
วินาทีที่คุณหนูไฮโซ Kate Winslet ให้คำมั่นสัญญาหนีตามไอ้หนุ่มชนชั้นสาม Leonardo DiCaprio นั่นคือสิ่งที่สังคมสมัยนั้นยังไม่ให้การยินยอมรับ พอดิบพอดีกับเรือ RMS Titanic พุ่งชนภูเขาน้ำแข็งอย่างจัง กลายเป็นคำเรียก ‘ชู้รักเรือล่ม’ ไม่มีวันจมหายตามกาลเวลา
วินาทีที่คุณหนูไฮโซ Kate Winslet ให้คำมั่นสัญญาหนีตามไอ้หนุ่มชนชั้นสาม Leonardo DiCaprio นั่นคือสิ่งที่สังคมสมัยนั้นยังไม่ให้การยินยอมรับ พอดิบพอดีกับเรือ RMS Titanic พุ่งชนภูเขาน้ำแข็งอย่างจัง กลายเป็นคำเรียก ‘ชู้รักเรือล่ม’ ไม่มีวันจมหายตามกาลเวลา
นิราศเรื่องสุดท้ายของปรมาจารย์ผู้กำกับ David Lean รำพรรณาถึงชีวิต-ความตาย การเดินทางสู่โลกใหม่ บางสิ่งอย่างตื่นขึ้นภายใน พิพากษาตัดสินอะไรคือสิ่งถูก-ผิด ดี-ชั่ว และผลกรรมติดตามมา
ความอร่ามของพระราชวัง(ดอก)ทอง เป็นการแสดงให้เห็นถึงคติรวมหมู่ (Collectivism) เมื่อผู้คนสมัครสมานสามัคคี ร่วมมือร่วมใจกระทำสิ่งต่างๆเพื่อเป้าหมายส่วนรวม จักสามารถสร้างความยิ่งใหญ่ให้ประเทศชาติ, นี่คือภาพยนตร์ที่ทำให้รัฐบาลจีนเลือกจางอี้โหมว มาเป็นผู้กำกับพิธีเปิดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน Beijing 2008
ผู้กำกับ Michael Cimino ทำสัญญาปีศาจเพื่อสรรค์สร้างโปรเจคในฝัน Heaven’s Gate (1980) ใส่ใจทุกรายละเอียดถ่ายทำ 50+ กว่าเทค ได้ฟีล์มความยาวประมาณ 1.3 ล้านฟุต (220 ชั่วโมง) งบประมาณบานปลาย 4 เท่าตัว เมื่อนักวิจารณ์ส่ายหัว ผู้ชมไม่เอาด้วย เลยถูกตีตรา ‘Worst Movie of All-Time’ แต่ตัวหนัง Director’s Cut ความยาว 216 นาที ก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น
‘ทำไมวรรณกรรมเรื่องยิ่งใหญ่สุดของรัสเซีย ถึงถูกดัดแปลงสร้างภาพยนตร์ War and Peace (1956) โดยสหรัฐอเมริกา?’ ณ จุดสูงสุดของสงครามเย็น สหภาพโซเวียตพร้อมเผชิญหน้าศัตรูจากทุกสารทิศ ทางฝั่งศิลปะวัฒนธรรมก็เฉกเช่นเดียวกัน จึงกลายมาเป็นอภิมหาโปรเจคทะเยอทะยาน ยิ่งใหญ่ สมจริง อลังการงานสร้างที่สุดแห่งวงการภาพยนตร์, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
ผมมองความล้มเหลวของ Dune (1984) เกิดจากวิสัยทัศน์ผู้กำกับ David Lynch ไม่เข้าใจนวนิยายต้นฉบับเพียงพอ ใส่ความเป็นตัวตนเองมากเกินไป และมิอาจต่อรองโปรดิวเซอร์จนสูญเสียการควบคุมทั้งโปรเจค, กาลเวลาทำให้หนังเข้าสู่กระแส Cult Classic ดูแบบไม่คิดอะไรก็น่าจะเพลิดเพลินไปกับมันได้
มหาตมา คานธี พยายามอย่างยิ่งจะใช้หลัก ‘อหิงสา’ ไม่เบียดเบียน ไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา แต่ท้ายสุดก็มิอาจเอาชนะสันดานธาตุแท้มนุษย์ ถูกเข่นฆาตกรรมโดยผู้มีความครุ่นคิดเห็นต่าง ปัจจุบันหลงเหลือเพียงตำนานลือเล่าขาน ค่อยๆถูกหลงลืมเลือนไปตามกาลเวลา, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
มหากาพย์แฟนตาซี Nibelungenlied เกี่ยวกับการเดินทางของนักฆ่ามังกร Siegfried ตกหลุมรักครองคู่สาวงาม Kriemhild แล้วกลับถูกพี่เขย/พี่ร่วมสาบาน King Gunther ทรยศหักหลักเข่นฆ่าตกตาย เพื่อจะได้มีโอกาสแก้แค้นคืนให้คนรัก เธอยินยอมกระทั่งแต่งงานใหม่กับ King Etzel ผู้มีหน้าตาอัปลักษณ์ นิสัยป่าเถื่อนดุร้าย
จตุรอาชาแห่งวิบัติ ดัดแปลงจากนวนิยายขายดีของ Vicente Blasco Ibáñez ทำการเปรียบเทียบหายนะสงคราม ช่างมีความเหี้ยมโหดร้าย ไม่แตกต่างการตัดสินพิพากษาในวันสิ้นโลก, บทบาทแจ้งเกิด Rudolph Valentino เจ้าของฉายา ‘Latin Lover’ ในหนังต่อต้านสงครามเรื่องแรกๆของ Hollywood, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
ดัดแปลงจากตอนหนี่งของมหาภารตะ กษัตริย์ผู้คลุ้มคลั่งไคล้ในการพนัน ทุ่มหมดหน้าตักถีงขนาดขายตนเอง เอาประเทศชาติเป็นเบี้ยประกัน, หนังเงียบเรื่องยิ่งใหญ่จากประเทศอินเดีย ประสบความสำเร็จทำเงินมหาศาล และทิ้งตำนานจูบแรกแห่ง Bollywood
ครั้งที่สามของความพยายามไปให้ถีงจุดสูงสุดบนยอดเขา Everest ของนักสำรวจชาวอังกฤษเมื่อ ค.ศ. 1924 แต่คือครั้งแรกที่มีการบันทีกภาพเคลื่อนไหว กลายมาเป็นภาพยนตร์สารคดีบันทีกการเดินทาง Travelogue อลังการตราตะลีงไปกับความยิ่งใหญ่แห่งเทือกเขาสูงที่สุดในโลก
สองสาวกำพร้า (รับบทโดยสองพี่น้อง Lillian และ Dorothy Gish) ในช่วงเวลาแห่งมรสุม French Revolution (1789-99) เป็นความพยายามแสดงทัศนะในเชิงเปรียบเทียบของผู้กำกับ D. W. Griffith ต่อชัยชนะของพรรคแรงงานสังคมประชาธิปไตยรัสเซีย (Bolsheviks)
นักบุกเบิกแห่งสหรัฐอเมริกา เดินทางด้วยคาราวานรถม้าจาก Kansas สู่ Oregon พานผ่านเหตุการณ์ต่างๆมากมาย อลังการไปกับการสู่รบพุ่งชาวอินเดียแดง ได้รับคำโปรย ‘ภาพยนตร์ระดับ Epic เรื่องแรกที่ไม่ได้สร้างโดย D. W. Griffith’
Potomok Chingiskhana (1928) : Vsevolod Pudovkin ♥♥♡
เจงกีสข่าน แม้จะล่วงลับไปหลายศตวรรษ แต่แค่ชื่อก็ยังทรงอิทธิพลต่อชาวมองโกล เป็นเหตุให้ผู้นำกองทัพแห่งสหราชอาณาจักร นำชายผู้หนึ่งซึ่งเกิดความเข้าใจ(ผิดๆ)ว่าสืบเชื้อสาย ทายาทรุ่นปัจจุบัน มาปลุกปั้น ขยับเขยื้อน กลายเป็นหุ่นเชิดชัก เพื่อหวังครอบครองผืนแผ่นดินอันเวิ้งว้างว่างเปล่านี้
Shiraz (1928) : Franz Osten ♥♥♥
ทัชมาฮาล อนุสรณ์สถานแห่งรัก ได้รับการยกย่องว่ามีความสวยงามที่สุดในโลก สร้างโดยสมเด็จพระจักรพรรดิ Shah Jahan อุทิศให้พระมเหสีเอก Mumtaz Mahal แต่หนังเงียบนี้คือเรื่องราวของ Shiraz หนุ่มปั้นหม้อผู้ตกหลุมรักเจ้าหญิง และออกแบบสิ่งมหัศจรรย์ของโลกแม้สายตามืดมิดบอด
The Revenant (2015) : Alejandro González Iñárritu ♥♥♥♥
ธรรมชาติวิทยาของมนุษย์ ใครเข่นฆาตกรรมลูกเราก็ต้องติดตามล้างแค้นเอามันคืน! แต่นั่นมันสัจธรรมความจริงเสียที่ไหน เมื่อใดผู้ถูกกระทำเรียนรู้จักการให้อภัย สามารถปลดปล่อยวางอคติ ความหมกมุ่นครุ่นยึดติด สูดลมหายใจเข้า-ออกช้าๆเกิดเป็นสมาธิ จิตวิญญาณก็จักพบเจอความสงบสันติสุขในชีวิต
Once Upon a Time in America (1984) : Sergio Leone ♥♥♥♥
หนังอาจจะเยิ่นยาวและเชื่องช้าเกินไป แต่คือ Swan Song เรื่องสุดท้ายของผู้กำกับ Sergio Leone, เมื่อกาลเวลาเคลื่อนผ่านแล้วมองย้อนกลับสู่อดีต ความทรงจำอันเลวร้ายจักค่อยๆเลือนลางจางหาย เคยโกรธเกลียดเคียดแค้นใครย่อมสามารถยกโทษให้อภัย เนิ่นนานเกินไปจึงหลงเหลือเพียงความเพ้อฝัน กาลครั้งหนึ่ง…
Once Upon a Time in the West (1968) : Sergio Leone ♥♥♥♥
หลังเสร็จจาก Dollars Trilogy แม้รู้สึกเพียงพอแล้วกับ Spaghetti Western แต่เมื่อ Sergio Leone ได้รับการโน้มน้าวจาก Paramount Pictures อนุญาตให้เข้าถึงนักแสดงคนโปรด Henry Fonda มีหรือจะไม่ยินยอมหวนกลับมา ครานี้ยำใหญ่ใส่สารพัดระดับ Epic และกลับตารปัตรทุกสิ่งที่ใครๆเคยพบเห็นมา
Nashville (1975) : Robert Altman ♥♥♥♥
คงไม่ผิดอะไรจะเปรียบเทียบเมือง Nashville, Tennessee กับประเทศสหรัฐอเมริกาทศวรรษนั้น เต็มไปด้วยความโกลาหล สับสนวุ่นวาย ขณะที่บรรดานักร้องเพลงคันทรีทั้งหลาย การขึ้นแสดงบนเวทีแทบไม่ต่างอะไรกับการหาเสียงของนักการเมือง!
Out of Africa (1985) : Sydney Pollack ♥♥♥♡
แม้ถูกจัดเป็นหนึ่งใน Worse Oscar: Best Picture แต่ความงดงามผืนแผ่นดิน East Africa การแสดงชั้นเลิศของ Meryl Streep และเพลงประกอบสุดฟินโดย John Barry จักทำให้คุณอิ่มหนำสุขสำราญ แม้ด้วยความอืดอาดเชื่องช้า 161 นาที