Anatomy of Hell (2004) : Catherine Breillat ♥♥♡
(mini Review) กายวิภาคเรือนร่างของมนุษย์ เป็นสิ่งที่ทั้งสวยงามและน่าขยะแขยง ขึ้นอยู่กับมุมมอง โลกทัศนคติ และรสนิยมส่วนบุคคล, ในชีวิตจริงคงไม่มีใครคิดทำอะไรโรคจิตวิปริตเหมือนหนังเรื่องนี้ แต่เมื่อมันถูกสร้างขึ้นมาเป็นเรื่องแต่ง ก็ชวนให้ตั้งคำถามว่า เพื่ออะไร?
Catherine Breillat (เกิดปี 1948) นักเขียน ผู้กำกับสร้างภาพยนตร์สัญชาติฝรั่งเศส เกิดที่ Bressuire, Deux-Sèvres ตอนอายุ 12 มีโอกาสรับชม Sawdust and Tinsel (1953) ของผู้กำกับ Ingmar Bergman ตัดสินใจโตขึ้นต้องการเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ เริ่มต้นจากเป็นนักเขียนนิยาย บทหนัง กำกับเรื่องแรก A Real Young Girl (1976) พบเจอความสนใจเกี่ยวกับ ‘fictional body’ เชี่ยวชาญในเรือนร่าน กามตัณหา ราคะในมุมมองเพศหญิง ความขัดแย้งต่อเพศชาย และมักใช้ภาพการกระทำที่วิปริตพิศดาร สื่อแทนสัญลักษณ์มีนัยยะความหมายบางอย่าง จนถือว่าเป็น ‘porno auteuriste’ (ศิลปินผู้สร้างสรรค์ ภาพยนตร์โป๊เปลือย)
Anatomy of Hell ดัดแปลงจากนิยาย Pornocracy (2001) เขียนโดยผู้กำกับเอง เรื่องราวของหญิงสาวนิรนาม (รับบทโดย Amira Casar) ผู้มีความโดดเดี่ยวอ้างว้างเดียวดาย คาดว่าคงผิดหวังในรักมามาก มองหาบุรุษเพศชายที่น่าสนใจในผับเกย์ กระแทกเดินชนเรียกร้องความสนใจเข้าไปในห้องน้ำ ตั้งใจกรีดข้อมือฆ่าตัวตาย แต่แล้วมีเกย์หนุ่มคนหนึ่ง (รับบทโดย Rocco Siffredi ดาราหนังโป๊สัญชาติอิตาเลี่ยน) เข้ามาช่วยชีวิตรักษาบาดแผลเยียวยาหัวใจ เธอจึงต้องการตอบแทนเขาด้วยเงินทอง และขอให้มารับชมเรือนร่างและสนทนากายวิภาคในสี่ค่ำคืนแห่งความวิปริต
เกร็ด: หนังสือ Pornocracy เท่าที่ผมหาอ่านจากคำวิจารณ์ เสียงลบมีเพียงประเด็นความโจ๋งครึ่มทางเพศ แต่เสียงบวกล้วนยกย่องสรรเสริญในความงามของภาษา ที่มีความสวยงามราวกับบทกวี นำประโยคหนึ่งที่พบเจอในหนังสือมาให้อ่าน สัมผัสคล้องจอง ความหมายลึกซึ้ง ไพเราะยิ่ง
“The teeth through those lips, those lips slightly moistened, glistening with saliva that, like the spider’s thread, can stretch as clear filament, filled with bubbles.”
ความต้องการของหญิงสาวนิรนาม คือยั่วยุชายหนุ่ม/ผู้ชม ด้วยเรือนร่างกายวิภาคอันเปลือยเปล่า ขนในที่ลับรกชัน น้ำกามหลั่งคลั่ง เลือดประจำเดือน ใช้คำพูดเชิงเสียดสีแทงใจดำ อ้างว่าคือสัจธรรมแนวคิดที่ตนได้ค้นพบเจอ เพราะบรรลุข้อเท็จจริงนี้ทำให้เกิดความอ้างว้างว่างเปล่า มิสามารถมีอารมณ์ร่วมรัก Sex Intercourse แบบธรรมดาทั่วไปได้
แต่สิ่งที่ผมรู้สึก ราวกับว่ามันคือความต้องการแก้แค้นเอาคืนของหญิงสาว เธออาจเคยมีคนรักแล้วถูกทอดทิ้งขว้าง จึงใช้เสน่ห์เล่ห์มารยาในการจับหาชายหนุ่ม/สัตว์ป่า ที่พร้อมหลงเข้ามาติดกับดัก จากนั้นลวงหลอกแล้วล่อ ปล่อยทิ้งหวนกลับคืนสู่ธรรมชาติ ซึ่งวินาทีที่บุรุษผู้นั้นกลายเป็นอิสระ แนวคิดโลกทัศน์ของเขาจะเปลี่ยนแปลงไปชั่วนิรันดร์
รสนิยมของหญิงสาว เลือกชายมีความเป็นชายน้อยที่สุด (เป็นเกย์) โน้มน้าวให้มาหา แต่เสมือนว่าติดอยู่ในกรงขัง ดูสิว่าจะยังสามารถทนต่อตัณหาราคะความต้องการ เมื่อเห็นอิสตรีเพศเปลือยเปล่านอนแหวกอ้าขารอเร้าอยู่ ก็แน่ละถ้าไม่ใช่กามตายด้าน ถูกพูดคุยยุยั่วจนเกิดอารมณ์พลุกพล่าน เมื่อถึงจุดๆหนึ่งย่อมมิอาจอดรนทนต่อไปได้ ซึ่งการร่วมรักในช่องทางปกติครั้งนั้นวันสุดท้าย สร้างรอยบาดแผลอันร้าวรึก ความขยะแขยงตราตรึง เกิดเป็นความรู้สึกเหมือนประสบการณ์ที่ฉันพบเจอมากับตนเอง แล้วหลังจากนั้นเธอก็จากไปชั่วนิรันดร์
สำหรับชายหนุ่ม เปรียบได้กับอุปกรณ์ประกอบฉาก Dildo ที่แรกๆเสมือนว่ามีความคิดอ่านเป็นของตนเอง แต่เมื่อเวลาผ่านไปถึงกับครุ่นคิดพูดจาอะไรไม่ออก ยินยอมกระทำสิ่งวิปริตพิศดารนานับประการ เพื่อสนองตัณหาราคะความสุขของตนเอง เริ่มจากลักหลับ ร่วมเพศทางทวารหนัก ใช้ด้ามเสียมค้างคาประตูหลังไว้ ฯ จนกระทั่งวันสุดท้ายเมื่อยินยอมร่วมเพศในช่องทางปกติ เลือดประจำเดือนที่ติดออกมาเจือปนกับน้ำอสุจิ นั่นทำให้เขาแทบคลั่งเสียสติ มันเกิดบ้าอะไรขึ้น!
สมัยวัยรุ่น ผมเคยเปิดบริสุทธิ์แฟนสาว ทีแรกก็ไม่แน่ใจหรอกว่าเธอยังซิงอยู่หรือเปล่า ดูเยื่อพรหมจรรย์ก็ไม่เป็น แต่หลังจากการร่วมรักครั้งนั้น เลือดที่หลั่งออกมาทำให้แทบคลั่งเช่นกัน ถึงมันจะไม่เยอะเป็นแกลอนแต่ก็เป็น Trauma ฝังใจไปสักพักใหญ่, ผมเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของพระเอกในหนังเรื่องนี้ทันที เมื่อถึงวินาทีไคลน์แม็กซ์ ความหวาดกลัวที่ไม่ใช่จากการติดโรค บาดแผล หรือตั้งครรภ์ แต่คือวิตกจริตกังวลราวกับตกนรกแทนผู้หญิง มันต้องเจ็บมากแน่ๆเลือดถึงออก ก็แค่ว่าเข็มฉีดยาเจาะเลือด/บริจาค มดกัดยังทรมานแทบตาย ร่วมเพศเลือดออก โอ้ย! เจ็บแทน แต่นั่นยังจิบๆเมื่อเทียบกับประจำเดือน หรือท้องคลอดลูก นี่เป็นสิ่งที่ผู้ชายไม่มีวันรับรู้จินตนาการเข้าใจได้
Trauma ที่ว่านี้มันทำให้ผมหมดอารมณ์ทางเพศไปหลายวันเลยนะ คงเพราะจิตใจมันไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนล่วงหน้า แต่หลังจากนั้นเมื่อค่อยๆเริ่มปรับตัวกันใหม่ มันกลายเป็นความรักยึดติดที่มากยิ่ง เพราะเธอยอมเจ็บครั้งแรกขนาดนี้เพื่อฉัน เราคงเป็นของกันและกันตลอดไป (แต่ก็ไม่เห็นเป็นเช่นนั้นเลยนะ), พฤติกรรมของพระเอกหลังจากผ่านค่ำคืนนั้น กินเหล้าเมามาย ระบายความบ้าคลั่งเสียสติแตกกับเพื่อนแปลกหน้า ฟังดูเหมือนทรมานแสนสาหัส แต่การกระทำหลังจากนั้นเดินเลียบกำแพงชายหาด ย้อนกลับไปบ้านหลังนั่น ราวกับว่าโหยหา ต้องการเธออีกเป็นแน่ (สงสัยหมอนี่คงอาจได้เลิกเป็นเกย์แล้วละ) กระนั้นหญิงสาวก็ได้จากเขาไปชั่วนิรันดร์ สร้างความช้ำร้าวระทม ชีวิตนี้คงมิอาจลืมเลือนเหตุการณ์ดังกล่าวที่บังเกิดขึ้น
ผมมองฉากตอนจบที่พระเอกผลักนางเอกตกหน้าผา เป็นเชิงสัญลักษณ์ในจินตนาการมากกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เพราะเธอทำให้เขาตกหลุมรักแล้วทอดทิ้งจากไป ชีวิตต่อจากนี้คงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวทรมานแสนสาหัส ราวกับภาพ Expression ของความคับแค้นใจ แต่เสมือนว่าคนที่ตกหน้าผาลงนรก ก็คือตัวเขาเองนะแหละ
Breillat สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้เพื่ออะไร? ตอบสนองตัณหาราคะของตนเองคงเป็นประเด็นใหญ่ และต้องการแนะนำเสี้ยมสอนชายหนุ่ม ให้เกิดความเคารพเข้าใจในวิถีของอิสตรีเพศหญิง พวกฉันไม่ใช่แค่นางแมวร่านสวาท ที่จักคอยแต่อ้าขากระแทกรับความต้องการของบุรุษเพศเพียงหน่ายเดียว ก็มีตัวตนจิตวิญญาณเหมือนกัน รับความรู้สึกเข้าใจตรงนี้ได้ ความเสมอภาคเท่าเทียมทางเพศมันถึงบังเกิด
น่าเสียดายที่ผู้ชม/นักวิจารณ์ ที่ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มักยอมรับหนังเรื่องนี้ไม่ค่อยได้เท่าไหร่ มองเป็นความร่านโรคจิตของผู้กำกับหญิง สนองตัณหาราคะของตนเองหน่ายเดียว และความวิปริตพิศดารโรคจิตทั้งหลาย บ้ามากเกินขอบเขตเกิดรับได้
แอบแปลกใจตัวเองเหมือนกันนะ ที่สามารถอดรนทนความวิปริตของหนังรับชมดูจนจบได้อย่างไร และส่วนตัวไม่เกิดอารมณ์ทางเพศสักเท่าไหร่ด้วยระหว่างรับชม ก็ไม่ใช่ตายด้านหรอกนะ แต่มีบางสิ่งอย่างที่รู้สึกเหมือนว่าเคยเจอกับตนเอง เลยสามารถมองรู้สึกต่อหนังได้อย่างเป็นกลางไม่เอนเอียง อีกอย่างคือ ผมเป็นคนให้เกียรติผู้หญิงเรื่องความเสมอภาคเท่าเทียม เงี่ยนแทบตายแต่เธอบอกไม่ได้ ก็ช่วยตัวเองไปแล้วกัน
แม้ภาพรวมผมจะไม่ได้ถึงกับประทับใจอะไรหนังเป็นพิเศษ แต่ก็แอบทึ่งในหลายๆไดเรคชั่นที่ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวศิลปินสูงมาก โดยเฉพาะภาพเชิงสัญลักษณ์เปรียบเทียบอย่าง พระคริสต์ตรึงไม้กางเขนภาพถัดไปเป็นเรือนร่างอันเปลือยเปล่าของหญิงสาว (ช็อตนี้สามารถตีความได้ทั้งสองนัยยะ คือ ความสวยงาม/สวรรค์ และอัปลักษณ์/นรก) มีความก้าวร้าว ยั่วยุ แตกหักดิบ ไม่แคร์สนใจผู้ชมแม้แต่น้อย
ขณะที่ฉาก Sex Scene ถือว่ามีความเป็นศิลปะสวยงาม เห็นอวัยวะเพศทั้งชายหญิง ทวารหนัก แต่จะไม่เห็นขณะ Intercourse สอดใส่ นี่แปลว่าจรรยาบรรณของผู้สร้างก็มีหลงเหลืออยู่บ้างนะ ไม่เชิงเป็นหนัง X ร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งถ้าคุณจะรับชมเพื่อปลุกอารมณ์ทางเพศ ผมว่าไปหา JAV หรือ Private มารับชมดีกว่านะ
หนังเรื่องนี้มักได้รับการเปรียบเทียบคู่กับ Romance (1999) ผลงานก่อนหน้าของ Breillat บ้างเรียกว่าภาคต่อ ที่นำเสนอ ‘แนวคิด’ วิธีการที่ชายหนุ่มปฏิบัติแสดงออกต่อหญิงสาว ด้วยเรื่องราวการที่ภรรยาไปร่วมรักกับชายทั่วเมืองเพราะสามีเซ็กซ์เสื่อม, ซึ่ง Anatomy of Hell ถือได้ว่าเป็น ‘มุมมอง’ ที่ผู้ชายเห็น คิดเข้าใจหญิงสาว (หรือผู้หญิง มีทัศนคติความเข้าใจอะไรต่อเพศชาย)
จัดเรต NC-17 เฉพาะกับผู้ใหญ่บรรลุนิติภาวะแล้วเท่านั้น
Leave a Reply