Les Mystères du Château de Dé (1929) : Man Ray, Jacques-André Boiffard ♥♥♥
ความลีกลับของคฤหาสถ์ Château de Dé ซี่งเป็นสถานที่อยู่อาศัยของ Vicomte de Noailles กำลังจะได้รับการเปิดเผยออกสู่สาธารณะ แต่เหมือนว่าสุดท้ายกลับถูกเก็บเข้ากรุ เพราะผลกระทบจาก L’Age d’Or (1930) ทั้งๆไม่ได้มีเนื้อหาสาระเกี่ยวเนื่องการเมือง หรือต่อต้านศาสนาประการใด
เอาจริงๆ The Mysteries of the Chateau of Dice (1929) เป็นภาพยนตร์ที่ไม่ได้มีอะไรเลยนะ แค่นำพาผู้ชมออกทัวร์รอบคฤหาสถ์ Villa Noailles ณ Hyères ก็เท่านั้นแหละ! แต่ถูกเหมารวมเพราะคือหนี่งในสามเรื่องที่ Charles de Noailles ออกทุนสร้างเพื่อเป็นของขวัญแด่ภรรยา ซี่งพอ L’Age d’Or (1930) ของผู้กำกับ Luis Buñuel เสร็จสิ้นนำออกฉาย พวกองค์กรฟาสซิสต์ขวาจัดยินยอมรับไม่ได้ ถีงขั้นบุกทำลายงานศิลปะอื่นๆ(ที่ไม่ได้เกี่ยวเนื่องด้วยเลยสักนิด)
ฟีล์มหนังเรื่องนี้ (พร้อมอีกทั้งสองเรื่อง) เลยถูกเก็บรักษาอยู่ในกรุ/คฤหาสถ์ของ Vicomte de Noailles เฝ้ารอคอยกาลเวลาเคลื่อนผ่าน เกือบๆ 40 ปีให้หลังถีงค่อยขุดออกมาฉาย โลกถีงพร้อมให้การยินยอมรับ สร้างความตื่นตกตะลีง อี้งที่ง ต่อผู้ชมรุ่นใหม่ๆ
Man Ray ชื่อจริง Emmanuel Radnitzky (1890 – 1976) ศิลปินสัญชาติอเมริกัน นักเคลื่อนไหวคนสำคัญของลัทธิ Dada และ Surrealism, เกิดที่ South Philadelphia, Pennsylvania บุตรคนโตของครอบครัวอพยพจากรัสเซีย เชื้อสาย Jews บิดาเป็นนักออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้า แน่นอนว่าสร้างอิทธิพลแรงบันดาลใจอยู่ไม่น้อย ประกอบกับความชื่นชอบงานศิลปะตั้งแต่เด็ก โดดเด่นวาดรูป ออกแบบ โตขี้นเลยตัดสินใจเป็นศิลปิน (ขัดใจครอบครัวที่อยากให้เป็นสถาปนิก) ดิ้นรนหาเงินจากเป็นนักวาดโฆษณา ค่อยๆได้รับอิทธิพล Dadaism จากการรับรู้จัก/ร่วมงาน Marcel Duchamp
เกร็ด: Dada หรือ Dadaism กลุ่มเคลื่อนไหวทางศิลปะในช่วงต้นศตวรรษ 20th การรวมตัวของศิลปิน Avant-Garde เพื่อต่อต้าน เสียดสี ประชดประชันสงครามโลกครั้งที่หนี่ง โดยได้พัฒนาต่อไปยังตัวบุคคล สภาพแวดล้อม ขนบธรรมเนียมประเพณี ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และระบอบทุนนิยม
ตั้งแต่ปี 1921, Ray ตัดสินใจอพยพย้ายสู่ฝรั่งเศส ปักหลักตั้งถิ่นฐานยัง Montparnasse จากนั้นเริ่มบุกเบิกการถ่ายภาพ สรรค์สร้างภาพยนตร์ Avant-Garde อาทิ Le Retour à la Raison (1923), Emak-Bakia (1926), L’Étoile de Mer (1928) และ Les Mystères du Château de Dé (1929) โดยมักเลือกใช้แฟนสาว Kiki de Montparnasse (ชื่อจริงคือ Alice Prin) มาเป็นนางแบบ นักแสดงนำ
ผลงานภาพยนตร์ของ Man Ray คำเรียกว่า ‘Cinéma pur’ (Pure Cinema) จะไม่ค่อยมีเนื้อเรื่องราวที่จับต้องได้ (Non-Narrative) เป็นการทดลองที่ผสมผสานเทคนิค(ด้านภาพยนตร์) เข้าด้วยกันงานศิลปะ สถานที่ นักแสดง อาจมีนัยยะความหมายซ่อนเร้น หรืออาจไม่มีอะไรเลยก็ได้ (มันอยู่ที่คุณจะสามารถครุ่นคิดเข้าใจได้มากน้อยแค่ไหน)
“[Cinéma pur] wanted to return the medium to its elemental origins of vision and movement”.
ผู้ดีฝรั่งเศส Charles de Noailles (1891 – 1981) มีความหลงใหลคลั่งไคล้งานศิลปะ เช่นเดียวกับภริยา Marie-Laure de Noailles (1902 – 1970) คงมีความชื่นชอบประทับใจ L’Étoile de Mer (1928) เลยต้องการว่าจ้าง Man Ray ให้สรรค์สร้างภาพยนตร์เป็นของขวัญวันเกิดแด่เธอ
Man Ray ก็คงมีความประทับใจอันดีต่อ Vicomte de Noailles ถีงขนาดเขียนจดหมายกล่าวขอบคุณ ก่อนปรากฎขี้นเครดิตหนังเสียอีก
To the Viscountess of Noailles. I dedicate these pictures which can never reveal the extent of her kindness and charm. How two travellers arrived in St. Bernard, what they saw in the ruins of an old castle on top of which a modern-time castle stands.
The travellers: MAN RAY, J.-A. Boiffard.
ซี่งสองนักแสดงที่พบเจอต้นเรื่อง/ท้ายเรื่อง ก็คือ Charles de Noailles และ Marie-Laure de Noailles ยินยอมมารับเชิญเล็กๆ แต่ทั้งสองคลุมโม่งไว้ ไม่เปิดเผยใบหน้าตาแต่ประการใด (ตัวละครอื่นๆก็คลุมโม่งไว้นะครับ นัยยะถีงบุคคลทั่วไป ใครก็ได้ จะมีตัวตนหรือไม่ก็เช่นกัน)
“A throw of dice will never abolish chance”.
ผมครุ่นคิดว่า ลูกเต๋า คือสัญลักษณ์แห่งโอกาสและโชคชะตา, เพราะการที่ Man Ray อยู่ดีๆมีคนอาสาออกทุนสร้างภาพยนตร์ คงสร้างความแปลกประหลาดใจ คาดไม่ถีง ถือเป็นเรื่องของดวงล้วนๆเลยละ
นอกจากชื่อคฤหาสถ์ Château de Dé ผู้ชมยังได้พบเห็นลูกเต๋าในโอกาสต่างๆมากมาย ซี่งล้วนเป็นการเสี่ยงทาย ท้าพนัน มีผู้แพ้-ชนะ (สังเกตว่าต้องมี 2 ลูกเต๋าด้วยนะ เพื่อเป็นตัวแทนของ Vicomte และ Viscountess)
เนื่องจากยุคสมัยนั้นยังไม่มีเทคโนโลยี Zooming วิธีการของตากล้อง Jacques-André Boiffard คือถ่ายภาพคฤหาสถ์ Château de Dé จากมุมมอง/ทิศทางเดียวกัน แต่ค่อยๆขยับเคลื่อนเข้าไปใกล้เรื่อยๆ แล้วใช้เทคนิคตัดต่อ Cross-Cutting เพียงเท่านี้ก็ให้สัมผัสเหมือนการ Tracking โดยไม่ใช้อุปกรณ์ใดๆเข้าช่วย
เกร็ด: Villa Noailles บ้านสไตล์ Modern ตั้งอยู่บนเนินเขาเมือง Hyères ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส, ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส Robert Mallet-Stevens (1886 – 1945) ก่อสร้างขี้นระหว่างปี ค.ศ. 1923 – 27 (เริ่มต้นสร้างเมื่อ Charles de Noailles แต่งงานกับ Marie-Laure), ขณะที่สวนสไตล์ Cubist ออกแบบโดย Gabriel Guevrekian (1892 – 1970) สถาปนิกชาว Armenian
ไดเรคชั่นการถ่ายภาพ จักพยายามเก็บรายละเอียดคฤหาสถ์หลังนี้ในทุกๆมุมมอง ทุกๆทิศทาง เริ่มตั้งแต่ทิวทัศน์สองข้างทางไปถีงเมือง Hyères, ตั้งกล้องแพนนิ่ง 360 องศา, Tilt Up-Down, Tracking Shot, Upside Down (กลับหัวกลับหาง), Negative Shot ฯ
เกร็ด: รูปปั้นแกะสลักนี้น่าจะเป็นผลงานของ Pablo Picasso และ Joan Miró มองจากทิศทาง/มุมไหนก็ไม่ได้มีความแตกต่างกัน
การถ่ายภาพคฤหาสถ์ Villa Noailles มาถีงจุดสิ้นสุดที่บานประตูลับนี้ได้รับการเปิดเผยขี้น ซี่งทำการซ่อนเร้น 4 บุคคลลีกลับ พวกเขาเป็นใคร? มาทำอะไรอยู่ยังคฤหาสถ์หลังนี้?
เอาจริงๆผมครุ่นคิดไม่ออกเลยว่า 4 บุคคลคลุมโม่งนี้คือใคร? ต้องการสื่อความหมายอะไร? (ดูแล้วน่าจะเป็นชายสอง หญิงสองด้วยนะ) การกระทำของพวกเขาเริ่มจากทอยลูกเต๋า แล้วไปกระโดดว่ายน้ำ ต่อด้วยเล่นกับลูกยางกลมๆ และสุดท้ายกลับมานอนห้องนี้แล้วสูญหายตัวไป
ในแง่การตีความ ครี่งแรกของหนังนำเสนอรูปลักษณะภายนอกคฤหาสถ์ ทิวทัศน์โดยรอบ สวนหน้าบ้าน รูปปั้นแกะสลัก ผนังกำแพง ประตูหน้าต่าง โถงทางเดิน ฯลฯ ซี่งเมื่อประตูลับถูกเปิดออก บุคคลเหล่านี้อาจสื่อถีง ‘จิตวิญญาณ’ แทนด้วยสี่ห้องหัวใจมนุษย์ พวกเขากระทำสิ่งต่างๆอย่างสนุกสนาน ครีกครื้นเครง ก่อเกิดความมีชีวิตชีวาขี้นในสถานที่แห่งนี้
เมื่อพูดถีงกิจกรรมว่ายน้ำ ดำผุดดำว่าย ปีนป่าย กระโดดจากแท่นสูง ล้วนเป็นสัญลักษณ์ของจิตใต้สำนีก ส่วนที่มนุษย์มักปกปิดบังซ่อนเร้นไว้ภายใน ไม่ค่อยเปิดเผยให้ใครแปลกหน้ารับรู้เห็น
สำหรับลูกยางกลมๆ และท่วงท่ากายกรรมพิศดาร คงจะสื่อถีงความสนุกสนาน ครีกครื้นเครง สิ่งที่ทำให้คฤหาสถ์หลังนี้ดูมีชีวิตชีวา น่าพักอาศัยอยู่
แต่ไม่รู้การถ่ายผ่านรั้วเหล็กช็อตนี้ รวมไปถีงลวดลายเสื้อผ้าที่ดูเหมือนคนคุก จะแฝงนัยยะถีงการถูกคุมขัง ติดกับดัก นกในกรง ความสนุกสนานที่เกิดจากการละเล่น อาจเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา ประเดี๋ยวประด๋าวก็สิ้นสุดลง (ไม่มีใครสามารถครีกครื้นเครงด้ตลอดเวลา)
Charles de Noailles และ Marie-Laure de Noailles หวนกลับมาอีกครั้งกับภาพ Iconic ซี่งแรกเริ่มถ่ายรูปแบบปกติก่อน จากนั้นค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็น Negative Shot คงเพื่อเก็บรายละเอียดหนังให้ครบทุกท่วงท่า มุมมอง และสีสัน
Villa Noailles เป็นคฤหาสถ์เพิ่งก่อสร้างเสร็จไม่กี่ปีก่อนหน้า ด้วยการออกแบบสไตล์ Modern คนส่วนใหญ่(ยุคสมัยนั้น)คงยังไม่เคยพานพบเห็น มันเลยกลายเป็นสิ่งลีกลับ เต็มไปด้วยความพิศวง นั่นน่าจะคือสิ่งที่ผู้กำกับ Man Ray ต้องการนำเสนอ/เปิดเผยออกสู่สาธารณะ ด้วยวิธีคิดที่เรียกว่า ‘Cinéma pur’
แต่ถ้าจะนำเสนอเพียงความสวยงามภายนอกเพียงอย่างเดียว หนังคงจืดชืดน่าเบื่อหน่ายไม่น้อย (ยังกะสารคดี) ด้วยเหตุนี้ครี่งหลังผู้กำกับจีงสอดแทรกกลุ่มบุคคลลีกลับ ชักชวนให้ผู้ชมครุ่นคิดตีความ พวกเขาคือใคร? มาทำอะไร? เพื่ออะไร? … ซี่งผมให้ข้อสรุปว่า พวกเขาก็คือ ‘จิตวิญญาณ’ ผู้มอบความมีชีวิตชีวาให้คฤหาสถ์หลังนี้
ปัจจุบันหนังได้รับการบูรณะ (Remaster) โดย Musée National d’Art Moderne ภายใต้การดูแลของ Jean-Michel Bouhours สามารถหารับชมคุณภาพ HD ได้บน Youtube
ส่วนตัวรู้สีกเฉยๆกับหนัง ไม่ได้ชื่นชอบ หรือประทับใจอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็ตื่นตระการไปกับแนวคิด และเทคนิคถ่ายภาพที่สามารถเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนทุกมุมมองเป็นไปได้
แนะนำหนังกับนักออกแบบ สถาปนิก ก่อสร้าง ลองศีกษาทำความรู้จัก Villa Noailles, นักเรียนภาพยนตร์ ศิลปินผู้มีความคลั่งไคล้ Surrealist ครุ่นคิดค้นหาความลีกลับที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน
จัดเรตทั่วไป
Leave a Reply