Battle Angel Alita (1993) : Hiroshi Fukutomi ♥♥♥♡
ท่ามกลางเศษซากกองขยะอันไร้ค่า ถูกทิ้งขว้างลงมาจากมหานครบนฟากฟ้า กลับพบเจอไซบอร์กสาว ผู้มีสติปัญญา สามารถ คิดอ่าน สมองเหมือนมนุษย์ ถือเป็นสิ่งงดงามเลิศล้ำ ‘เพชรในตม’ มูลค่ามากมายมหาศาล ยิ่งกว่าความเพ้อฝันทะเยอทะยานใดๆเสียอีก
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มักมากด้วยกิเลส ชื่นชอบการเพ้อฝัน ทะเยอทะยานใฝ่สูง อยากประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียง ร่ำรวยเงินทอง คาดหวังความเป็นอยู่สุขสบาย ด้วยเหตุนี้จึงมักจับจ้องมองไปข้างหน้า หรือเงยขึ้นท้องฟากฟ้า ถ้ามีบางสิ่งอย่างคือเป้าหมาย ก็จักพยายามขวนขวายไขว่คว้า กระทำทุกสิ่งอย่างเพื่อให้ได้ครอบครองเจ้าของ ปีนป่ายไปถึงสรวงสวรรค์
เหล่านี้คือโลกทัศนคติของชาวตะวันตก ระบบทุนนิยม และสหรัฐอเมริกา หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง พยายามแพร่ขยายอิทธิพลแนวคิดสู่ชาติตะวันออก โดยประเทศแรกถูกครอบงำรับอิทธิพลมาเต็มๆ คือญี่ปุ่นผู้พ่ายสงคราม แค่ระยะเวลาเพียงทศวรรษกว่าๆก็ได้ปรับเปลี่ยนแปรจนแทบจดจำไม่ได้ ความเจริญทางวัตถุพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ขณะที่จิตใจคนกลับเชื่องช้าตามไม่ทัน เป็นเหตุให้ค่อยๆตกต่ำทรามลงไป
ชาวญี่ปุ่นที่ถือกำเนิดเติบโตขึ้นในช่วงทศวรรษ 50s-60s เมื่อพบเห็นความเจริญทางวัตถุที่ก้าวรุดหน้า แต่จิตใจผู้คนกลับสวนทางตกต่ำลงเรื่อยๆ เป็นเหตุให้พวกเขาจินตนาการถือโลกอนาคตล่มสลาย ‘Dystopia’ เมื่อเติบโตขึ้นกลายเป็นศิลปินในช่วงทศวรรษ 70s-80s มักถ่ายทอดผลงานออกมาในลักษณะ Post-Apocalyptic สะท้อนความหวาดกลัว หมดอาลัย สิ้นหวัง ใช้ชีวิตไปวันๆ แค่เอาตัวรอด ยังมีชีวิตอยู่ก็เป็นบุญโข
ด้วยเหตุนี้พระ-นางเอก จึงต้องเป็นตัวละครที่แบก ‘ความหวัง’ ประกายแสงสว่าง ต่อสู้เพื่อมวลมนุษย์ชาติ เอาชนะสิ่งชั่วร้ายด้วยคุณธรรมดีงาม ไม่ยอมพ่ายแพ้แม้หมดสิ้นทุกสิ่งอย่าง
Battle Angel Alita คือเรื่องราวการต่อสู้เพื่อค้นหาจุดกำเนิดเริ่มต้น ความทรงจำที่สูญหายไปของไซบอร์กสาว ฉันกลายมาเป็นแบบนี้ได้อย่างไร เพราะอะไร ทำไม? โดยมีมหานครลอยฟ้า Tiphares/Zalem เป้าหมายปลายทาง ที่คงสามารถไขปริศนาได้ทุกสิ่งอย่าง
เนื่องจากผมไม่เคยอ่านมังงะ มีโอกาสเพียงรับชม OVA (Original Video Animation) ซึ่งมีเพียงสองตอน สร้างความหิวโหยหา ไม่เต็มอิ่ม อยากดูอีก! ทั้งๆที่ถ้าได้รับการส่งเสริม อนิเมะเรื่องนี้น่าจะสามารถเป็นแฟนไชร์ระดับ Ghost in the Shell แต่กลับสิ้นสุดอยู่แค่ตรงนั้น ซึ่งคงต้องโบ้ยความผิดให้ผู้แต่ง Yukito Kishiro ในช่วงแรกๆค่อนข้างหึงหวงผลงานทีเดียว
Yukito Kishiro (เกิดปี 1967) เกิดที่ Tokyo เติบโตขึ้นที่ Chiba วัยเด็กชื่นชอบอนิเมะเกี่ยวกับหุ่นยนต์ อาทิ Votoms, Mobile Suit Gundam หลงใหลการออกแบบของ Yoshikazu Yasuhiko, และนักวาดการ์ตูนชื่อดัง Rumiko Takahashi (Ranma 1/2, Inuyasha) เมื่ออายุ 17 เขียน One-Shot เรื่อง KIKAI คว้ารางวัล Newcomer Manga Artists จึงมีโอกาสตีพิมพ์เรื่องยาวลงในนิตยสาร Weekly Shonen Sunday ผลงานแรกคือ Space Oddity (1984) [คงได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงชื่อเดียวกันนี้ของ David Bowie แน่ๆ]
สำหรับ Gunnm (แปลว่า Gun Dream) หรือ Battle Angel Alita เริ่มตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Business Jump เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 1990 แม้เสียงตอบรับจะค่อนข้างดี แต่ยอดขายสวนทาง เป็นเหตุให้ถูกเร่งตัดจบวันที่ 1 เมษายน 1995 รวมทั้งสิ้น 9 เล่ม
เรื่องราวของ Alita/Gally ไซบอร์กหญิง ได้รับการพบเจอโดย Daisuke Ido นัก Cyberphysician ระดับอัจฉริยะ เคยอาศัยอยู่ Tiphares/Zalem ปัจจุบันทอดทิ้งทุกสิ่งอย่าง ย้ายมาอาศัยอยู่ท่ามกลางเศษซากกองขยะ Scrap Iron City กลางวันทำงานเป็นแพทย์อาสา/ซ่อมหุ่นยนต์ กลางคืนทำงาน Hunter-Warrior ไล่ล่าค่าหัวโรบ็อตนอกกฎหมาย, เมื่อทำการซ่อมแซม Alita/Gally เสร็จสิ้น พบว่าความทรงจำของเธอสูญหายไปส่วนใหญ่ ถึงกระนั้นร่างกายกลับมีปฏิกิริยาเคลื่อนไหวเหมือน Panzer Kunst นักต่อสู้ป้องกันตัว Martial Arts ระดับตำนานจากดาวอังคาร นั่นทำให้ไซบอร์กสาวตัดสินใจทำงานเป็น Hunter-Warrior ค่อยๆเรียนรู้จักวิถีชีวิต สิ่งต่างๆรอบข้างตนเอง เผื่อว่าสักวันหนึ่งจะได้ค้นพบเจออดีต ต้นกำเนิดของตนเอง
การที่ Gunnm ถูกสั่งตัดจบ นั่นสร้างความรวดร้าวฉานให้กับ Kishiro เป็นอย่างยิ่ง โชคยังดีที่ช่วงทศวรรษนั้นการมาถึงของอินเตอร์เน็ต ได้รับอีเมล์จากแฟนๆส่งมาให้กำลังใจ ทั้งยังสามารถขายลิขสิทธิ์ต่างประเทศ ช่วยเหลือจุนเจือรายได้ ทำให้พลังการทำงานหวนกลับมาอีกครั้ง ตัดสินใจสร้างจักรวาลขึ้นมา
– ภาคแยก Ashen Victor (1995–1996)
– ภาคต่อ Battle Angel Alita: Last Order (2000 – 2014)
– ภาคก่อนหน้า Battle Angel Alita: Mars Chronicle (2014 – ปัจจุบัน)
ประมาณปี 1992, Kishiro ได้รับการติดต่อจากสตูดิโอ Madhouse ต้องการดัดแปลงสร้างอนิเมชั่น OVA ความยาวสองตอน แต่เพราะความยุ่งๆวุ่นวายกับการเขียนมังงะ ทำให้ตอบตกลงแบบส่งๆ ไม่ได้ใคร่สนใจอย่างจริงจัง
“It was based on the plan proposed by the animation production company. It might have been better to turn down the plan and wait for a better adaptation proposal to come up, but back then, I couldn’t afford to review the plan coolly. At that time, I was still serializing the work and was so busy that I wasn’t ambitious to make it into animation”.
– คำแปลบทสัมภาษณ์ของ Yukito Kishiro ต่อเหตุผลทำไม OVA ของ Gunnm ถึงมีเพียงสองตอน
ตอนนั้นมังงะเพิ่งตีพิมพ์ไปได้ไม่กี่ตอน อนิเมะจึงเลือกมาเพียงสองเล่มแรกมาสร้างเป็นสองตอน
– Rusty Angel, เรื่องราวของการพบเจอ Alita/Gally แนะนำอาชีพ Hunter-Warrior และต่อสู้ศึกแรกกับ Grewcica
– Tears Sign, เด็กชายหนุ่ม Yugo ผู้มีความเพ้อใฝ่ฝัน กำลังเก็บสะสมเงินเพื่อออกเดินทางสู่ Tiphares/Zalem ทำงานเป็นลูกน้องของ Vector เจ้าของโรบอตต่อสู้ Coliseum สนแต่เพียงเงินๆทองๆ ชื่นชอบการขายฝัน แต่แท้จริงแล้ว…
ผมคงไม่เขียนถึงรายละเอียดแตกต่างระหว่างมังงะกับอนิเมะ เพราะมีปริมาณค่อนข้างเยอะทีเดียว เลยจะขอกล่าวถึงเนื้อหาและข้อสรุปแค่ OVA สองตอนนี้เท่านั้น
ในแง่โปรดักชั่น อนิเมะเรื่องนี้ถือว่าดูเก่า ตกยุค ล้าสมัยไปพอสมควร แต่ลายเส้นก็ถือว่าละเอียดพอสมควร เมื่อเทียบกับยุคสมัยนั้นนะ คาดว่างบประมาณคงไม่เยอะเท่าไหร่ เอาไปทุ่มให้ฉากต่อสู้เสียส่วนใหญ่ ที่เหลือเลยใช้เทคนิคภาษาภาพยนตร์ Panning, Zooming และละเลงด้วยสีแทนอารมณ์
มีซีนเล็กๆตอน Tears Sign เมื่อ Alita/Gally พบเห็นข่าวลงประกาศค่าหัว Yugo ด้วยความตื่นตระหนกตกใจออกวิ่ง แล้วอยู่ดีๆกล้องหมุนเอียง กลายเป็น Dutch Angle, นี่คือภาษาภาพยนตร์ที่สะท้อนถึงห้วงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร มีความบิดเบี้ยว ผิดแผกแปลกจากความคาดหวัง เพ้อฝัน ตั้งใจไว้
จริงๆยังมีอีกครั้งหนึ่งของ Dutch Angle เมื่อ Ido รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นกับ Chiren (คาดว่าน่าจะคืออดีตคนรัก/แฟน) สร้างความตื่นตระหนกตกใจหายวาบ สถานที่แห่งนี้ว่าขยะแล้วนะ แต่มนุษย์บางคนนี่เศษเดนจริงๆ
การเสียชีวิตของ…
– Rasha หัวขโมยที่ถูกเด็ดหัว หมดสิ้นความทะเยอทะยาน
– Grewcica เป็นหุ่นที่ไม่รู้ความเพียงพอดีในตนเอง หลังจากถูก Alita/Gally ตัดแขนไปข้างหนึ่ง ตกลงจากที่สูงรอดตาย กลับหวนมาแก้แค้นด้วยอาวุธใหม่ มือที่สามารถยืดยาวโอบล้อมรัด รอบนี้ไซบอร์กสาวเลยวางกับดักถือให้โอกาสสอง ถ้ายังคงดื้อรันไม่ยอมแพ้ก็จักระเบิดออก และร่างกายถูกผ่าออกเป็นสองซีก ไม่สามารถประติดประต่อซ่อมแซมได้อีกต่อไป
– Gime นักล่า Hunter-Warrior เป็นจอมฉกฉวย พบเห็นมักหลบซ่อนตัว จับจ้องมอง แสวงหาโอกาสเหมาะค่อยโผล่ออกมา ในจังหวะที่ Yugo มีค่าหัว และ Alita/Gally อยู่ตัวคนเดียว ใช้ดาบยาวเป็นอาวุธ แต่ถูกโต้ตอบด้วยท่าจับดาบสองมือ ช็อตกระแสไฟฟ้า และถูกสายฟ้าฟาดโดยไม่ทันรู้ตั้งตัว
– Vector เจ้าของโรบ็อตต่อสู้ Coliseum ถือเป็นคนเห็นแก่ตัว สนเพียงเงินๆทองๆ ผลกรรมคือโดนลูกหลงจากหุ่นที่ตนสร้าง ย้อนแย้งเข้าตนเอง ‘หมองูตายเพราะงู’
– Chiren เพ้อใฝ่ฝันอยากหวนกลับสู่สรวงสวรรค์ ยินยอมเสียสละทำทุกสิ่งอย่าง ซึ่งถ้าไม่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น เธอก็ย่อมได้หวนกลับคืน Tiphares/Zalem อย่างแน่แท้ (แต่ในสภาพแยกชิ้นเป็นส่วนๆ)
– Yugo หลังจากกลายเป็นหุ่นยนต์ พยายามปีนป่ายขึ้นสู่ Tiphares/Zalem ครั้งหนึ่งกระโดดไม่พ้นห่วงนิรภัย เป็นเหตุให้สูญเสียขาสองข้างจนไม่สามารถก้าวเดินต่อแต่ก็ยังตะเกียกตะกาย กระทั่งว่าห่วงถัดมาได้รับการช่วยเหลือจาก Alita/Gally แต่สุดท้ายก็ปลดปล่อยตนเองตกจากที่สูง หมดสิ้นความทะเยอทะยาน ไม่สามารถเอื้อมมือไขว่คว้า
เพลงประกอบโดย Kaoru Wada (Ninja Scroll, InuYasha, D.Gray-man) เลือกใช้เครื่องดนตรีไฟฟ้า/สังเคราะห์ เพื่อสร้างสัมผัสล้ำอนาคต Futuristic ถึงกระนั้นกลับเต็มไปด้วยความโหยหวน ล่องลอย และเสียงฟลุตสะท้อนความรวดร้าวทุกข์ทรมานใจ เพราะมิอาจเติมเต็มความฝันหวานได้สำเร็จลุล่วง
บทเพลง Ending Credit มีความไพเราะมากๆ Cyborg Mermaid ขับร้องโดย Kaori Akima
เท่าที่ผมค้นพบข้อมูลสถานที่ตั้ง Scrap Iron City, Tiphares/Zalem คืออดีตสหรัฐอเมริกา บริเวณใกล้ๆ Kansas City, Missouri นี่คงเป็นการสะท้อนมุมมอง แสดงทัศนะของผู้แต่งมังงะ Yukito Kishiro จุดเริ่มต้น/ศูนย์กลางแห่งอารยธรรมล่มสลาย ย่อมต้องเกิดจากประเทศมหาอำนาจนี้ ที่คือผู้ตั้งต้นริเริ่มระบบทุนนิยม/วัตถุนิยม เมื่อไต่เต้าขึ้นถึงจุดสูงสุดก็ต้องเคลื่อนคล้อยลงตกต่ำ เวียนวนไม่ต่างอะไรจากวัฏจักรแห่งชีวิต
นอกจากนี้เราสามารถมองสถานะของญี่ปุ่นขณะนั้น (ในมุมมองของผู้แต่งมังงะ Yukito Kishiro) ด้วยนัยยะเชิงสัญลักษณ์ ว่ากำลังจมปลักอยู่ใน Scrap Iron City ถูกประเทศมหาอำนาจ/สหรัฐอเมริกา อาศัยอยู่เบื้องบนสูงกว่า Tiphares/Zalem นำเศษซาก ‘ขยะ’ มาทอดโยนทิ้งไว้ กลายเป็นเมืองเต็มไปด้วยผู้ร้าย อาชญากร ไร้ซึ่งความปลอดภัย สุขสบาย ด้วยเหตุนี้ผู้คนมากมายต่างเงยหน้าขึ้นมองฟากฟ้า เพ้อใฝ่ฝันต้องการออกเดินทางมุ่งสู่ คาดหวังชีวิตคงจะดีเยี่ยมกว่านี้ ถ้าได้ปักหลักอาศัยอยู่บนนั้น
ความเพ้อใฝ่ฝันทะเยอทะยาน เป็นสิ่งที่ต้องใช้บางสิ่งอย่างมูลค่าเท่าเทียมสำหรับการแลกเปลี่ยน บางคนต่อให้มุ่งมั่นตั้งใจทำงานทั้งชีวิต ก็มิอาจประสบพบความสำเร็จเติมเต็มเป้าหมาย บางคนโชคชะตาเข้าข้างไม่ต้องทำอะไรมากก็บรรลุสมประสงค์ และอีกเช่นกันคือขายฝัน ราวกับถูกหวย แต่แท้จริงแล้วอาจจะโคตรซวย นี่ล้วนเกิดจากความไม่รู้จักเพียงพอ สุขใจกับสิ่งที่มี
ไม่ว่าเราจะเกิดที่ไหน มีชีวิตเช่นไร ท่ามกลางเศษขยะ สกปรกโสมม มีชีวิตตกต่ำต้อยหาความเจริญหูเจริญตามิได้ แต่ถึงกระนั้นก็สามารถค้นพบเจอเพชรเม็ดงามล้ำค่า ‘ความสุขแท้จริงอยู่ภายในจิตใจเราเอง’ ไม่ต้องมองไกลสายตายยาวเพื่อค้นหา ครุ่นคิดด้วยสติปัญญา สักวันหนึ่งก็น่าจะเห็นเองได้ ใกล้ตัวจะตาย!
โศกนาฎกรรมมักเกิดขึ้นในขณะที่ ใครบางคนครุ่นคิดตระหนักขึ้นมาได้ ค้นพบแล้วว่าความสุขแท้จริงนั้นใกล้แค่เอื้อมไม่ต้องโหยหาไหนไกล แต่ทุกอย่างกลับสายเกินแก้ไข ไม่สามารถหวนย้อนเวลาคืนกลับไป การพลัดพรากแยกจากและความตาย จึงคือสิ่งน่าเศร้าสลดเสียใจ บทเรียนสอนให้ผู้ชมทบทวนใช้สติปัญญา อย่าให้ชีวิตจริงโชคร้ายเหมือนในละคร
ตั้งแต่ปี 1994 ที่ Kishiro เริ่มได้รับการติดต่อขอลิขสิทธิ์ดัดแปลงสร้างภาพยนตร์ ซึ่งก็มีหลายสตูดิโอยื่นแผนการข้อเสนอที่น่าสนใจ จนกระทั่งปี 1998 ผู้กำกับ James Cameron และ 20th Century Fox ถึงได้ตอบตกลง (เห็นว่าเพราะผู้เขียนเป็นแฟนตัวยงของ Terminator, Alien 2)
ว่าไปก็สองทศวรรษทีเดียวกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นรูปเป็นร่างสร้างสำเร็จ Alita: Battle Angel (2019) แต่ Cameron ก็ยุ่งมากจนเป็นได้เพียงโปรดิวเซอร์ ขณะที่ผู้กำกับคือ Robert Rodriguez น่าสนใจทีเดียวว่าผลลัพท์จะออกมาอย่างไร
จริงๆผมบอกไม่ได้เลยนะว่า เป้าหมายสุดท้ายของ GunNM จะไปสิ้นสุดจบลงที่ตรงไหน ก็ได้แค่วิพากย์วิจารณ์จากการรับชมเศษเสี้ยวส่วนหนึ่งของเรื่องราว และแนวโน้มเป็นไปได้ ซึ่งต้องบอกเลยว่า ‘น่าสนใจ’ อย่างมากยิ่งเลยทีเดียว
จัดเรต 18+ กับความรุนแรง เลือด ตับไตไส้พุง
Leave a Reply