบิกทางขึ้นสู่สรวงสวรรค์เท่านั้น”
- (=127) Ikiru (1952) : Japan – Akira Kurosawa
“Ikiru หนังของ Akira Kurosawa นำแสดงโดย Takashi Shimura นี่คือหนังที่ต้องดูให้ได้ก่อนตาย คุณค่าของหนังเรื่องนี้คือการคิดตามเมื่อดูจบ ว่าฉันเกิดมาเพื่ออะไร? มีชีวิตที่คุ้มค่าหรือไม่?” - (=127) Three Colors: Blue (1993)
- (=127) Don’t Look Now (1973)
: Nicolas Roeg ♥♥♥♥♡
“Don’t Look Now ของ Nicolas Roeg ท้าทายความคิดของมนุษย์กับความเชื่อในสิ่งลึกลับ สุดยอดทั้งงานภาพ ตัดต่อ และการแสดงของ Donald Sutherland กับ Julie Christie” - (=127) Celine and Julie Go Boating (1974)
- (=127) Annie Hall (1977)
: Woody Allen ♥♥♥♡
“Annie Hall ไม่ใช่แค่หนังรักรอมคอมของ Woody Allen กับ Diane Keaton แต่คืออัตชีวประวัติเรื่องเยี่ยมที่สุดในโลก” - (=127) The Apartment (1960)
: Billy Wilder ♥♥♥♥♥
The Apartment คือหัวใจของ Billy Wilder ที่มี Jack Lemmon และ Shirley MacLaine อาศัยอยู่ชั่วนิรันดร์ - (=127) Der letzte Mann (1924)
: F. W. Murnau ♥♥♥♥♡
Der letzte Mann คือหนังเงียบที่แท้จริง!
- (=127) Hiroshima mon amour (1959)
: Alain Resnais ♥♥♥♥♡
“Hiroshima mon amour ของ Alain Resnais คือจดหมายรัก ที่ย้ำเตือนไม่ให้ผู้ชมลืมเลือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ Hiroshima นำแสดงโดย Emmanuelle Riva และ Eiji Okada” - Blow-Up (1966)
: Michelangelo Antonioni ♥♥♥♥♡
“Blow-Up ของผู้กำกับ Michelangelo Antonioni เป็นเทรนด์แฟชั่นที่แม้ปัจจุบันอาจดูตกยุค แต่ยังมีความล้ำสมัย” - (=144) The Great Dictator (1940)
: Charlie Chaplin ♥♥♥♡
“The Great Dictator คือความตั้งใจอันดีของ Charlie Chaplin แต่ก็ทำให้รู้ว่าหนังพูดไม่เหมาะกับเขาเท่าไหร่” - (=144) Memories of Underdevelopment (1966)
- (=144) Diary of a Country Priest (1951)
: Robert Bresson ♥♥
“Diary of a Country Priest ของ Robert Bresson อาจเป็นหนัง Catholic ที่ดีที่สุด แต่ไม่ใช่กับศาสนาอื่น” - (=144) Chungking Express (1994)
: Wong Kar-wai ♥♥♥♥♥
“Chungking Express หนังที่มีเรื่องราวและบรรยากาศสไตล์ของ Wong Kar-Wai ที่จะทำให้คุณอกหัก ตกหลุมรัก แล้วจะอกหัก และตกหลุมรัก อย่างไม่มีที่สิ้นสุด”
- (=144) To Be or Not to Be (1942)
: Ernst Lubitsch ♥♥♥♥♡
“สิ่งที่ผู้กำกับ Ernst Lubitsch ปลุกปั้นให้ Jack Benny กลายเป็นใน To Be or Not to Be คือตำนานสุดคลาสสิกอมตะ”
- (=144) A Woman Under the Influence (1974)
: John Cassavetes ♠♠♠♠♠
A Woman Under the Influence คือผลงานหลุดโลกของผู้กำกับ John Cassavetes ส่งให้ Gena Rowlands กลายเป็นนักแสดงทรงอิทธิพลแห่งวงการภาพยนตร์ - (=144) Napoléon (1927)
: Abel Gance ♥♥♥♥
Napoléon คือวิสัยทัศน์ ความทะเยอทะยานของผู้กำกับ Able Gance ปิดฉากยุคสมัยหนังเงียบได้อย่างอลังการสุดยิ่งใหญ่ - (=144) Vivre sa vie (1962)
: Jean-Luc Godard ♥♥♥♡
“Vivre sa vie การสร้างทฤษฎีปรัชญาด้วยภาษาภาพยนตร์ของ Jean-Luc Godard เป็น Masterpiece ที่คงหาดูที่ไหนอีกไม่ได้แล้ว” - (=144) The Wizard of Oz (1939)
: Victor Fleming ♥♥♥♥
“The Wizard of Oz แม้จะไม่ใช่หนังที่ยอดเยี่ยมสมบูรณ์แบบ แต่ไม่เคยมีใครหยุดพูดถึง เด็กๆรับชมจะเรียนรู้จดจำนำไปเป็นแบบอย่าง ส่วนผู้ใหญ่จะมองเห็นความคุณค่าในสิ่งที่ต่างออกไป” - Marketa Lazarová (1967)
- (=154) Caché (2005)
: Michael Haneke ♥♥♥♥
ผู้กำกับ Michael Haneke ตีแผ่สัจธรรมความจริงที่หลบซ่อนเร้นใน Caché ให้โลกได้ประจักษ์รับรู้ - (=154) The Shining (1980)
: Stanley Kubrick ♥♥♥♥
“The Shining คือความเสียสติแตกของ Jack Nicholson แต่ผู้กำกับ Stanley Kubrick ถือว่าบ้าคลั่งไร้สติสมประดี” - (=154) Solaris (1972)
: Andrei Tarkovsky ♥♥♥♥
การค้นพบอันยิ่งใหญ่ที่สุดของผู้กำกับ Andrei Tarkovsky ในภาพยนตร์ Solaris คือวิธีติดต่อสื่อสารกับจิตวิญญาณเราเอง - (=154) Chimes at Midnight (1965) : Orson Welles ♥♥♥♥♡
“Chimes at Midnight เป็น magnum opus ของ Orson Welles คือชีวิตจริง ตัวตน ปรัชญา ความไม่อยากแต่จำเป็น โอ้! ทำไมชีวิตของอัจฉริยะถึงได้เป็นแบบนี้”
- (=154) The Gold Rush (1925)
: Charlie Chaplin ♥♥♥♥♡
“The Gold Rush ทองแท้อยู่ในภูเขา เช่นเดียวกับจิตใจที่ดีของคนอยู่ภายใน ไม่ใช่หน้าตาหรือรูปลักษณ์ภายนอก” - (=154) Letter from an Unknown Woman (1948)
: Max Ophüls ♥♥♥♡
จดหมายรัก Letter from an Unknown Woman ของ Max Ophüls คงยอดเยี่ยมได้กว่านี้ ถ้าไม่ถูกบดบังวิสัยทัศน์จาก Hollywood - (=154) Brief Encounter (1945)
: David Lean ♥♥♥♥♡
“Brief Encounter ของ David Lean มีความอมตะที่สวยงาม กับความรักที่อยู่ในธรรมเนียม” - (=154) In a Lonely Place (1950)
: Nicholas Ray ♥♥♥♥♡
“In a Lonely Place โคตรหนังนัวร์ที่จะทำให้จิตใจของผู้ชมแตกสลาย” - (=154) Black Narcissus (1947) : Michael Powel & Emeric Pressburger
“Black Narcissus โดยผู้กำกับ Michael Powell และ Emeric Pressburger นำแสดงโดย Deborah Kerr พบกับเรื่องราวที่แฝงแนวคิด เชิงจิตวิทยาวิเคราะห์ที่ตัวละครมีความลึกลับซ้ำซ้อน ภาพสวย ออกแบบฉากยอดเยี่ยม จัดเป็นอีกหนึ่งสุดยอดหนังที่ไม่ควรพลาด”
- (=154) My Neighbor Totoro (1988)
: Hayao Miyazaki ♥♥♥♥
“My Neighbor Totoro คือเพื่อนรักในจินตนาการของ Hayao Miyazaki ที่กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งวงการภาพยนตร์” - (=154) Only Angels Have Wings (1939)
: Howard Hawks ♥♥♥♡
“Only Angles Have Wings คือคำอธิษฐานของผู้กำกับ Howard Hawks ที่อยากแก้ตัวใหม่ในสิ่งที่เคยทำผิดพลาดไป”
- (=154) Vampyr (1932)
: Carl Theodor Dreyer ♥♥♥♥
“Vampyr หนังแวมไพร์ขึ้นหิ้งของ Carl Theodor Dreyer แค่เพียงเงา ก็ทำให้คุณฝันร้ายได้”
- (=154) Come and See (1985)
: Elem Klimov ♥♥♥♥♡
“Come and See เข้ามาและหันหน้ายอมรับกับความจริงในสิ่งที่เคยเกิดขึ้น สุดยอดหนังที่มีความทรงพลัง ทั้งงานภาพ เสียง การแสดง ตัดต่อ นี่คือหนังเกี่ยวกับสงครามที่ดีที่สุดในโลก” - (=154) Distant Voices, Still Lives (1988)
- (=154) Once Upon a Time in America (1984)
: Sergio Leone ♥♥♥♥
Once Upon a Time in America กาลครั้งสุดท้ายของ Sergio Leone ก่อนตื่นจากความฝันที่แม้เนิ่นยาวนาน แต่กลับไม่รู้ลืมเลือน - (=154) Cries and Whispers (1972)
: Ingmar Bergman ♥♥♥♡
“Cries and Whispers ของ Ingmar Bergman ถ้าหนังไม่ทำให้คุณร้องไห้ ก็จะได้ยินแค่เสียงกระซิบกระซาบ”
- King Kong (1933)
: Merian C. Cooper, Ernest B. Schoedsack ♥♥♥♡
ต้นฉบับ King Kong (1933) ถีงจะมีความดีกดำบรรพ์ แต่คือบรรพบุรุษของภาพยนตร์ที่ใช้ Special Effect สร้างสิ่งมีชีวิตแห่งจินตนาการ กลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ลำดับที่แปดของโลก - (=171) The Werckmeister Harmonies (2000)
- (=171) Star Wars (1977)
- (=171) Notorious (1946)
: Alfred Hitchcock ♥♥♥♥
“ยิ่งฉาวยิ่งดัง ความฉาวโฉ่ใน Notorious คือความอมตะของ Ingrid Bergman และ Cary Grant โดยผู้กำกับ Alfred Hitchcock”
- (=171) His Girl Friday (1940)
: Howard Hawks ♥♥♥♥♡
“His Girl Friday หนัง Screwball Comedy ที่น่าจะไร้สาระของ Howard Hawks นำแสดงโดย Cary Grant และ Rosalind Russel แต่กลับตั้งคำถามเกี่ยวกับจรรยาบรรณ และความคอรัปชั่นของมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง”
- (=171) GoodFellas (1990)
: Martin Scorsese ♥♥♥♥
“Martin Scorsese ได้ทำให้ GoodFellas กลายเป็นมาเฟียเพื่อนสนิทสอนใจผู้ชม” - (=171) The Umbrellas of Cherbourg (1964)
: Jacques Demy ♥♥♥♥♡
“Les Parapluies de Cherbourg เรียบง่าย กินใจ เป็นหนังเพลงที่ทรงพลังที่สุดในโลก” - (=171) A Trip to the Moon (1902)
: Georges Méliès ♠♠♠♠♠
“A Trip to the Moon ของผู้กำกับ George Méliès ถือว่าได้ทำความฝันของมนุษย์ชาติให้กลายเป็นจริง” - (=171) Sweet Smell of Success (1957)
- (=171) Kind Hearts and Coronets (1949)
: Robert Hamer ♥♥♥♥
Kind Hearts and Coronets สอนให้รู้ว่า อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง - (=171) Tabu (1931)
: F. W. Murnau ♥♥♥♥♡
“Tabu ของผู้กำกับ F. W. Murnau คือความบริสุทธิ์เดียงสา ไร้มลทินชั่วร้ายใดๆเจือปน”
- (=171) Earth (1930)
: Alexander Dovzhenko ♥♥♥♡
“Earth คือหนังที่มีความงดงามดังบทกวี ทั้งงานภาพ การแสดง และเรื่องราวที่แฝงใจความอันลึกซึ้ง” - Breaking the Waves (1996)
- (=183) The Grapes of Wrath (1940)
: John Ford ♥♥♥♥
“The Grapes of Wrath ของผู้กำกับ John Ford แม้เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดของ Henry Fonda แต่ก็อ่อนโยนเบาลงด้วยความซาบซึ้งกินใจของ Jane Darwell” - (=183) Paris, Texas (1984)
: Wim Wenders ♥♥♥♥♡
“Texas, Paris ของผู้กำกับ Wim Wenders ล่องลอยเรื่อยเปื่อยสู่เป้าหมายที่อาจเดินไม่พบคำตอบ แต่มีความสวยงามราวกับบทกวี” - (=183) E.T. the Extra-Terrestrial (1982)
: Steven Spielberg ♥♥♥♥
E.T. the Extra-Terrestrial คือความมหัศจรรย์ราวกับเวทย์มนต์ ส่งให้ผู้กำกับ Steven Spielberg กลายเป็นพ่อมดแห่งวงการภาพยนตร์ - (=183) Rome, Open City (1945)
: Roberto Rossellini ♥♥♥♥
“Rome, Open City คือ Masterpiece ของ Roberto Rossellini ถึงการสร้างที่มีข้อจำกัดมากมาย แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ในระดับที่กลายเป็นเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของวงการภาพยนตร์อิตาเลี่ยน” - (=183) Faces (1968)
: John Cassavetes ♥♥♥♥
John Cassavetes ทำการกระชากหน้ากากของ Faces เปิดเผยสิ่งเท็จจริงที่สุดแห่งวงการภาพยนตร์ - (=183) Jalsaghar (1958)
: Satyajit Ray ♥♥♥♥♡
Jalsaghar คือห้องแสดงดนตรีแห่งศักดิ์ศรี กินไม่ได้แต่สามารถฆ่าคนตาย - (=183) The Story of the Late Chrysanthemum (1939)
- (=183) A Touch of Zen (1971)
: King Hu ♠♠♠♠♠
“A Touch of Zen สัมผัสแห่งการหลุดพ้นของ King Hu ผลงานระดับ Masterpiece ที่สวยงาม ตราตรึง ลึกซึ้ง ไร้เทียมทาน” - (=183) Listen to Britain (1942)
- (=183) Day of Wrath (1943)
: Carl Theodor Dreyer ♥♥♥
Carl Theodor Dreyer ได้ทำการสารภาพความเกรี้ยวกราดโกรธกับ Day of Wrath จนพระผู้เป็นเจ้าต้องยินยอมให้อภัย แต่คนดูนั้นไซร้ก็แล้วแต่รสนิยม
- (=183) The Thin Red Line (1998)
: Terrence Malick ♥♥♥♥
“The Thin Red Line ตั้งคำถามปรัชญาสงคราม ความขัดแย้ง และการต่อสู้ งดงามวิจิตรในสไตล์ของ Terrence Malick” - (=183) Eraserhead (1976)
- (=183) The Texas Chain Saw Massacre (1974)
: Tobe Hooper ♥♥♥
“The Texas Chain Saw Massacre คือ Masterpiece ของหนังแนว Horror สวยงามล้ำในแง่ของศิลปะ แต่ไร้ซึ่งขอบเขตจิตสำนึก เหตุผลทางมโนธรรม”
- (=183) The Discreet Charm of the Bourgeoisie (1972)
: Luis Buñuel ♥♥♥♥♡
“The Discreet Charm of the Bourgeoisie นี่น่าจะเป็นหนังที่ดูง่าย สนุกที่สุด ตลกที่สุดของ Luis Buñuel” - (=183) The Conversation (1974)
: Francis Ford Coppola ♥♥♥♥
“The Conversation ถึงการสนทนาของ Gene Hackman จะไม่อยากให้ใครอื่นได้ยิน แต่ Francis Ford Coppola ทำให้มันกึกก้องกังวาลดังทั่วผืนปฐพี” - (=183) Out of the Past (1947)
: Jacques Tourneur ♥♥♥♥♡
“Out of the Past อดีตที่ไม่มีวันเอาชนะ แต่กลับทำให้ผู้กำกับ Jacques Tourneur และ Robert Mitchum กลายเป็นอมตะ อนาคตไม่รู้ลืม”
- (=183) I Was Born, But… (1932)
: Yasujirô Ozu ♥♥♥♥◊
“I Was Born, But… แม้จะเป็นผลงานในยุคแรกๆของ Yasujirô Ozu แต่ยังโดดเด่นในสไตล์และเรื่องราวแฝงแนวคิดการใช้ชีวิต ต่อเด็กและผู้ใหญ่”
- (=183) I Know Where I’m Going! (1945)
- The Death of Mr. Lazarescu (2005)
- (=202) Red Desert (1964)
- (=202) Chelsea Girls (1966)
- (=202) Badlands (1973)
: Terrence Malick ♥♥♥♥
Badlands ผลงานแจ้งเกิดระดับตำนานของ Terrence Malick ชั่วร้ายแต่งดงามบริสุทธิ์ อาจจะครั้งแรกครั้งเดียวในวงการภาพยนตร์ - (=202) Im Lauf der Zeit (1976)
: Wim Wenders ♥♥♥♥
ผู้กำกับ Wim Wenders ได้กลายเป็น Kings of the Road ตัวจริงเสียงจริง
- (=202) There Will Be Blood (2007)
: Paul Thomas Anderson ♥♥♥♥♡
“There Will Be Blood ได้ทำให้ผู้กำกับ Paul Thomas Anderson เลือดท่วมเต็มจอ ด้วยความบ้าคลั่งไร้ขอบเขตของ Daniel Day-Lewis” - (=202) WALL-E (2008)
- (=202) Berlin Alexanderplatz
- (=202) Videodrome (1983)
- (=202) Daisies (1966)
- (=202) Uncle Boonmee Who Can Recall His Past Lives (2010)
- (=202) Manhattan (1979)
: Woody Allen ♥♥♥♥♡
“Manhattan ผลงาน Masterpiece ของ Woody Allen สวยล้ำด้วยภาพขาว-ดำ ของ Gordon Willis และยิ่งใหญ่ทรงพลังด้วยบทเพลงของ George Gershwin” - (=202) Cléo de 5 à 7 (1962)
: Agnès Varda ♥♥♥♥
ผู้กำกับ Agnès Varda บรรจงเขียนแต่ง Cléo de 5 à 7 จนสามารถก้าวผ่านข้อจำกัดเพศหญิง สู่อิสรภาพอันไร้ขอบเขต - (=202) West of the Tracks (2002)
- (=202) Russian Ark (2002)
- (=202) A Tale of Tales (1979)
- (=202) Spirited Away (2001)
: Hayao Miyazaki ♥♥♥♥♥
“ถอดวิญญาณล่องลอยไปกับ Spirited Away ในโลกของ Hayao Miyazaki แค่เพียงบทเพลงของ Joe Hisaishi ก็ทำให้คุณไม่อยากหวนกลับคืนร่างแล้ว” - (=202) La Strada (1954)
: Federico Fellini ♥♥♥♥♡
“La Strada คือเหตุผลการมีตัวตนของผู้กำกับ Federico Fellini มี Anthony Quinn กับ Giulietta Masina เป็นตัวตายตัวแทนได้อย่างซาบซึ้งกินใจที่สุดแล้ว” - (=202) Paisan (1946)
: Roberto Rossellini ♥♥♥♡
“Paisà ของผู้กำกับ Roberto Rossellini แม้การสื่อสารทางภาษาจะเข้าใจไม่ตรงกัน แต่หนังมีใจความสู่จุดมุ่งหมายเดียวกัน ทั้งในแง่เรื่องราวและสาสน์ในสื่อภาพยนตร์” - (=202) The Shop Around the Corner (1940)
: Ernst Lubitsch ♥♥♥♥
“The Shop Around the Corner ร้านของผู้กำกับ Ernst Lubitsch ถึงจะหลบซ่อนอยู่ตรงหัวมุม แต่ James Stewart กับ Margaret Sullavan กลับไม่เคยเดินเข้าร้านผิด” - (=202) The Big Sleep (1946)
: Howard Hawks ♥♥♥♡
“ในโลกอาชญากรรมของ The Big Sleep ดูไม่รู้เรื่องก็ช่างมัน แค่การแสดงของ Bogart & Bacall เหลือเฟือเพียงพอแล้วกระมัง”
- (=202) Killer of Sheep (1977)
- (=202) Wanda (1970)
- (=202) Germania anno zero (1948) : Roberto Rossellini ♥♥♥
Roberto Rossellini ทำให้ Germania anno zero เริ่มต้นจากศูนย์และมาจบสิ้นที่สูญ - (=202) The Life of Oharu (1952) : Japan – Kenji Mizoguchi
“The Life of Oharu อีกหนึ่ง masterpiece จาก Kenji Mizoguchi นำแสดงโดย Kinuyo Tanaka อย่าเพิ่งยอมแพ้ถ้าคิดว่าตัวเองโชคร้าย ไม่มีใครในโลกที่จะซวยได้มากกว่า Oharu อีกแล้ว”
- (=202) Army of Shadows (1969)
: Jean-Pierre Melville ♥♥♥♥
“Army of Shadows คือโลกในความทรงจำของ Jean-Pierre Melville ถ่ายทอดออกมาเต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณ” - (=202) Salò, or the 120 Days of Sodom (1975)
: Pier Paolo Pasolini ♥♥♡
“Salò, or the 120 Days of Sodom ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนตกนรกทั้งเป็น แต่ผู้กำกับ Pier Paolo Pasolini กลับได้ขึ้นสู่สรวงสวรรค์ชั้นฟ้า” - (=202) Duck Soup (1933)
: Leo McCarey ♥♥♥♥
รสชาดของ Duck Soup อาจไม่ถูกปากทุกคน แต่เมื่อได้ลิ้มลองเพียงครั้งเดียว น้อยนักจะสามารถหลบหลีกหนี Marx Brothers ได้อีกต่อไป - (=202) The Devil Probably (1977)
- (=202) The Turin Horse (2011)
- (=202) Love Streams (1984)
- (=202) The Exterminating Angel (1962)
: Luis Buñuel ♥♥♥♥
“The Exterminating Angel ถึง Luis Buñuel จะสามารถฉุดนางฟ้าให้ตกสวรรค์ได้สำเร็จ แต่ตัวเขากลับขึ้นสวรรค์กลายเป็นตำนานค้างฟ้า สอยยังไงก็ไม่มีวันตก”
- (=202) Floating Clouds (1955)
: Mikio Naruse ♥♥♥♥
“Floating Clouds ผลงาน Masterpiece ของ Mikio Naruse ที่จะทำให้คุณล่องลองเหมือนก้อนเมฆ ตามหาจุดเชื่อมกันระหว่างความฝันกับความจริง” - The Piano (1993)
: Jane Campion ♥♥♥♥♡
“The Piano (น่าจะ)คือหนัง Feminist เรื่องเยี่ยมที่สุดในโลก” - (=235) Gone with the Wind (1939)
: Victor Fleming ♥♥♥♥
Gone with the Wind คือสายลมที่ยังคงพัดผ่าน เหนือกาลเวลา ยิ่งใหญ่คลาสสิก - (=235) Melancholia (2011)
- (=235) The House Is Black (1962)
- (=235) Das Cabinet des Dr. Caligari (1920)
: Robert Wiene ♥♥♥♥
Das Cabinet des Dr. Caligari คือตู้เก็บประวัติศาสตร์เยอรมัน ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง - (=235) Red River (1948)
: Howard Hawks ♥♥♥♥
“Red River ลำธารที่ Howard Hawks ให้ John Wayne กับ Montgomery Clift ต้อนวัวข้ามไปนี้ มีความกว้างใหญ่อลังการที่สุดแล้ว”
- (=235) A Clockwork Orange (1971)
: Stanley Kubrick ♥♥♥♥♡
“โลกอนาคตในจินตนาการของ Stanley Kubrick มี Malcolm McDowell กลายร่างเป็น A Clockwork Orange รูปลักษณ์ภายนอกเหมือนจักรกล แต่ภายในคลุ้มคลั่งด้วยความรุนแรง” - (=235) Two-Lane Blacktop (1971)
- (=235) An Autumn Afternoon (1962)
: Yasujirō Ozu ♥♥♥♥♡
“An Autumn Afternoon ผลงานทิ้งท้ายของ Yasujirō Ozu ความเสียสละของพ่อช่างงดงาม ซาบซึ้งกินใจ สั่นสะท้านถึงทรวง”
- (=235) The Thin Blue Line (1988)
: Errol Morris ♥♥♥♥
The Thin Blue Line ของผู้กำกับ Errol Morris ได้ทำการเบลอเส้นแบ่งระหว่างภาพยนตร์-สารคดี เรื่องแต่ง-เหตุการณ์จริง ได้อย่างมีสีสันสไตล์ลิสต์ - (=235) Apur Sansar (1959)
: Satyajit Ray ♥♥♥♥♥
Apur Sansar ของ Satyajit Ray คือภาพยนตร์ที่เป็น ‘จิตสำนึก’ แห่งมวลมนุษยชาติ - (=235) The Testament of Dr. Mabuse (1933)
- (=235) My Darling Clementine (1946)
: John Ford ♥♥♥♥
“My Darling Clementine คือภาพยนตร์ Western ที่มีความสุภาพอ่อนหวานที่สุดของ John Ford และ Henry Fonda”
- (=235) The Double Life of Veronique (1991)
- (=235) Kes (1969)
: Ken Loach ♥♥♥♥
จิตวิญญาณของ Kes ช่างมีความสง่างาม น่าเกรงขาม มองจากฟากฟ้านภา พบเห็นภาพรวมของสังคมที่ไม่น่าอภิรมณ์เริงใจเลยสักนิด - (=235) Three Colors: Red (1994)
- (=235) The Big Lebowski (1998)
: Joel Coen ♥♥♥♥♡
“The Big Lebowski หนังติสต์ๆของคนแนวๆ โดย Coen Brothers และสุดยอดการแสดงของ Jeff Bridges ที่อาจทำให้คุณกลายเป็น The Dude โดยไม่รู้ตัว”
- (=235) Das weiße Band (2009)
: Michael Haneke ♥♥♥♥
Das weiße Band ริบบิ้นสีขาวที่ผูกโดย Michael Haneke แม้บนโลกที่มืดมนอับจนแสงสว่าง แต่กลับมีความโดดเด่นเจิดจรัสจร้า ทรงคุณค่าเหนือสิ่งอื่นใด
reference : http://www.bfi.org.uk/films-tv-people/sightandsoundpoll2012/critics