Elevator to the Gallows

Elevator to the Gallows (1958) French : Louis Malle ♥♥♥♥

ชายผู้โชคร้ายคนหนึ่ง ถูกขโมยรถ ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร ทั้งๆตัวเองติดอยู่ในลิฟท์ขณะไฟดับ แต่ข้อแก้ต่างนี้ฟังขึ้นที่ไหน!, หนังนัวร์ขาว-ดำ เรื่องแจ้งเกิดให้ผู้กำกับ Louis Malle และ Jeanne Moreau แถมด้วยบทเพลง Jazz ค้างฟ้าของ Miles Davis

ถึงนี่จะเป็นภาพยนตร์ Feature Length (ที่ไม่ใช่สารคดี) เรื่องแรกของผู้กำกับ Louis Malle สร้างขึ้นในยุคเริ่มต้นของ French New Wave แต่ทั้งตัวผู้กำกับและหนังเรื่องนี้ไม่จัดเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนะครับ, ด้วยเหตุผลว่า Malle ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นนักวิจารณ์ Cahiers du cinéma และความที่บ้านรวย เลยไม่ต้องทำหนังแบบพอมีพอกิน ตามมีตามเกิด ใช้ลวดลีลามากมายตระการตา กระนั้นหนังของ Malle ถือว่าทรงอิทธิพล ยิ่งใหญ่ ร่วมสมัย และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้สร้างหนังรุ่นใหม่ รวมทั้ง French New Wave อีกด้วย

Louis Marie Malle (1932 – 1995) ผู้กำกับสร้างภาพยนตร์สัญชาติฝรั่งเศส เกิดที่ Thumeries, Nord ในครอบครัวฐานะร่ำรวย, ตอนหนุ่มมีความสนใจเรียนสังคมศาสตร์ (Political Science) แล้วเปลี่ยนมาเรียนสาขาภาพยนตร์ที่ IDHEC แทน

เรียนจบได้งานเป็นตากล้องและผู้ช่วย Jacques Cousteau สร้างสารคดีเรื่อง The Silent World (1956) คว้ารางวัล Palme d’Or จากเทศกาลหนังเมือง Cannes และ Oscar: Best Foreign Language Film แม้เจ้าตัวจะมอบเครดิตให้กับ Cousteau ทั้งหมด แต่ในฐานะผู้สร้างภาพยนตร์หน้าใหม่ ต้องถือว่าน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง

หลังจากนั้นได้ฝึกงาน เป็นผู้ช่วย Robert Bresson สร้างหนังเรื่อง A Man Escape (1956) ซึ่งก็ได้นำอิทธิพลแรงบันดาลใจส่วนหนึ่งมาใช้สร้างภาพยนตร์เรื่องแจ้งเกิดให้กับตัวเอง

ผลงานเด่นๆของ Malle อาทิ The Lovers (1958), Le Feu follet (1963), Lacombe, Lucien (1974), Atlantic City (1981), Goodbye, Children (1987) ฯ

Ascenseur pour l’échafaud ดัดแปลงจากนิยายเรื่อง Elevator (1956) ของ Noël Calef นักเขียนสัญชาติ Bulgarian-French เป็นบทภาพยนตร์โดย Louis Malle กับ Roger Nimier

เรื่องราวของ Florence Carala (รับบทโดย Jeanne Moreau) ภรรยาของพ่อค้าอาวุธ Simon Carala (รับบทโดย Jean Wall) ลักลอบมีชู้กับผู้ช่วยมือขวา Julien Tavernier (รับบทโดย Maurice Ronet) อดีตนักกระโดดร่มชูชีพ ทหารผ่านศึก Indochina, Algeria Wars พวกเขารักกันมากจนวางแผนลอบสังหารสามี แต่เพราะความสะเพร่าทำให้ตัวเขาติดอยู่ในลิฟท์ไม่สามารถหนีออกได้

ขณะเดียวกันรถของ Julien ที่บังเอิญสตาร์ทติดไว้ ถูกชายหนุ่ม Louis (รับบทโดย Georges Poujouly) และหญิงสาวขายดอกไม้ Véronique (รับบทโดย Yori Bertin) แอบขึ้นรถแล้วขับขโมยหนีหาย ก่อนไปก่อเรื่องฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาว German ที่ Motel แห่งหนึ่งนอกเมือง, เช้าวันถัดมา เมื่อ Julien สามารถออกจากลิฟท์ได้แล้ว ก็ถูกหมายหัวจับกุมจากคดีที่ตนไม่ได้ก่อ แต่อาจถือว่าเป็นกรรมตามทันเพราะกระทำความผิดอีกคดีหนึ่ง

Jeanne Moreau (1928 – 2017) นักแสดงหญิงสัญชาติฝรั่งเศส เกิดที่ Paris เติบโตขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2, ตอนอายุ 16 เกิดความสนใจด้านการแสดง เข้าเรียนร้องเล่นเต้นที่ Conservatoire de Paris จากนั้นเป็นนักแสดงละครเวที แจ้งเกิดกับภาพยนตร์เรื่อง Elevator to the Gallows (1958) ของผู้กำกับ Louis Malle โด่งดังที่สุดคงเป็น Jules et Jim (1962) ของผู้กำกับ François Truffaut

รับบท Florence Carala ภรรยาสาวที่มีความเบื่อหน่ายในสามี ตกหลุมรักคลั่งไคล้กับชู้หนุ่ม ขอให้เขาลอบสังหาร (Perfect Crime) เพื่อทั้งคู่จะได้ไม่มีก้างขวางคอ แต่ไม่มีการกระทำชั่วร้ายใดในโลกจะสำเร็จผลโดยไม่มีปัญหา การเงียบหายไปของคนรัก ทำให้เธอกระวนกระวายใจ นั่งนิ่งทนรออยู่ไม่ได้ ต้องออกเดินๆๆ ทรมานตัวเองไม่มีจบสิ้น จนกว่าได้รู้ความจริงจะไม่มีวันหยุดพักผ่อน

การแสดงของ Monreau เห็นแล้วทุกข์ทรมานสิ้นดี เพราะการเดินๆๆ แบบไม่มีหยุดหย่อนพัก แสดงถึงความคิดจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ล่องลอยไร้แก่นสารเป้าหมาย ราวกับชีวิตถึงคราจบสิ้น ไม่รู้จะทำอะไรยังไงต่อไป ผิดหวังในรัก ผิดหวังในตัวเอง, นี่เป็นบทที่ยาก แต่ Monreau ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาจากภายในได้อย่างลึกล้ำ

เกร็ด: เหมือนว่าเพราะบทบาทการแสดงนี้ ผู้กำกับ Michelangelo Antonioni จึงเลือก Monreau ให้มาแสดงในหนังเรื่อง La Notte (1961) ที่ก็มีแต่เดินๆๆ เช่นกัน

Malle เลือก Monreau หลังจากเห็นการแสดงของเธอในละครเวที Cat on a Hot Tin Roof ทั้งคู่ได้ร่วมงานกันอีกหลายครั้ง อาทิ The Lovers (1958), The Fire Within (1963), Viva Maria! (1965) ฯ หลายคนคงคาดเดาได้ว่าทั้งสองเป็นคู่รักกันด้วย แต่เพราะ Monreau มี Truffaut ที่ตกหลุมรักพร้อมๆกัน เหตุการณ์จึงเป็นรักสามเส้าแบบ Jules et Jim (1962) ไม่ผิดเพี้ยน

Maurice Ronet (1927 – 1983) นักแสดง ผู้สร้างภาพยนตร์สัญชาติฝรั่งเศส เกิดที่ Nice, Alpes Maritimes พ่อแม่เป็นนักแสดงละครเวที ทำให้ตอนอายุ 14 ขึ้นเวทีร่วมกับครอบครัวเป็นครั้งแรก โตขึ้นเข้าเรียนการแสดงที่ Centre du Spectacle de la Rue-Blanche ตามด้วย Paris Conservatoire มี Jean-Louis Barrault เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ผลงานการแสดงเรื่องแรก Rendez-vous de juillet (1949) ของผู้กำกับ Jacques Becker เห็นว่าบทบาทนี้เขียนขึ้นเพื่อ Ronet โดยเฉพาะ

ผลงานเด่น อาทิ The Talented Mr. Ripley (1960), Purple Noon (1960), Le feu follet (1963), Le scandale (1966), La femme infidèle (1968)

รับบท Julien Tavernier ชู้รักของ Florence ที่ยินยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอ แต่เพราะความซวยหรือกรรมตามทัน ทำให้เขาติดอยู่กึ่งกลางระหว่างลิฟท์ขณะไฟดับ ไม่สามารถหาทางแทรกตัวออกไปได้ ซึ่งระหว่างนั้นชื่อของเขาก็ถูกนำไปใช้ กลายเป็นฆาตกรโดยไม่รู้ตัว

สีหน้าของ Ronet มีความเคร่งเครียดจริงจัง คงเพราะความร้อนรนจากการลงมือฆาตกรรม ทำให้เกิดความประมาทเลินเล่อ หลงลืมโน่นนี่นั่นจนเกิดความผิดพลาดรุนแรง,

Georges Poujouly (1940 – 2000) นักแสดงสัญชาติฝรั่งเศส จากเด็กน้อยที่มีชื่อเสียงจาก Forbidden Games (1952), Les Diaboliques (1955), And God Created Woman (1956) กับหนังเรื่องนี้อายุ 18 เติบโตเป็นหนุ่มหล่อเร้าใจทีเดียว

รับบท Louis เด็กหนุ่มที่เติบโตขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อึดอัด เบื่อหน่ายต่อโลกสังคมและชีวิต นี่เป็นสภาพทางจิตใจที่พบเจอได้บ่อยๆ คล้ายๆตัวละครของ James Dean เรื่อง Rebel Without a Cause (1955) ต้องการค้นหาความเป็นตัวของตนเอง แต่เมื่อไม่พบก็แสดงความก้าวร้าว โมโหโทโส ต่อทุกสิ่งรอบข้าง

ทั้งตัวละคร Louis และ Poujouly ต่างเป็นคนที่น่าเห็นอกเห็นใจ ชีวิตเติบโตขึ้นหลังสงครามโลก พบเจอยุคสมัยโรคระบาด Great Depression กับคนที่สามารถดิ้นรน ปรับเอาตัวรอดได้กับสังคมแบบนี้มีน้อยนัก, Poujouly พอพ้นวัย 20 ก็ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับการแสดงยุคสมัยใหม่ได้ ผันตัวไปเป็นนักแสดงละครโทรทัศน์ ให้เสียงอนิเมชั่น หายหน้าหายตาจากวงการไปเลย

Yori Bertin (เกิดปี 1940) นักแสดงหญิงสัญชาติฝรั่งเศส เกิดที่ Bidart, Pyrénées-Atlantiques ในครอบครัวศิลปินนักออกแบบ, ปู่ทวดเป็นสถาปนิกผู้ออกแบบ Opéra de Paris พ่อเป็นนักออกแบบภายใน แม่เขียนบทความลงนิตยสารออกแบบ ฯ, ตั้งแต่เด็กสนใจการเต้น แต่ก็เปลี่ยนมาเป็นการแสดง เริ่มต้นจากละครเวที ภาพยนตร์เรื่องแรก Les Amants de Montparnasse (1958) เป็นชีวประวัติปีสุดท้ายของจิตรกร Amedeo Modigliani

รับบท Véronique แฟนสาวของ Louis รักมากจนให้อภัยทุกอย่าง แม้ตอนแรกจะไม่เต็มใจกับการกระทำขโมยรถของเขา แต่เธอเป็นตัวตั้งตัวตีในการปลอมชื่อเป็น Julien Tavernier

ขณะที่ Louis ผ่านช่วงเวลา Great Depression อย่างยากลำบาก Véronique กลับโลกสวยไร้เดียงสา ยิ้มแย้มแจ่มใส การมีตัวตนของเธอทำให้หนังมีชีวิตชีวา สดชื่นร่าเริง ไม่เคร่งเครียดเกินไป น่าเสียดาย Yori Bertin อยู่ในวงการไม่นาน ย้ายไปอยู่อเมริกา แต่งงาน และทำงานเป็นนักออกแบบตามรอยครอบครัวของเธอ

ถ่ายภาพโดย Henri Decaë ตากล้องยอดฝีมือสัญชาติฝรั่งเศส ขาประจำของ Jean-Pierre Melville, Louis Malle, Claude Chabrol มีผลงานเด่นอย่าง The 400 Blows (1959), Les Sept péchés capitaux (1962), La Ronde (1964), Le Samouraï (1967) ฯ

สไตล์งานภาพของหนังเรื่องนี้ Malle ได้อิทธิพลพอสมควรจากหนังของ Robert Bresson ทั้งการเคลื่อนไหว ทิศทาง มุมกล้อง Close-Up เรียกว่าเก็บรายละเอียดเล็กๆของการเคลื่อนไหวอย่างครบถ้วน,

ฉากแรกของหนัง Close-Up ใบหน้าของสองตัวละครหลัก Julien และ Florence ตัดสลับไปมาพร้อมกับ Opening Credit นี่เปรียบได้กับการประจันหน้าซึ่งกันและกัน ยืนยันความรู้สึก และสิ่งที่พวกเขากำลังจะทำต่อไป

ไฮไลท์งานภาพคือแสงไฟจากร้านค้า ที่ฉายอาบใบหน้าของ Julien ขณะเดินล่องลอยอย่างไร้แก่นสานไปตามท้องถนน กล้องเคลื่อนติดตาม (Tracking Shot) นี่ชวนให้ผมระลึกถึงหนังเรื่อง The Lost Weekend (1946) แต่นั่นตัวละครล่องลอยเพราะขาดสุรา ส่วนเรื่องนี้ล่องลอยเพราะขาดความรัก

ตัดต่อโดย Léonide Azar หนังมี 3 เรื่องราวเล่าคู่ขนาน แต่พวกเขาจะแค่พบเจอผ่านตา แทบไม่ได้พูดคุยสื่อสารกันเท่าไหร่ (Julien กับ Florence ไม่ได้พบเจอหน้ากันเลยด้วยซ้ำ)
– เรื่องราวของ Julien เสียเวลาส่วนใหญ่ติดอยู่ในลิฟท์
– เรื่องราวของ Florence เสียเวลาส่วนใหญ่กับการเดินไร้จุดหมาย
– เรื่องราวของคู่รักหนุ่มสาว Louis กับ Véronique ขับรถเล่นอย่างไร้จุดหมาย, พอได้เข้าพัก Motel ก็ได้สนทนาเรื่อยเปื่อย, กระทำการอันไร้สาระ, และช่วงท้ายมองว่าชีวิตไร้ค่าจึง…

โดดเด่นมากๆเรื่องความต่อเนื่อง ส่งไม้ต่อ Julien เดินลงมาสตาร์ทรถ คู่รักหนุ่มสาว Louis กับ Véronique กำลังจีบกันอยู่เบื้องหลัง เมื่อ Julien รีบร้อนย้อนกลับไป Louis กระโดดขึ้นรถ ขับขโมยนี้ ผ่านหน้า Véronique ที่นั่งรออยู่, ดูเป็นความสัมพันธ์ที่ยุ่งเยิง ขณะเดียวกันก็สามารถเรียงร้อยลำดับสานต่อได้อย่างลงตัว

เพลงประกอบ ทรัมเป็ต/Jazz เพราะๆของ Miles Davis (1926 – 1991) นักดนตรีผิวสีสัญชาติอเมริกัน ที่จะทำให้คุณโหยหวน ล่องลอย อ้างว้าง ซึมเศร้า ทุกข์ทรมาน อาจถึงขั้นน้ำตาเล็ดไหล ความไพเราะตราตรึงของบทเพลง ถือว่าระดับ Groundbreaking เลยละ

เรื่องราวของหนังเกิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัวละครทั้งหลายต่างสะท้อนผลกระทบที่เกิดขึ้น
– Simon Carala สามีของ Florence เป็นนายหน้าค้าอาวุธ เขาจะทำธุรกิจได้เช่นไรถ้าโลกไม่มีสงคราม
– Julien Tavernier นักกระโดดร่มแห่งโชคชะตา เสี่ยงดวงต้องการหนีออกจากธุรกิจ(สงคราม)นี้ แต่กลับติดอยู่กึ่งกลางลิฟท์ ไม่สามารถหาทางหนีออกไปได้
– การเดินของ Florence ล่องลอยโหยหาสิ่งยึดเหนี่ยว อาจแทนได้ด้วย จิตวิญญาณของผู้คนหลังสงครามโลก ที่เคว้งคว้าง เรื่อยเปื่อย ไร้เป้าหมาย
– เด็กชายหนุ่ม Louis ที่เติบโตขึ้นช่วงหลังสงครามโลก แต่กลับได้รับผลกระทบจาก Great Depression รู้สึกชีวิตไร้ค่า ต้องการกระทำบางสิ่งอย่าง เพื่อค้นหาเป้าหมายของตนเอง
– นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน ทั้งๆที่สงครามก็จบสิ้นไปสักพักใหญ่แล้ว แต่ยังคงถูกมองเป็นผู้ร้าย

สิ่งของสัญลักษณ์อย่าง รถที่ขโมย, เสื้อโค้ท, อาวุธปืน, บทเพลง Jazz ฯ สังเกตว่าล้วนเป็นของชาติอเมริกัน ซึ่งเราสามารถมองเป็นนัยว่าคือ อิทธิพลของการการครอบคลุม คลอบงำ ทั้งแนวคิด การแสดงออกและวิถีปฏิบัติ ที่ส่งผลต่อชาวฝรั่งเศส

ใจความของหนังเป็นการสะท้อนสถานะของฝรั่งเศส/ยุโรป หลังผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 มาน่าจะเกิน 10 ปี ผลกระทบ/ความคิดที่เกิดขึ้นต่อสภาพจิตใจของผู้คน จนป่านนี้ประเทศเรายังไม่สามารถก้าวเดินไปข้างหน้าได้เท่าไหร่ แต่กลับได้รับอิทธิพลภายนอกมากมายโดยเฉพาะจากชาติอเมริกา

ด้านมืดในจิตใจของมนุษย์ มักมีสาเหตุมาจากสิ่งแวดล้อมรอบข้าง โดยเฉพาะสงครามที่ส่งอิทธิพลไม่ใช่แค่กับผู้เข้าร่วม ผ่านมาในช่วงเวลานั้น แต่ยัง Generation ถัดมา ผลกระทบจากความถดถอยของสังคม เศรษฐกิจ ความคิด ค่านิยม, ไม่แน่ใจผมเคยอ่านเจอจากไหน ‘เกิดสงครามใหญ่ขึ้นครั้งหนึ่ง ส่งผลกระทบนานนับศตวรรษ’ หนังเรื่องนี้แค่ทศวรรษเดียวผ่านมาเองนะครับ

ส่วนตัวค่อนข้างชอบหนังเรื่องนี้ กับ direction ของผู้กำกับ ที่ลีลาเร้าใจ ลูกเล่นมีชั้นเชิง เทคนิคตระการตา แม้ลายเซ็นต์ของผู้กำกับ Malle ผมยังมองไม่เห็นชัดนัก แต่ก็รับรู้ได้ว่าคือเขาคือหนึ่งในผู้กำกับยอดฝีมือแห่งยุค

แนะนำกับคอหนังนัวร์ ชื่นชอบแนวสะท้อนตีแผ่ด้านมืดในจิตใจมนุษย์ ผลกระทบจากสงครามโลก, หลงใหล ทรัมเป็ต Jazz ของ Miles Davis, แฟนๆผู้กำกับ Louis Malle และนักแสดงนำ Jeanne Moreau ห้ามพลาดเด็ดขาด

จัดเรต 13+ กับบรรยากาศ ฆาตกรรม และความตึงเครียด

TAGLINE | “Elevator to the Gallows ลิฟท์ของ Louis Malle มีแต่ขึ้นสูงไปเรื่อยๆจนถึงชั้นฟ้า ด้วยการแสดงของ Jeanne Moreau และบทเพลงของ Miles Davis”
QUALITY | RARE-GENDARY
MY SCORE | LIKE

Leave a Reply

avatar

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

  Subscribe  
Notify of
%d bloggers like this: