
ห่าฝนที่ตกลงมา ชุ่มฉ่ำเสียงหัวเราะด้วยภาษาภาพยนตร์สุดจัดจ้าน และชอกช้ำคราบน้ำตาเพราะนำเสนอหายนะของประเทศอิหร่าน, แนะนำโดย Martin Scorsese รวบรวมอยู่ใน World Cinema Project
ห่าฝนที่ตกลงมา ชุ่มฉ่ำเสียงหัวเราะด้วยภาษาภาพยนตร์สุดจัดจ้าน และชอกช้ำคราบน้ำตาเพราะนำเสนอหายนะของประเทศอิหร่าน, แนะนำโดย Martin Scorsese รวบรวมอยู่ใน World Cinema Project
เมื่อมนุษย์ (ไม่ใช่แค่วัยรุ่น) ถูกกดขี่ข่มเหง ควบคุมครอบงำ ได้รับบาดเจ็บทั้งร่างกาย-จิตใจ จักเริ่มมองหาสถานที่พักผ่อนคลาย ท้องทุ่งแห่งความสงบสันติ หรือใครสักคน Lily Chou-Chou สำหรับพึ่งพักพิง (Escapist) แต่ถ้าโลกส่วนตัวใบนั้นยังถูกคุกคาม ความเกรี้ยวกราดจะปะทุระเบิดออกอย่างคลุ้มบ้าคลั่ง
ตาบอดคลำช้าง คือแนวคิดที่ผู้กำกับ Gus Van Sant ใช้นำเสนอเหตุการณ์สังหารหมู่ ณ โรงเรียนมัธยมปลาย Columbine High School เมื่อวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 1999 ด้วยการร้อยเรียงเรื่องราววัยรุ่น ทั้งมีส่วนร่วม พบเห็น เป็น-ตาย แต่ไม่มีใครล่วงรับรู้ว่าบังเกิดห่าเหวอะไรขึ้น, คว้ารางวัล Palme d’Or จากเทศกาลหนังเมือง Cannes
เพราะได้รับทุนสร้างจากรัฐบาลจีน ผู้กำกับจางอี้โหมวเลยยืนกรานว่าหนังไร้ซึ่งนัยยะทางการเมือง แต่เพียงเพื่อโบนัสไม่กี่สิบหยวน ครูสาววัยสิบสามกลับยินยอมทำทุกสิ่งอย่าง จนหลงลืมหน้าที่รับผิดชอบแท้จริงของตนเอง, คว้ารางวัล Golden Lion จากเทศกาลหนังเมือง Venice
ร้อยเรียงวัยอลวลของหนุ่ม-สาวมัธยมปลาย ในวัน-คืนสุดท้ายก่อนปิดภาคการศึกษาฤดูร้อน เต็มไปด้วยพลัง ความสุดเหวี่ยง อะดรีนาลีนหลั่งคลั่ง อนาคตเด็กๆเหล่านี้ช่างว่างเปล่าเหมือนเนื้อเรื่องราว แต่จักกลายเป็นความทรงจำไม่รู้ลืม เก็บฝังไว้ใน Time Capsule
ร้อยเรียงเรื่องราวของกลุ่มเด็กๆประถม-มัธยม ระหว่างอยู่บ้าน-ไปโรงเรียน พานผ่านเหตุการณ์สุข-ทุกข์ รอยยิ้ม-ความเจ็บปวด ตกหลุมรัก-อกหัก จูบแรกของ François Truffaut ที่ยังคงถวิลหา และปาฐกถาคาดหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กๆขึ้นในสังคม, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
จดหมายรักของผู้กำกับ Naoko Yamada ต่อ Kyoto Animation เปรียบตนเองเหมือนนกสีฟ้า (Blue Bird) สักวันก็ต้องโบยบินจากไป ถึงอย่างนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเราจักไม่มีวันเสื่อมสลาย ฉันจะรักษาช่วงเวลาอันทรงคุณค่านี้ไว้ให้ได้นานที่สุด
Shoko Nishimiya แม้เป็นคนหูหนวก แต่พยายามปรับตัวใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไป ไม่ต้องการให้มองความพิการคือสิ่งผิดปกติ หรือสร้างความเดือดร้อนให้ใคร แต่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถสื่อสารทำความเข้าใจ ต้องประสบพบเจอเข้ากับตนเองก่อนหรือไรถึงค่อยตระหนักความเจ็บปวดของผู้ถูกข่มเหงรังแก, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
มนุษย์มีสิทธิ์จะเพ้อฝัน อิสรภาพในสิ่งที่อยากทำ แต่ถ้าไม่รับรู้จักหักห้ามควบคุมตนเอง มันแตกต่างอะไรกับเดรัจฉาน? Dead Poets Society นำเสนออุดมการณ์ชวนเชื่อซ้ายจัด (เสรีนิยม) แม้สามารถเปิดมุมมองโลกทัศน์ใหม่ๆ สร้างแรงบันดาลใจให้ใครต่อใคร แต่ใช่ว่าทุกคนจะต้องการลุกขึ้นยืน
Will Hunting คือเด็กหนุ่มอัจฉริยะที่ทำตัวเกรียนไปวันๆ แต่จะมีใครสามารถทำความเข้าใจสาเหตุผล เพราะอะไร? ทำไม? ที่มาที่ไป เบื้องหลังความเป็นมา ไม่มีทางที่จู่ๆมนุษย์คนหนึ่งจะแสดงนิสัยเห็นแก่ตัว เอาแต่ใจ ต่อต้านสังคมระดับนี้หรอกนะ, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
I Killed My Mother คือภาพยนตร์เรื่องแรกแจ้งเกิดผู้กำกับ/นักแสดง Xavier Dolan พัฒนาบทกึ่งๆอัตชีวประวัติเมื่ออายุ 16 เริ่มถ่ายทำตอน 18-19 เข้าฉายเทศกาลหนังเมือง Cannes สาย Director’s Fortnight คว้ามาถึง 3 รางวัล, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
Where Is the Friend’s Home? (1987) : Abbas Kiarostami ♥♥♥♥
เด็กชายตระหนักได้ว่าหยิบสมุดการบ้านเพื่อนติดตัวกลับมาด้วย ต้องการนำส่งคืนก่อนถูกครูลงโทษพรุ่งนี้เช้า แต่… บ้านนายอยู่ไหน? ภาพยนตร์สร้างชื่อระดับนานาชาติให้ผู้กำกับ Abbas Kiarostami งดงามดั่งบทกวี, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
Election (1999) : Alexander Payne ♥♥♥♥
การเลือกตั้งประธานนักเรียน ที่สื่อได้ถึงการ’เลือก’ใช้ชีวิต ระหว่างทำทุกสิ่งอย่างเพื่อชัยชนะโดยไม่สนถูกผิด หรือปล่อยให้อะไรๆเกิดขึ้นดำเนินไปตามโชคชะตา, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
Kes (1969) : Ken Loach ♥♥♥♥
เด็กชายอายุ 15 ปี รูปร่างผอมกะหร่อง ทื่มทื่อ มาจากครอบครัวเหมืองจนๆ มักถูกกลั่นแกล้งสารพัดจากเพื่อนนักเรียน และตกเป็นเป้าโจมตีของครูจอมเผด็จการ แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยสูญเสียคือจิตวิญญาณ เพ้อใฝ่ฝันโบยบินอิสระเสรีเหมือนเหยี่ยวเคสเตรล (Kestrel) จับมาฝึกฝนเลี้ยงดูแล ก่อนท้ายที่สุด…, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
A Little Princess (1995) : Alfonso Cuarón ♥♥♥♡
ผลงานโกอินเตอร์ Hollywood เรื่องแรกของ Alfonso Cuarón ก้าวออกจากเส้นกรอบวงกลม มุ่งสู่โลกกว้างแห่งอิสรภาพ จินตนาการไร้ขอบเขต, งานภาพอันสุดมหัศจรรย์ของ Emmanuel Lubezki ทำให้ได้เข้าชิง Oscar: Cinematography หนแรก
What Have You Done to Solange? (1972) : Massimo Dallamano ♥♥♡
ครูสอนพละ ทั้งๆแต่งงานมีภรรยาอยู่แล้ว กลับสร้างสัมพันธ์สวาทกับลูกศิษย์สาวอายุ 18 ปี ระหว่างกำลังพลอดรักบังเอิญอยู่ในบริเวณสถานที่เกิดเหตุการณ์ฆาตกรรม จะบอกกับตำรวจว่าไปทำอะไรอยู่แถวนั้นก็ใช่ที่ แล้วนี่ฉันจะทำอย่างไรต่อไปดี?
Suspiria (2018) : Luca Guadagnino ♥♥♥♥
Suspiria ภาษาอิตาลี แปลว่า เสียงคราง, ทอดถอนหายใจ คงเป็นอาการของใครหลายๆคนเมื่อรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ชอบไม่ชอบอยู่ที่สามารถเข้าถึงนามธรรมซ่อนเร้นมากน้อยแค่ไหน เพราะทุกสิ่งอย่างคือกระจกสะท้อนกันได้ เกิด-ตาย ชาย-หญิง อดีต-ปัจจุบัน ความจริง-ความฝัน ภาพหลอน-เวทย์มนต์ เยอรมันตะวันออก-ตะวันตก เคลื่อนไหวทางการเมือง-พิธีกรรมแม่มด สุดท้ายอยู่ที่เราจะเรียนรู้การอยู่ร่วมกันได้อย่างไร
Grease (1978) : Randal Kleiser ♥♥♥
กาลเวลาได้ทำให้หนัง ‘พลาสติก’ เรื่องนี้เสื่อมคุณค่าลง แต่เพราะคือสัญลักษณ์แห่งทศวรรษ 70s ยอดขายอัลบัม Soundtrack สูงอันดับสองแห่งปี (เป็นรองเพียง Saturday Night Fever) หนังเพลงทำเงินมากสุดแทนที่ The Sound of Music (1965) และส่งให้ John Travolta กลายเป็น Elvis Presley แห่งวงการภาพยนตร์, ใครเกิดทันทศวรรษนั้นย่อมคงเคลิบเคลิ้มหลงใหลคลั่งไคล้มากยิ่งทีเดียว
if… (1968) : Lindsay Anderson ♥♥♥♥
บรรยากาศความตึงเครียดในโรงเรียน ไม่เพียงสะท้อนขนบวิถีทางสังคมของประเทศอังกฤษ ยังเหมารวมถึงสถานการณ์โลกในทศวรรษสงครามเย็น สร้างความอึดอัดอั้นคับข้องใจให้กับ Malcolm McDowell และผองเพื่อน เหมือนระเบิดเวลาที่กำลังนับถอยหลัง รอคอยวันจะทำลายทุกสิ่งอย่างขว้างหน้า, คว้ารางวัล Palme d’Or และ “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
Zero for Conduct (1933) : Jean Vigo ♥♥♥
แม้จะความยาวเพียง 40 กว่านาที แต่นี่คือโคตรภาพยนตร์แนว Surrealist แบบเดียวกับ Un chien andalou (1929) และ L’Age d’Or (1930), เรื่องราวของเด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่ง ทนไม่ไหวแล้วต่อความเข้มงวดกวดขันเกินไปของครูอาจารย์ ตัดสินใจรวมกลุ่มต่อต้านก่อกบฏเล็กๆ ไม่ได้เพื่อเรียกร้องต่อรอง แต่ระเบิดออกซึ่งความอึดอัดอั้นตันใจ เหตุการณ์นี้กลายเป็นอิทธิพลให้ The 400 Blows (1959) และ if… (1968)