Grizzly Man

Grizzly Man (2005) hollywood : Werner Herzog ♥♥♥♡

สารคดีที่จะทำให้คุณรู้จักกับ Timothy Treadwell (1957 – 2003) เจ้าของฉายา ‘Grizzly Man’ ทุกปีก่อนย่างฤดูหน้าหนาว ปักหลักอาศัยอยู่ท่ามกลางผืนป่าธรรมชาติ Katmai National Park, Alaska ศึกษาพฤติกรรมของหมีกริซลี ถ่ายทำฟุตเทจเผยแพร่ต่อสาธารณะชนเพื่อบอกว่า พวกมันไม่อันตรายหรอกถ้าเราเรียนรู้จักเข้าใจมัน แต่ทั้งนี้เมื่อกำลังจะสิ้นสุดฤดูกาลที่ 13 ตัวเขาได้กลายเป็นอาหารอันโอชาในกระเพาะของหมีผู้หิวโหย

รับชมภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ เชื่อว่าอาจทำให้หลายๆคนก่อเกิดข้อคำถาม การกระทำของ Timothy Treadwell เป็นสิ่งถูกต้องเหมาะสมควรหรือไม่? อันนี้ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคนเลยนะ Werner Herzog พยายามนำเสนอบทสัมภาษณ์จากหลายๆความคิดเห็นเกี่ยวข้อง ครอบครัว มิตรสหาย เพื่อค้นหาแรงผลักดัน? สภาวะทางจิต? และอะไรคือสาเหตุการเสียชีวิต? นี่เหมารวมถึงข้อสรุปของผู้กำกับเองด้วย เพื่อให้ผู้ชมสามารถตอบคำถามข้อนี้ได้ด้วยสายตาตนเอง

Timothy Treadwell ชื่อเกิด Timothy William Dexter (1957 – 2003) เกิดที่ Long Island, New York เติบโตขึ้นอย่างปกติทั่วไป ได้ทุนศึกษาต่อจากเป็นนักกีฬาดำน้ำ แต่เอาเวลาเที่ยวเล่นสำมะเลเทเมา คบเพื่อนเลวจนเสียคนเรียนไม่จบ ต้องการเริ่มต้นชีวิตใหม่ สมัครเป็นนักแสดงซิทคอม Cheers แต่พ่ายให้กับ Woody Harrelson ติดเหล้าเมายา เสพเกินขนาด รอดตายหวุดหวิด จากนั้นเกิดความสนใจใน Grizzly Bears ประกอบความรักสัตว์ตั้งแต่เด็ก ออกเดินทางสู่ Alaska เฝ้าสังเกตศึกษาจนรอบรู้เชี่ยวชำนาญ ร่วมกับแฟนสาวคนแรก Jewel Palovak ก่อตั้งองค์กรไม่แสวงหากำไร Grizzly People

เว็บไซด์ทางการของ Grizzly People สำหรับผู้หลงใหลหมีและหมาจิ้งจอก: https://www.timothytreadwellphotography.com/

ชื่อเสียงของ Treadwell เมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่ โด่งดังระดับ Superstar จากการทำสารคดีออกฉายช่อง Discovery Channel แถมยังชื่นชอบทำงานอาสา ได้รับเชิญไปสอนเด็กๆเกี่ยวกับหมีและหมาจิ้งจอก ไม่เคยคิดค่าใช้จ่าย ครั้งหนึ่งออกรายงาน Late Show with David Letterman ถือว่าชื่อเสียงไม่น้อยทีเดียว

เกร็ด: จริงๆในสารคดีเรื่องนี้ จะมีคลิปตอนที่ Treadwell ออกรายการ Late Show with David Letterman แต่ภายหลังถูกตัดออกไป [สัมภาษณ์เริ่มนาที 32:00]

ภายหลังการเสียชีวิตของ Timothy Treadwell โปรดิวเซอร์ Erik Nelson แห่ง National Geographic and Discovery ให้ความสนใจอยากสร้างภาพยนตร์สารคดีชีวประวัติ คาดหวังจะให้ Werner Herzog เป็นผู้กำกับ เลยชักชวนให้แวะเข้าไปหาที่สำนักงาน พบเห็นเอกสารมากมายกองเรียงอยู่บนโต๊ะ

“So I read it and immediately hurried back to his office, and I asked, ‘Who is directing it?’. And he said, ‘I’m kind of directing it.’ And there was some sort of hesitation, and with my thick German accent I said, ‘No, I will direct this movie.’ And that was it. We shook hands and I made it”.

– Werner Herzog

หลังจากตอบตกลง Herzog จึงเริ่มติดต่อ Jewel Palovak อดีตแฟนสาว ผู้ร่วมก่อตั้ง Grizzly People เพื่อขออนุญาติสร้างภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้  ซึ่งเธอแทบจะตอบตกลงโดยทันที เล่าให้ฟังถึงความต้องการของ Treadwell ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง…

“‘If I die, if something happens to me, make that movie. You make it. You show ’em.’ I thought that Werner Herzog could definitely do that”.

– Timothy Treadwell

ไม่นานนักระหว่างศึกษารับชม Video Archive ปริมาณกว่า 100 ชั่วโมง จาก 13 ปี ที่ Treadwell อาศัยอยู่ท่ามกลางผืนธรรมชาติ ทำให้ Herzog สังเกตพบความน่าสนใจ ‘สิ่งที่ Treadwell กระทำอยู่นี้ ไม่ใช่แค่การบันทึกภาพธรรมชาติ สัตว์ป่า หมีกริซลี แต่คือการต่อสู้เผชิญหน้ากับตัวของเขาเอง’

“It was always clear to me that it wouldn’t be a film on wild nature, that it would be much more a film on our nature. Treadwell is a very complex character full of doubts and self-aggrandization. Full of demons that haunt him and exhilarations and swings in mood, and seeing a mission that he finds himself into, and being almost paranoid for moments, and being very sane and very clear at others”.

จากนั้นทำการติดต่อขอสัมภาษณ์ครอบครัว เพื่อนฝูง มิตรสหาย บุคคลผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ และ Herzog เองก็ได้ออกเดินทางไปปักหลักตั้งแคมป์ อาศัยอยู่ Katmai National Park, Alaska ได้ฟุตเทจมานิดหน่อยขณะวิ่งเล่นแข่งกับหมาจิ้งจอก

ฟุตเทจที่ถือว่าทรงพลังสุดของหนัง คือการต่อสู้ระหว่างสองหมี Sergeant Brown กับ Mickey ไม่เพียงขนหลุดปลิวกระจายว่อน ยังมีตัวหนึ่งขี้เร็ดราดออกมา นี่แสดงถึงความรุนแรง เข้มข้น จริงจัง เพื่อแก่งแย่งชิงอาณาบริเวณของแหล่งอาหาร สังเกตบริเวณนี้น่าจะคืออ่าวเล็กๆที่ขณะนั้นแห้งเหือดจนเห็นพื้นทราย สัตว์ป่าพวกนี้จะเอาตัวเองรอดไปได้อีกสักกี่ปีกัน

หลังตัดต่อเสร็จสิ้น ติดต่อขอให้ Richard Thompson นักร้องนักกีตาร์ชื่อดัง สัญชาติอังกฤษ แต่งเพลงประกอบให้สารคดี โดยเน้นให้มีสัมผัสของความขัดแย้ง เช่นขณะที่ Treadwell เดินลงว่ายน้ำใกล้ๆลูกหมี ดนตรีไม่ควรนำเสนอความกลมกลืนของทั้งคู่ ใช้เชลโล่แฝงซ่อนเร้นภยันตรายคืบคลานเข้าหา (ลึกๆเพื่อเป็นการแฝงว่า ‘มนุษย์ไม่สามารถต่อสู้เอาชนะธรรมชาติได้’)

สำหรับบทเพลง Coyotes ขับร้องโดย Don Edwards สำหรับประกอบสารคดีเรื่องนี้โดยเฉพาะ

หมีกริซลีที่ใครๆมองว่าเหี้ยมโหดร้าย อันตราย ห้ามเข้าใกล้ แต่ Treadwell กลับสามารถเดินเข้าไป หยอกล้อแกล้งเล่น ระยะประชิดตัวแบบไม่ได้รับผลกระทบร้ายใดๆ ในมุมมองผู้ทรงคุณวุฒิบอกว่า นั่นเป็นการทำให้สัตว์สับสนไขว้เขว ไม่รู้จะครุ่นคิดทำอะไรกับหมอนี่ดี … เอิ่ม คุณเกิดเป็นหมีกริซลีหรืออย่างไร ถึงสามารถตอบคำถามราวกับผู้รู้เรื่องเข้าใจอย่างดี ทั้งๆที่นั้นก็แค่การสังเกตคาดเดา ข้อสรุปส่วนตนหรอกหรือ!

โดยส่วนตัวแม้มิเคยล่วงรู้จัก Timothy Treadwell มาก่อนหน้านี้ แต่เมื่อได้รับชมสารคดีก็เกิดความชื่นชอบประทับใจเป็นอย่างยิ่ง มองเห็นคือบุคคลผู้เข้าใจในสัจธรรมบางอย่าง ‘ธรรมชาติแห่งชีวิต’ การกระทำของเขาในมุมของคนส่วนใหญ่คือโง่เง่า ไร้สาระ จิตเภทหวาดระแวง (Paranoid) แต่นั่นคือวิธีพิสูจน์ตัวตนเองต่อโลกศิวิไลซ์ พวกคุณแม้งก็เหมือนมนุษย์สวมใส่หน้ากากหมี พยายามหลบซ่อน เก็บกดความชั่วร้ายไว้ภายใต้

ประเด็นคือภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เฉกเช่นมนุษย์ในมุมมองของ Treadwell มีหลายๆสิ่งที่ผมโคตรผิดหวังสุดๆในตัว Herzog ทั้งๆควรเป็นคนกล้าบ้าเหมือนอย่างอดีตเคยเป็นมา แต่กลับประณีประณอมอ่อนข้อมากเกินไป โดยเฉพาะ…
– การไม่นำคลิปเสียงวินาทีสุดท้ายในชีวิตของ Treadwell เผยแพร่สู่สาธารณะ
– ฟุตเทจที่ Treadwell ใช้คำพูดหยาบคาย ด่ากราดมนุษยชาติ กลับถูกกลบด้วยเสียงบรรยายของ Herzog

หลายคนอาจมองสองประเด็นที่ผมยกมานี้ ไม่นำเสนอนั้นเหมาะสมควรแล้ว ถือว่าเคารพผู้เสียชีวิต ญาติมิตรสหาย แต่ส่วนตัวมองว่านั่นทำให้หนังมี Mac-Guffin เกิดความคั่งค้างคา ไปไม่ถึงจุดสูงสุดตามความคาดหวังต้องการของ Treadwell อย่างแน่นอน

อะไรทำให้ผมครุ่นคิดรู้สึกเช่นนั้น? อันนี้เกิดจากหนึ่งในข้อสรุปของ Herzog ต่อตัวตนของ Treadwell คือบุคคลผู้เบื่อหน่าย ชิงชัง ต้องการหนีโลก ทุกๆปีก่อนย่างเข้าฤดูหนาว ปักหลังอาศัยยัง Katmai National Park, Alaska สถานที่ที่ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองยัง ‘มีชีวิต’ กระทำการปกป้องผู้บริสุทธิ์(หมีกริซลี)จากอารยธรรมชั่วร้ายของมนุษย์พยายามรุกรานเข้ามา ใครก็ตามที่รุกราน เห็นต่างขัดแย้ง ทั้งหมดทั้งสิ้นคือศัตรู อันตรายยิ่งกว่าสัตว์ป่าเหล่านี้เสียอีก!

Herzog เองก็เคยบอกรู้สึกโง่เง่ากับคำแนะนำที่บอกให้ Palovak ทำลายเทปนั้น

“Stupid … silly advice born out of the immediate shock of hearing—I mean, it’s the most terrifying thing I’ve ever heard in my life. Being shocked like that, I told her, ‘You should never listen to it, and you should rather destroy it. It should not be sitting on your shelf in your living room all the time.’ [But] she slept over it and decided to do something much wiser. She did not destroy it but separated herself from the tape, and she put it in a bank vault”.

เคยมีข่าวลือที่ว่าคลิปเสียงเหตุการณ์ดังกล่าวหลุดแพร่หลายในอินเตอร์เน็ต แต่ทุกคนที่ได้ฟังยืนยันว่านั่นไม่ใช่ของจริง แม้จะมีการเรียกร้องกับ Change.org ให้นำออกเผยแพร่สู่สาธารณะ ก็ไม่รู้จะมีใครกล้าพอทำเช่นนั้นได้หรือเปล่า

ในมุมมองของ Herzog ดูเหมือนว่าเขาไม่ค่อยเห็นด้วยกับการกระทำของ Treadwell สักเท่าไหร่ อาจเพราะได้เคยพานพบประสบการณ์ลักษณะใกล้เคียงเข้ากับตนเองมาหลายปี เรียนรู้ว่า ‘มนุษย์ไม่สามารถเอาชนะธรรมชาติได้’ ความตายที่เกิดขึ้นเพราะได้ก้าวข้ามผ่านขอบเขต … อะไรก็ไม่รู้ละ นี่คือค่าตอบแทนที่สาสมควร บทเรียนอันแสนเจ็บปวด คงสามารถนำมาสอนใจคนได้ไม่น้อย

ทุกวันนี้มนุษย์ร่ำเรียนรู้จากหนังสือหนังหา น้อยนักจะเคยปฏิบัติลงสถานที่จริง ทำให้เวลาพบเจอปัญหาที่ไม่มีในตำรา ก็มักมืดแปดด้านไปต่อไม่ถูก การศึกษาจากธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เหมือนดั่ง Treadwell เฝ้าสังเกตพฤติกรรมของหมีกริซลี จนเกิดความเข้าใจอีกฝ่าย รับล่วงรู้อะไรทำได้-ไม่ได้ สมควรแสดงออกเช่นไรเมื่ออยู่ระยะประชิดใกล้ และการส่งจิตบอกว่าเรามาดีมิใช่หวังร้าย นั่นต่างหากไม่ใช่หรือสิ่งที่เราสมควรยกย่องให้เป็นครู ผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง

มุมมองของบุคคลทั่วไปจากการสัมภาษณ์ของหนัง ทำให้ผมพบเห็นโลกทัศน์อันคับแคบของมนุษย์ จริงอยู่พวกเขาอาจไม่ได้สนิทชิดเชื้อกับ Treadwell จนสามารถล่วงรู้จักตัวตนแท้จริง แต่ต่อให้เข้าใจแล้วยังไง ฉันกับหมอนี่อาศัยอยู่คนละโลก มิอาจหวนมาบรรจบพบกันได้อยู่แล้ว (นี่พูดถึงแนวคิดนะครับ ไม่ใช่การมีชีวิต)

สิ่งที่ Timothy Treadwell ทอดทิ้งไว้ให้กับมวลมนุษย์ คือการเปิดโลกทัศน์ทางความคิด ไม่ใช่แค่ต่อหมีกริซลี แต่คือด้านมืด/ทุกสิ่งอย่างที่มิเคยล่วงรู้จัก การเริ่มต้นด้วยความหวาดขลาดกลัว ปฏิเสธต่อต้านหัวชนฝา อย่าเสี่ยง! ทั้งๆไม่เคยล่วงรู้จักทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ นี่เรียกว่าทัศนคติคับแคบ มองโลกในแง่มุมเดียว จนกว่าจักสามารถ ‘เอาใจเขามาใส่ใจเรา’ ครุ่นคิดนอกกรอบ นั่นถึงทำให้ค้นพบว่า ไม่มีอะไรในโลกที่น่ากลัวนอกเสียจากด้านมืดภายในจิตใจของตัวเราเอง

ถึงผมคงไม่สามารถเป็นได้แบบ Timothy Treadwell แต่การมีตัวตนของภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ล่วงรับรู้ว่า มนุษย์แสดงออกกระทำเช่นนี้ได้ ไม่ใช่แค่ต่อหมีกริซลี แต่ทุกสิ่งอย่างที่เป็นด้านมืด/อันตราย/สัตว์ร้าย และเรื่องราวชีวิตของเขาคงสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ๆไม่มากก็น้อย

จัดเรต 18+ บรรยากาศแห่งความตาย อันตราย คืบคลานอยู่แทบทุกวินาทีของสารคดี

คำโปรย | “เรื่องราวของ Timothy Treadwell เปิดโลกทัศน์ทางความคิดได้มาก แต่ผู้กำกับ Werner Herzog กลับหน่อมแน้มไปหน่อยในการนำเสนอ Grizzly Man”
คุณภาพ | ยอดเยี่ยม
ส่วนตัว | แค่ชื่นชอบ

Leave a Reply

avatar

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

  Subscribe  
Notify of
%d bloggers like this: