แม้ตอนออกฉายจะไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่ แต่เรื่องราวตลกร้ายของ The King of Comedy (1982) สะท้อนความอึดอัดอั้นของผู้กำกับ Martin Scorsese ไม่สามารถระบายอารมณ์คลุ้มบ้าคลั่ง และกลายเป็นแรงบันดาลใจภาพยนตร์ Joker (2019)
ป้ายกำกับ: Robert De Niro
กิจวัตรประจำวัน ‘Slice-of-Life’ อาชญากรระดับล่าง นำจากประสบการณ์ส่วนตัวของ Martin Scorsese เคยพบเห็น เติบโตขึ้นในย่าน Little Italy ที่สร้างความขัดแย้งต่อสามัญสำนึก รับรู้สึกว่าพฤติกรรมเหล่านั้นไม่ถูกต้อง แต่กลับมิอาจอดกลั้นฝืนทนเพราะผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมรอบข้าง
The Mission (1986) : Roland Joffé ♥♥
เรื่องราวของ Missionary คณะ Jesuit เดินทางเข้าไปเผยแพร่ศาสนายังทวีปอเมริกาใต้ ให้กับชนเผ่าพื้นเมืองแห่ง Amazon แต่พอศรัทธาเริ่มบังเกิด กลับถูกสั่งให้ล้มเลิกภารกิจ นี่นะหรือลัทธิอาณานิคม, น่าจะเป็นภาพยนตร์รางวัล Palme d’Or ยอดแย่ที่สุด
Once Upon a Time in America (1984)
Once Upon a Time in America (1984) : Sergio Leone ♥♥♥♥
หนังอาจจะเยิ่นยาวและเชื่องช้าเกินไป แต่คือ Swan Song เรื่องสุดท้ายของผู้กำกับ Sergio Leone, เมื่อกาลเวลาเคลื่อนผ่านแล้วมองย้อนกลับสู่อดีต ความทรงจำอันเลวร้ายจักค่อยๆเลือนลางจางหาย เคยโกรธเกลียดเคียดแค้นใครย่อมสามารถยกโทษให้อภัย เนิ่นนานเกินไปจึงหลงเหลือเพียงความเพ้อฝัน กาลครั้งหนึ่ง…
Wag the Dog (1997) : Barry Levinson ♥♥♡
สองโกหกผู้เกรียงไกร เป็นภาพยนตร์ Black Comedy ที่ถึงดูไร้สาระแต่มิได้เว่อวังอลังการเกินจริง เพราะยุคสมัยที่มีเพียงสื่อโทรทัศน์ครอบงำประชาชน นั่นคือจักรวาลความเชื่อของมนุษย์เลยก็ว่าได้
1900 (1976)
1900 (1976) : Bernardo Bertolucci ♥♥♥
ประสบชะตากรรมเดียวกับ Ryan’s Daughter (1970) ของผู้กำกับ David Lean นำเสนอประเด็นใหญ่ๆด้วยการเปรียบเปรยกับสิ่งเล็กๆ แล้วพยายามขยายงานสร้างให้มีความเว่อวังอลังการ แบบนี้ผลลัพท์ภาพที่ได้ย่อมแตกละเอียดหยาบกร้าน จนแทบมองอะไรไม่เห็น หมดสิ้นคุณค่าความหมายใดๆ
Heat (1995)
Heat (1995) : Michael Mann ♥♥♥♥
ความสัมพันธ์ระหว่างตำรวจกับโจร ว่าไปมีความเร่าร้อนรุนแรง มองตาเข้าใจ ขาดกันไม่ได้ แนบแน่นลึกซึ้งยิ่งกว่าภรรยาคนรักเสียอีก, หักเหลี่ยมเฉือนคมไปกับความระห่ำเดือดของ Al Pacino และ Robert De Niro แถมด้วย Val Kilmer ใครจะอยู่หรือไปในฉากดวลปืนหลังปล้นธนาคารอันบรรลือลั่น
GoodFellas (1990)
GoodFellas (1990) : Martin Scorsese ♥♥♥♥
ช่วงเวลาสามทศวรรษแห่งการเป็นมาเฟีย ทำให้ Ray Liotta รับรู้ตัวเอง ต่อให้กลายเป็น ‘GoodFellas’ กับ Robert De Niro และ Joe Pesci แต่แค่ความผิดพลาดล้มเหลวเพียงคราเดียว ชีวิตก็อาจจะตกอยู่ในอันตรายได้, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
Taxi Driver (1976)
ขับรถ Taxi Driver ล่องลอยเรื่อยเปื่อยไปทั่วมหานคร New York City พบเห็นความฟ่อนเฟะ เน่ะเละเทะ สภาพสังคมช่วงทศวรรษ 70s มีความต่ำตม สกปรกโสมม นั่นทำให้ Robert De Niro ต้องการทำอะไรสักสิ่งอย่าง ค้นหาอัตลักษณ์ พิสูจน์การมีตัวตน พบเจอเป้าหมายชีวิตของตนเอง
Raging Bull (1980)
ผู้กำกับ Martin Scorsese ไม่เคยชื่นชอบกีฬาชกมวย หลายต่อหลายครั้งบอกปัด Robert De Niro ไม่อยากสร้างภาพยนตร์ชีวประวัติ Jake LaMotta เจ้าของฉายา The Bronx Bull หรือ Raging Bull จนกระทั่งความล้มเหลวย่อยยับของ New York, New York (1977) เกือบจะเสพยาเกินขนาด ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาลตระหนักถึงนัยยะการต่อสู้บนสังเวียนพื้นผ้าใบ, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
The Godfather Part II (1974)
The Godfather Part II (1974) hollywood : Francis Ford Coppola ♥♥♥♥
กับหนังภาคต่อที่ได้รับการยกย่องไม่ยิ่งย่อนไปกว่าภาคแรก The Godfather Part II นำเสนอ 2 เรื่องราวคู่ขนาน ของ Vito พ่อตอนวัยหนุ่มกำลังไต่เต้าขึ้นเป็นใหญ่และ Michael ลูกชายตอนโตที่ค่อยตกต่ำลงเรื่อยๆ, กวาด 6 รางวัล Oscar รวมถึงภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ถือเป็นหนังภาคต่อเรื่องเดียวที่ทำได้, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
The Deer Hunter (1978)
The Deer Hunter (1978) hollywood : Michael Cimino ♥♥♥♥♥
มี 3 ฉากใน The Deer Hunter ที่ทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นหนังโปรดเรื่องแรกของผม
1) ในบาร์ต้นเรื่อง ขณะที่กลุ่มขี้เมาร่วมกันร้องเพลง Can’t Take My Eyes Off You
2) กระสุน 3 นัด และการหัวเราะท้าความตายของพระเอกกับเวียดกง
3) ตอนท้ายที่ตัวละครของ Christopher Walken จ้องหน้า Robert De Niro พูดว่า ‘One Shot’ ยิ้มแล้ว…
Brazil (1985)
Brazil (1985) : Terry Gilliam
หนังเรื่องนี้ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับประเทศ Brazil แม้แต่น้อย ผู้กำกับ Terry Gilliam กับหนังแนว Dystopia, Sci-Fi, Comedy Satire ที่มีการเสียดสีระบบราชการ (Bureaucratic) ได้อย่างเจ็บแสบ บ้าคลั่ง ไร้สติ คนสติดีๆอาจดูหนังเรื่องนี้ไม่รู้เรื่อง แต่คนที่เข้าใจระบบเป็นอย่างดี นี่เป็นหนังที่อาจทำให้คุณเสียสติได้