
โปรดิวเซอร์ดังเคยดูแลงานสร้างภาพยนตร์ประสบความสำเร็จมานักต่อนัก แต่เมื่อถึงคราวตกอับพยายามติดต่อผู้กำกับ-นักแสดง-นักเขียนเคยร่วมงาน ทั้งหมดต่างปฏิเสธเสียงขันแข็ง พร้อมตีแผ่เบื้องหลังความฟ่อนเฟะของระบบสตูดิโอใน Hollywood

โปรดิวเซอร์ดังเคยดูแลงานสร้างภาพยนตร์ประสบความสำเร็จมานักต่อนัก แต่เมื่อถึงคราวตกอับพยายามติดต่อผู้กำกับ-นักแสดง-นักเขียนเคยร่วมงาน ทั้งหมดต่างปฏิเสธเสียงขันแข็ง พร้อมตีแผ่เบื้องหลังความฟ่อนเฟะของระบบสตูดิโอใน Hollywood

ผู้กำกับวัยกลางคน Antonio Banderas ล้มป่วยสารพัดโรค จนหมดเรี่ยวแรงกาย-ใจ ไม่สามารถครุ่นคิดสร้างผลงานเรื่องใหม่ (อาการของ Writer’s Block หรือ Director’s Block) กระทั่งมีโอกาสรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับเพื่อนเก่า คนรักเก่า หวนระลึกความทรงจำเก่าๆ จึงก่อบังเกิดแรงบันดาลใจใหม่ๆขึ้นอีกครั้ง

เมื่อตอนอายุสิบเจ็ด ผกก. Mohsen Makhmalbaf เคยใช้มีดทิ่มแทงตำรวจนายหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส สองทศวรรษถัดมาออกติดตามหาจนพบเจอ ชักชวนมาร่วมงานภาพยนตร์เรื่องนี้ เพื่อสรรค์สร้างช่วงเวลาแห่งความบริสุทธิ์ไร้เดียงสา

จางม่านอวี้เล่นเป็นจางม่านอวี้ เดินทางสู่ฝรั่งเศสเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์สร้างใหม่ (Remake) จากเรื่อง Les Vampires (1915–1916) แต่ผลงานมาสเตอร์พีซอยู่แล้วจะสร้างใหม่ทำไม? แล้วไฉนต้องเป็นนักแสดงชาวจีน? พอผู้กำกับ (รับบทโดย Jean-Pierre Léaud) ตระหนักว่าเละแน่ๆ ก็เลยตัดต่อฟุตเทจให้กลายเป็นหนัง Avant-Garde แม้งเสียเลย!

ผลงานแจ้งเกิดระดับนานาชาติของปรมาจารย์ผู้กำกับ Krzysztof Kieślowski ตั้งคำถามจริยธรรมเกี่ยวกับการสรรค์สร้างภาพยนตร์ ระหว่างปล่อยปละละเลยถ่ายทำมันทุกสิ่งอย่าง (เชื่อในอิสรภาพทางความคิดสร้างสรรค์) หรือเราควรต้องย้อนกลับมองดูตนเอง มีอะไรถูกต้องเหมาะสมควรหรือไม่ควร ภายใต้กฎกรอบข้อบังคับทางสังคม

Wag the Dog (1997) : Barry Levinson ♥♥♡
สองโกหกผู้เกรียงไกร เป็นภาพยนตร์ Black Comedy ที่ถึงดูไร้สาระแต่มิได้เว่อวังอลังการเกินจริง เพราะยุคสมัยที่มีเพียงสื่อโทรทัศน์ครอบงำประชาชน นั่นคือจักรวาลความเชื่อของมนุษย์เลยก็ว่าได้

One Cut of the Dead (2017) : Shinichiro Ueda ♥♥♥♥♡
เมื่อซอมบี้แปรสภาพกลายเป็นสถานะคนทำงานเบื้องหลัง ใช้ขวานเป็นอาวุธเพื่อไล่ Cut! วิธีการเดียวเท่านั้นคืออย่าปล่อยให้เชือกรองเท้าหลุด (ฟิวส์ขาด) เพราะเมื่อไหร่ทุกสิ่งอย่างสำเร็จเสร็จสิ้น รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ หยาดเหงื่อ คราบน้ำตา มนต์เสน่ห์แห่งวงการภาพยนตร์ จักทำให้คุณอยากหยิบกล้อง/มือถือ ไล่ถ่ายโน่นนี่นั่นไปจนถึงวันโลกล่มสลาย

What Price Hollywood? (1932) : George Cukor ♥♥♥♡
ความเพ้อฝันอยากเป็นดาวดารา ทำให้หญิงสาวมุ่งหน้าสู่วงการมายา Hollywood แต่มีบางสิ่งที่เธอยังไม่รับรู้ นั่นคือมูลค่าราคาแห่งความสำเร็จ เตรียมตัวกายใจไว้พร้อมหรือเปล่าจักต้องสูญเสีย, นี่คือต้นฉบับ A Star is Born แม้มิได้หวานซึ้งโรแมนติกรวดร้าวเท่า แต่คุณภาพเทียบยุคสมัยนั้นถือว่าไม่ธรรมดาทีเดียว

ภาพยนตร์เรื่องแรกของ Buster Keaton ในสังกัดสตูดิโอ M-G-M ที่ไม่นานก็ค้นพบว่าคือสัญญานรก ถูกจำกัดอิสรภาพในความคิดสร้างสรรค์ แต่ถีงอย่างนั้น The Cameraman กลับยังสามารถสะท้อนช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านนี้ได้อย่างลุ่มลีกล้ำ

Kaagaz Ke Phool (1959) Bollywood : Guru Dutt ♥♥♡
หนังในกำกับเรื่องสุดท้าย ของผู้กำกับฉายา Orson Welles แห่ง bollywood, Guru Dutt กับผลงานที่ทำให้เขาล้มละลายแทบหมดตัว เหมือนเรื่องราวของหนังที่เกี่ยวกับผู้กำกับคนหนึ่ง (นำแสดงโดยตัวเขาเอง) เคยทำหนังประสบความสำเร็จ รายได้ถล่มทลาย แต่เรื่องถัดมากลับล้มเหลวสุดขีด, หนังเรื่องนี้ได้กลายเป็น Cult Classic ที่ควรค่าแก่การรับชมมาก

Ed Wood (1994) hollywood : Tim Burton ♥♥♥♥
ถ้าไม่ใช่กับคนที่หลงใหล คลั่งไคล้ใน Edward Davis Wood Jr. ก็คงไม่สามารถสร้างหนังชีวประวัติของชายผู้ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘ผู้กำกับที่ห่วยแตกที่สุดในโลก’ ได้, และนักแสดงที่รับบท ถ้าไม่กล้า บ้าบิ่นมากพอ ก็คงสวมบทบาทผู้กำกับสุดประหลาดคนนี้ไม่ได้เช่นกัน, หนังเรื่องที่สองของคู่ขา Tim Burton และ Johnny Depp ที่จะพาคุณสู่อีกมุมหนึ่งของวงการภาพยนตร์ มีดีที่สุดก็ต้องมีเลวที่สุด

จดหมายขอโทษของผู้กำกับ Jean-Luc Godard ถึงภรรยา Anna Karina (แต่นำแสดงโดย Brigitte Bardot) พยายามสำแดงความรู้สำนึกผิด วิพากย์วิจารณ์ตนเอง ทำไมถึงไม่สามารถรับรู้เข้าใจ ปล่อยละเลยจนเธอไปสานสัมพันธ์ชายอื่น แล้วทอดทิ้งให้ฉันอยู่ตัวคนเดียวอย่างขมขื่น