
ผลงานมาสเตอร์พีซของผู้กำกับ Hiroshi Shimizu, นำเสนอการผจญภัยของกลุ่มเด็กกำพร้าจากสงคราม (War Orphan) พานผ่านเศษซากปรักหักพังของญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
a recommend list
ผลงานมาสเตอร์พีซของผู้กำกับ Hiroshi Shimizu, นำเสนอการผจญภัยของกลุ่มเด็กกำพร้าจากสงคราม (War Orphan) พานผ่านเศษซากปรักหักพังของญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ปัญหาของผู้ใหญ่คือสิ่งที่เด็กๆยังมิอาจทำความเข้าใจ แต่การแก้ปัญหาตามประสาเด็กๆอาจสามารถเป็นบทเรียนชีวิตสำหรับผู้ใหญ่ ภาคต่อที่ไม่ใช่ภาคต่อของ Children in the Wind (1937), “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
เด็กชายเปรียบดั่งสายลม พัดพามรสุม ก่อความวุ่นวายไม่รู้จักจบจักสิ้น แต่หลังจากบิดาถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินบริษัท ชีวิตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เขาจึงจำต้องปรับตัว เติบโต เรียนรู้จักโลกกว้าง
Chishū Ryū ระหว่างอาบน้ำแร่ แช่ออนเซ็น เท้าเหยียบปิ่นปักผมได้รับบาดเจ็บ พูดคุยกับเพื่อนเข้าพัก รู้สึกเหมือนฝัน ราวกับกวีนิพนธ์ “my foot has been pierced by poetry” ใครๆต่างครุ่นคิดว่าเธอคนนั้นต้องเป็นหญิงสาวสวยแน่ๆ แต่ความจริงแล้ว …
หมอนวดตาบอดออกเดินทางไปยังรีสอร์ทบนเขา ระหว่างทางรถโดยสารแล่นผ่าน ได้กลิ่นหอมรัญจวนของหญิงสาวจาก Tokyo เกิดความฉงนสงสัย เธอมาพักผ่อนหรือทำอะไร? แม้สายตามองไม่เห็นแต่จิตใจมิได้มืดบอด
มองผิวเผินอาจเป็นแค่หนัง Road Movie ดำเนินไปอย่างเอื่อยๆเฉื่อยๆ (Slow Life) ไม่ได้มีเรื่องราวน่าตื่นตาตื่นใจอะไร แต่เบื้องลึกกลับซุกซ่อนผลกระทบจาก Shōwa Depression (1930-32) คำขอบคุณเล็กๆระหว่างการเดินทาง สามารถสร้างพลังชีวิตอย่างล้นหลาม, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
เรื่องราวรักสาม(สี่)เส้าของหญิงชาวญี่ปุ่น ณ เมืองท่า Yokohama ความอิจฉาริษยาทำให้เธอลั่นไกปืน หลบหนีอยู่หลายปีก่อนหวนกลับมาทำงานโสเภณี พบเจออดีตคนรักแต่งงานกับเพื่อนสนิท ถึงอย่างนั้นถ่านไฟเก่ายังคงคุกรุ่น ฟังดูวุ่นๆวายๆ แต่การร้อยเรียงภาพถ่ายทิวทัศน์ใน ‘สไตล์ Shimizu’ ช่างงดงามเหลือหลาย
เปรียบดั่งประติมากรรมแกะสลัก Venus de Milo แม้สูญเสียแขนสองข้าง แต่ยังมีความงามสมบูรณ์แบบ! What Made Her Do It? (1930) คือโคตรหนังเงียบที่หลายๆฉากสูญหาย แต่ยังมีความทรงพลังตราตรึง แรงระเบิดจากการถูกกดขี่ข่มเหง แผดเผาทำลายทุกสิ่งอย่างราบเรียบหน้ากลอง
หนังเงียบเรื่องสุดท้ายของผู้กำกับ Mikio Naruse และกับสตูดิโอ Shōchiku ก่อนย้ายไป P.C.L. Studios (ในอนาคตจะผนวกรวมกับ Toho) ร้อยเรียงทิวทัศน์ท้องถนน Ginza, Tokyo เก็บฝังไว้ในไทม์แคปซูล
ความฝันของแม่เลี้ยงเดี่ยว อยากมีอาชีพการงานมั่นคง โหยหาใครสักคนสามารถเป็นที่พึ่งพักพิง การหวนกลับมาของสามีเหมือนจะทำให้ชีวิตดีขึ้น แต่ทว่า …
บุตรชายวัยรุ่นเต็มไปด้วยอคติต่อมารดาเกอิชา เริ่มโดดเรียน เข้ากลุ่มอันธพาล ทำการลักเล็กขโมยน้อย ถ้าไม่เพราะพี่สาวสุดสวย (เพื่อนเกอิชาของมารดา) นำพาไปพบเจอญาติพี่น้อง พบเห็นบางสิ่งอย่างที่ทำให้เขาเข้าใจความทุกข์ยากลำบากชีวิต, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
มารดาแท้ๆทอดทิ้งลูกในไส้เพื่อดำเนินตามความฝัน หลายปีถัดมาต้องทวงคืนสิทธิ์ดังกล่าว แต่บุตรสาวกลับเลือกแม่บุญธรรม ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดใดๆ ใครถูก? ใครผิด? ใครควรมีสิทธิ์ตัดสินใจ?
หนังเงียบขนาดสั้นเก่าแก่ที่สุดหลงเหลือถึงปัจจุบันของผู้กำกับ Mikio Naruse ทำการผสมผสาน Nansensu Kigeki (Nonsense Comedy) เข้ากับ Shōmin-geki (Common People Drama) ด้วยลวดลีลาภาพยนตร์ได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
หนังเงียบเรื่องสุดท้ายหลงเหลืออยู่ของผู้กำกับ Yasujirô Ozu ร้อยเรียงภาพความทุกข์ยากลำบาก ปากกัดตีนถีบของชนชั้นรากหญ้าชาว Tokyo โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ผุดขึ้นยังกะดอกเห็ด แต่กลับไม่มีใครว่าจ้างงาน พ่อ-ลูกสองจึงต้องหาเงินด้วยการไล่จับสุนัขจรจัด
เรื่องราวของพ่อเลี้ยงเดี่ยว ให้ความช่วยเหลือหญิงสาวแรกรุ่นที่ถูกไล่ออกจากงาน จากนั้นพยายามเกี้ยวพาราสี ขายขนมจีบ แต่เธอไม่รับรัก ความสุขช่วงสั้นๆผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ความทุกข์ก็เฉกเช่นเดียวกัน!
ภาพยนตร์ที่ดูไม่น่าสร้างโดย Yasujirô Ozu แต่สำแดงอิทธิพลจาก Hollywood หลงใหลคลั่งไคล้หนังอาชญากรรม ทำออกมาอย่างสไตล์ลิสต์ ติสต์แตก! การแสดงของ Kinuyo Tanaka ก็เจิดจรัสไม่แพ้กัน!
อีกหนึ่ง Holy Grail แห่งวงการภาพยนตร์! เคยได้รับการโหวตอันดับ #1 จากนิตยสาร Kinema Junpo: Top Ten Japanese Films of the Past 60 Years เมื่อปี ค.ศ. 1959, ดั้งเดิมมีทั้งหมดสามภาค แต่หลงเหลือถึงปัจจุบันแค่เพียงเสี้ยวภาคสอง และเต็มเรื่องภาคสาม
Tsumasaburō Bandō รับบทซามูไรหัวขบถ แม้ยึดถือมั่นในความถูกต้องชอบธรรม แต่มักโดนกลั่นแกล้ง เข้าใจผิด จนกลายเป็นอาชญากรนอกกฎหมาย จะมีใครไหนมองเห็นตัวตนแท้จริง, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
นำเสนอผ่านมุมมองเด็กชาย 8 ขวบ ยังละอ่อนวัย ไร้เดียงสา เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น พบเห็นเหตุการณ์ลับๆล่อๆ รักสามเส้าของผู้ใหญ่ ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไร แต่กลับกลายเป็นตราบาปฝังใจ, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
ภาพยนตร์ที่ถือเป็น ‘Mature Film’ เรื่องแรกของผู้กำกับ Carol Reed ออกเดินทางสู่ Belfast, Northern Ireland บันทึกภาพห้วงเวลาสุดท้ายชีวิตของ James Mason ถูกยิงระหว่างการปล้น ได้รับบาดเจ็บสาหัส อาการสะลึมสะลือ ล่องลอยไปตามท้องถนน พบเจอผู้คนดี-ร้าย ให้ความช่วยเหลือ-ผลักไสไล่ส่ง ก่อนกลายเป็นอมตะนิรันดร์