Mr. Vampire (1985)
: Ricky Lau ♥♥♥♡
ผีกัดอย่ากัดตอบ คือภาพยนตร์ที่ทำให้กระแสนิยม Kung-Fu Comedy Horror ถึงจุดสูงสุดในฮ่องกง แจ้งเกิดต้นตำรับอาจารย์ปราบผี หลิน เจิ้งอิง พร้อมลูกศิษย์กิ๊กก๊อกอีกสองคน เฉิน เสี่ยวโห่ว กับ ริกกี้ ฮุย จะทำให้คุณหัวเราะจนมิอาจกลั้นหายใจไว้อยู่
หง จินเป่า คือบุคคลผู้เป็นตัวตั้งตัวดี ให้กำเนิดหนังแนวเจียงซือ** (Jiangshi) หลังจากทดลองผสมผสานศิลปะการป้องกันตัว (Martial Arts) คลุกเคล้า Comedy Horror เริ่มต้นกำกับ/แสดงนำ Encounters of the Spooky Kind (1980) ตามด้วยเป็นโปรดิวเซอร์ให้ Mr. Vampire (1985) เสมือนภาคแยกในจักรวาลเดียวกัน นำเสนอผีกระโดดที่ได้เสียงตอบรับนิยมสูงสุด
เกร็ด: เจียงซือ แปลตรงตัว ศพแข็งหรือผีดิบ เป็นพวกแวมไพร์/ซอมบี้ ตามความเชื่อจีน อาศัยนอนหลับอยู่ในโลงศพหรือถ้ำในเวลากลางวัน ขณะที่ตอนกลางคืนจะออกหากินด้วยการดูดเลือดของมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตต่างๆ ผิวขาวซีดเกิดจากเชื้อรา เดินไม่ได้ต้องกระโดด ถ้าข้ามเมล็ดข้าวสารจะได้รับความเจ็บปวดทรมาน กลั้นหายใจไร้ลมก็จะหลบซ่อนตัวจากผีได้
เฉกเช่นเดียวกับ Encounters of the Spooky Kind หง จินเป่า ได้แรงบันดาลใจ Mr. Vampire ส่วนหนึ่งจากเรื่องเล่าวัยเด็กเกี่ยวกับผีเจียงซือ แล้วนำมาผสมคลุกเข้ากับเรื่องประหลาดจากห้องหนังสือ หรือโปเยโปโลเย ผลงานประพันธ์ของผู ซงหลิง (蒲松龄, Pu Songling)[ค.ศ. 1640 – 1715] แต่เพราะเจ้าตัวมีงานล้นมือเลยมอบหมายให้ ริกกี้ หลิว ที่เพิ่งร่วมงานกันเรื่อง Two Toothless Tigers (1980) ควบคุมดูแลกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้แทน
ริกกี้ หลิว, Ricky Lau Koon-wai (เกิดปี 1949) ตากล้อง/ผู้กำกับ สัญชาติฮ่องกง, พ่อทำงานอยู่ Diamond Hill Studio โตขึ้นเลยใคร่สนใจเข้าสู่วงการภาพยนตร์ เริ่มต้นจากเป็นช่างซ่อมอุปกรณ์ ไต่เต้าขึ้นมาผู้ช่วยตากล้อง เดินทางไปทำงานไต้หวันหลายปี หวนกลับมาร่วมงาน หง จินเป่า เป็นตากล้องถ่ายทำ Enter the Fat Dragon (1978), จากนั้นได้รับโอกาสกำกับ Crazy Couple (1979), Two Toothless Tigers (1980), และแจ้งเกิดโด่งดังสุด Mr. Vampire (1985)
อาจิ่ว (หลิน เจิ้งอิง) นักพรตเต๋าผู้ชำนาญการปราบผีดิบ มีลูกศิษย์สองคนที่เพิ่งพาไม่ค่อยได้เท่าไหร่ อาหมั่น (ริกกี้ ฮุย) กับอาโจว (เฉิน เสี่ยวโหว), วันหนึ่งได้รับมอบหมายจากเศรษฐีเหยิ่น ซึ่งมีลูกสาวสวยอายุ 18 เพิ่งเรียนแต่งหน้ามาจากเซินเจิ้น ถิ่งถิ่ง (หลี่ ไช่ฟง) ว่าจ้างให้ย้ายหลุมศพของบิดาตนเอง ที่ถูกหมอดูหลอกหาที่ดินฝังให้เมื่อ 20 ปีก่อน แต่ทว่าฮวยจุ้ยกลับส่งผลต่อกิจการเลวลงเรื่อยๆ เมื่อเปิดฝาโลงจึงได้พบว่า ศพของบิดายังดูไม่เน่าเปื่อยเชื่อว่าต้องกลายเป็นผีดิบแน่ และเมื่อเคลื่อนย้ายไปไว้ที่สำนักก็ฟื้นขึ้นมาออกอาละวาด
หลิน เจิ้งอิง, Lam Ching-ying, ชื่อเดิม หลิน เกิ้นเป่า (1952 – 1997) นักแสดง/ผู้กำกับ เกิดที่ Hong Kong โดยครอบครัวอพยพจาก Shanghai ในช่วงรัฐบาลคอมมิวนิสต์กวาดล้างสมาชิกพรรคก๊กมินตั๋น เริ่มต้นอาชีพนักแสดงด้วยการเป็นเด็กฝึกหัดงิ้วในโรงเรียนสอนอุปรากรณ์จีน ด้วยรูปร่างเล็กผอมบาง ทำให้มักได้รับบทประจำเป็นตัวนาง ซึ่งความถนัดดังกล่าวนี้ได้สืบทอดต่อเนื่องมาเมื่อได้ก้าวสู่วงการภาพยนตร์ รับหน้าที่เป็น Stan-In ให้กับนักแสดงหญิง ต่อมา หง จินเป่าชักชวนให้เข้าร่วมทีม Stuntman ก็ได้รับบทเด่น/บทรองมาเรื่อย อาทิ A Touch of Zen (1971), Fist of Fury (1972), Encounters of the Spooky Kind (1980), จนกระทั่ง Mr. Vampire (1985) กลายเป็นภาพลักษณ์ประจำตัวได้รับการจดจำที่สุดแล้ว, น่าเสียดายอายุสั้นไปเสียหน่อย เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับเมื่อวัย 44 ปี
รับบท อาจิ่ว นักพรตลัทธิเหมาซาน ผู้ชำนาญการปราบผี คิ้วติดกันถือว่าเป็นคนจริงจังกับชีวิต แบกรับภาระไม่ใช่แค่หน้าที่การงาน ยังต้องดูแลสองลูกศิษย์ที่พึ่งพาไม่ค่อยได้เท่าไหร่ ให้เวลาเสี้ยมสั่งสอนพวกเขานานกว่าจัดการกับผีเสียอีก!
ผมว่าก็คือคิ้วของ หลิน เจิ้งอิง นะแหละที่กลายเป็นตำนาน บ่งบอกถึงสีหน้าจริงจังไม่เคยเห็นรอยยิ้ม มาดเข้มเป็นผู้ใหญ่พึ่งพาอาศัยได้ แต่ถึงภาพลักษณ์จะดูดุๆเย็นชา แต่ข้างในจิตใจมีความอ่อนโยน เป็นห่วงเป็นใยลูกศิษย์ของตนเอง ให้ความช่วยเหลือทุกคนเท่าที่เป็นไปได้
ริกกี้ ฮุย, Ricky Hui (1946 – 2011) นักร้อง/นักแสดง เกิดที่ Panyu, Guangdong ครอบครัวอพยพสู่ฮ่องกงปี 1950 ปักหลักอยู่แถว Diamon Hill พ่อเป็นนักไวโอลิน ส่วนแม่เคยเป็นนักแสดงงิ้ว โตขึ้นได้ทำงานที่ French Press Agency รับบทสมทบในหนังของ Shaw Brothers หลายเรื่อง เริ่มมีบทใหญ่กับ Games Gamblers Play (1974), The Private Eyes (1976), หมดสัญญาย้ายไปอยู่กับ Golden Harvest รับบทนำเรื่อง From Riches to Rags (1980), The Contract (1978), Security Unlimited (1981), Mr. Vampire (1985) ฯ
รับบท อาหมั่น (ในฉบับพากย์ไทยเรียก ไอ้อ่ำ) แม้ปากบอกไม่กลัวผี แต่หลายครั้งตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า เพราะวิทยายุทธไม่เก่งเท่าไหร่ (ดีแต่ปาก) ทำให้พลาดพลั้งติดเชื้อผีดิบ กำลังค่อยๆกลายร่างทีละนิด เล็บยาว เขี้ยวงอก เอาตัวรอดได้อย่างหวุดหวิด
แค่ทรงผมใบหน้าของ ริกกี้ ฮุย ก็เรียกเสียงหัวเราะได้มาก โดยเฉพาะเวลาทำหน้าขณะกลัวผี ตาตี่ๆริ้วรอยเหี่ยวย่นขึ้นเต็ม เป็นลูกศิษย์ที่แก่กว่าอาจารย์ –” (ตัวจริงอายุมากกว่า หลิน เจิ้งอิง)
เฉิน เสี่ยวโห่ว, Chin Siu-ho (เกิดปี 1963) นักแสดงสัญชาติฮ่องกง เกิดที่ Sanshui, Guangdong, มีพี่ชาย Chin Ka-lok เรียนมวยกลายเป็นนักแสดง ทำให้น้องชายเดินตามรอยเท้า ร่ำเรียนศิลปะป้องกันตั้วตั้งแต่อายุ 10 ขวบ เริ่มต้นจากเป็น Stuntman ให้กับ Shaw Film Company, Golden Harverst Film, ไต่เต้าจนรับบทนำ Legend of the Fox (1980), โด่งดังสุดคงคือ Mr. Vampire (1985)
รับบทอาโจว หนุ่มหล่อเก่งกังฟูอาศัยอยู่กับน้า ทำงานร้านขายเครื่องสำอางค์ เวลาว่างมาเป็นลูกศิษย์อาจิ่ว ชอบกลั่นแกล้งอาหมั่น (เพราะรู้ว่ากลัวผี) ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ แต่สุดท้ายก็พ่ายต่อหญิงงาม ถูกเธอสูบวิญญาณยังไม่ยอมรู้ตัว ให้ความเหลือไม่ยอมให้อาจารย์ใช้กำลังทำร้าย
คงเพราะความหน้าหวาน (แต่ผมว่าไม่หล่อเท่าไหร่นะ) สาวๆเลยเคลิบเคลิ้มหลงใหล ทำผิดพลาดอะไรก็มักได้รับการให้อภัยอยู่เสมอ ที่ต้องชมเลยคือฝีมือกังฟูยอดเยี่ยม เห็นว่าเล่นเองแสดงเองไม่ยอมใช้ Stuntman ทุ่มเทจริงจังกับฉากต่อสู้แบบสุดๆ
ถ่ายภาพโดย Peter Ngor ตากล้อง/นักแสดง ผลงานเด่น Mr. Vampire (1985), Sex and Zen (1991), Au revoir mon amour (1991), Wolf Warrior 2 (2017) ฯ
มีการสร้างฉากเมือง/บ้านของอาจิ่ว ขึ้นที่ Taipei, Taiwan (เพราะมีพื้นที่ว่าง และประหยัดงบประมาณกว่า Hong Kong) ใช้เวลาถ่ายทำเกือบครึ่งปี เหมือนจะนานแต่ถือว่าเร่งรีบด่วนมากจนนักแสดง/ผู้กำกับแทบไม่มีเวลาหลับนอน (แต่ก็ไปสูญกับฉากเลิฟซีน ถ่ายทำถึง 2 สัปดาห์)
เพราะความที่ผู้กำกับริกกี้ หลิว เคยเป็นตากล้องมาก่อน ทำให้มีมุมมองการนำเสนอภาพที่ค่อนข้างน่าสนใจ เก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆภาพ ทุกการกระทำเคลื่อนไหว และโดยเฉพาะฉากต่อสู้ที่มีการจัดวางองค์ประกอบ ทิศทาง มุมกล้อง เพื่อบดบังการใช้นักแสดงแทน/Stuntman หรือเส้นลวด/Special Effect ได้อย่างแนบเนียน
โดดเด่นในการเลือกใช้แสงสี (น้ำเงิน=ความเย็นยะเยือก) และ Special Effect (ควัน, ไฟ, แต่งหน้าตัวละคร) เพื่อสร้างบรรยากาศความน่าสะพรึงกลัวให้กับหนัง แต่เชื่อว่านั่นก็แค่ความหวิวๆรู้สึกว่ามี แต่หาได้ขนลุกขนพองหลอกหลอน มากสุดก็แค่สะดุ้งตกใจ แล้วก็ยิ้มหัวเราะออกมา
ตัดต่อโดย Peter Cheung ยอดฝีมือสัญชาติ Hong Kong คว้ารางวัลนับไม่ถ้วนตอนร่วมงานกับ Bruce Lee และถือว่าเป็นขาประจำของหนัง Martial Arts แทบทุกแขนง, มาเรื่องนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน สามารถร้อยเรียงฉากต่อสู้ให้มีความต่อเนื่องลื่นไหล ปรับเปลี่ยนมุมมองกล้องฉับไวโดยผู้ชมแทบไม่รับรู้ตัว และมีการใช้ Slow Motion จังหวะที่ต้องการเน้นสุดๆ
มุมมองดำเนินเรื่องของหนัง วนเวียนอยู่กับสามตัวละครหลัก อาจิ่ว, อาหมั่น และอาโจว พยายามไกล่เกลี่ยเรื่องราวของสองลูกศิษย์ให้เท่าๆกัน เมื่ออาหมั่นถูกผีดิบกัดกำลังค่อยๆกลายร่าง เลยมีความจำเป็นต้องให้อาโจวหลงเสน่ห์ผีสาว ถูกสูบวิญญาณออกจากร่าง เพื่อแสดงถึงความไม่เอาอ่าวพอๆกันของทั้งคู่ จำต้องพึ่งพาอาจารย์ให้ถอนพิษแก้คำสาป
เพลงประกอบโดย Anders Nelsson และบริษัทของเขา The Melody Bank ใช้เสียงเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ในสไตล์ยุค 80s สร้างบรรยากาศหลอนๆชวนให้สะพรึง คลอประกอบหนังตลอดทั้งเรื่อง หลายครั้งช่วงเร่งเร้าอารมณ์ สร้างความฉงนสงสัย และไม่ลืมใส่ลีลากวนๆชวนให้ขบขัน … ไม่ได้น่ากลัวแบบจริงจังสักเท่าไหร่
สำหรับบทเพลง Gwai San Noeng (แปลว่า Ghost Bride) แต่งคำร้องโดย Lee On-Tat คำร้องโดย Cheng Kwok-Kong ต้นฉบับขับร้องคอรัสโดย Jie’er Choir, มีส่วนผสมของเครื่องดนตรีพื้นบ้านจีน คลุกเคล้ากับดนตรี Rock คงถือว่าเป็นความร่วมสมัยนั้น ไพเราะแบบหลอนๆ ฟังเนื้อร้องออกจะขนลุกขนพอง
ไม่ว่าจะมนุษย์หรือวิญญาณคนตายไปแล้ว ตราบใดที่ยังเวียนวนอยู่บนโลก แสดงว่าย่อมต้องมีปัญหาคั่งค้างคา ตอนมีชีวิตยังไม่ได้รับการเติบเต็ม กำลังจะสิ้นใจแต่ยังไม่ยอมหมดลม เฮือกสุดท้ายเลยกลายสภาพเป็นผีดิบมันตรัย ฟื้นคืนชีพกลับมาทำในสิ่งที่เหมือนว่ายังติดค้างอยู่ภายใน
หนังไม่ได้นำเสนอไปถึงสาเหตุผล บิดาของเศรษฐีเหยิ่นกลายเป็นผีดิบเพราะอะไร? คงต้องบางสิ่งอย่างคั่งค้างคาในใจของเขาแน่ๆ คาดเดาจากศพแรกที่ก็คือเศรษฐีเหยิ่น นั่นอาจหมายถึงความไม่เชื่อใจลูกหลานของตนเองจะสามารถดูแลกองมรดกตกทอดทิ้งไว้ให้ได้ (คงประมาณเศรษฐีขี้งก ไม่อยากยกมรดกให้ใคร แม้แต่ลูกของตนเอง!)
เฉกเช่นเดียวกับผีสาวที่พยายามสูบวิญญาณของอาโจว (นี่คงนำจากโปเยโปโลเย ตอน เนี่ย เสี่ยวเชี่ยน แน่ๆ) ถ้ายึดจากเหตุผลต้นฉบับ ก็เพราะเธอถูกบังคับจากปีศาจต้นไม้ แต่ในบริบทของหนังที่เหมือนว่าจะไม่มีใคร คงเป็นความรักพิศวาสของตนเองที่ต้องการครอบครองหนุ่มหล่อ โชคร้ายไม่ทันทำสำเร็จ แต่ก็โคตรโชคดีเพราะได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระ
อีกหนึ่งคนที่ไม่ใช่ผีแต่สร้างปัญหาให้อย่างมาก คือ อาไหว (รับบทโดย Billy Lau) เป็นนักแสดงตลกที่ถูกจ้างมาเพื่อสร้างสีสัน เรียกเสียงหัวเราะโดยเฉพาะ ตำแหน่งหน้าที่คือพนักงานสืบสวนสอบสวน แต่กลับไม่สนหลักฐาน มโนข้อกล่าวหา ปลักปรำคนดีให้ต้องติดคุกติดตาราง แต่เพราะยังเป็นมนุษย์(อยู่บ้าง)เลยรอดพ้นไม่ถูกปราบกำจัด แต่ก็น่าจะโดนไล่ออกจากงานให้สาสมนะ … รอดตัวไปถึงตอนจบได้ยังไงก็ไม่รู้!
รวมๆแล้วแทบทุกตัวละครในหนังเรื่องนี้เปรียบได้กับ Mr. Vampire ผีดิบที่จ้องคอยแต่จะสูบเลือดสูบเนื้อสูบวิญญาณผู้อื่น มิสามารถพึ่งพาเอาตัวรอดได้ด้วยตนเอง ต้องอาศัยผู้อื่นให้การช่วยเหลือแทบจะตลอดเวลา
ผมพยายามมองหาสาระของหนังนอกเสียจากความบันเทิง ก็คงประมาณนี้กระมัง … พบเห็นความไม่เอาอ่าวของตัวละครทั้งหลาย จดจำแล้วอย่าลอกเลียนแบบตาม พยายามเป็นให้ได้แบบอาจิ่ว รอบรู้ มากความสามารถ เป็นที่พึ่งพาได้ ไม่เห็นแก่ตัว และชอบช่วยเหลือผู้อื่น
ทุนสร้างตั้งต้นของหนังคือ HK$ 4.5 ล้านเหรียญ แต่เพราะความไร้ประสบการณ์ของผู้กำกับ ทำให้สุดท้ายงบบานไปถึง HK$ 8.5 ล้านเหรียญ แต่เพราะทำเงินได้ HK$20 ล้านเหรียญ สูงอันดับ 4 ของปี รองจาก My Lucky Stars, Police Story, Heart of Dragon (สามเรื่องนี้นำแสดงโดย เฉินหลง กับ หง จินเป่า) กลายเป็นประสบความสำเร็จล้นหลาม มีภาคต่อตามมานับไม่ถ้วนเลยละ
ได้เข้าชิง Hong Kong Film Award ถึง 12 สาขา คว้ามา 1 รางวัล
– Best Film
– Best Director
– Best Supporting Actor (Billy Lau)
– Best Supporting Actor (Lam Ching-ying)
– Best New Performer (Billy Lau)
– Best Screenplay
– Best Cinematography
– Best Film Editing
– Best Art Direction
– Best Action Direction
– Best Original Film Score ** คว้ารางวัล
– Best Original Film Song บทเพลง Gwai San Neung
เรื่องที่คว้ารางวัลใหญ่ปีนั้นคือ Police Story (1985) วิ่งสู้ฟัดของเฉินหลง
ผมเคยชื่นชอบ ผีกัดอย่ากัดตอบ มากๆเลยนะ อาจเพราะสมัยก่อนดูหนังแบบไม่ค่อยครุ่นคิดอะไร สนเพียงความบันเทิงสนุกสนานสำราญ แต่ปัจจุบันเมื่อมีความรู้เข้าใจศาสตร์ภาพยนตร์เพิ่มขึ้น ค้นหาสาสน์สาระเนื้อในอะไรไม่ค่อยได้ หัวเราะเพียงอย่างเดียวมันช่างไร้สาระไปเสียหน่อย นี่แปลว่ากาลเวลาค่อยๆลดทอนคุณภาพหนังลงเรื่อยๆด้วยสินะ
แนะนำคอหนัง Action Comedy Horror, ชื่นชอบศิลปะการต่อสู้ (Martial Arts), สนใจตำนานความเชื่อเรื่องผีๆของจีน, แฟนๆ หลิน เจิ้งอิง, เฉิน เสี่ยวโห่ว, ริกกี้ ฮุย ไม่ควรพลาดเลย
จัดเรต 13+ กับพฤติกรรมงี่เง่าของลูกศิษย์ ตัวละครต่างๆ และความชั่วร้ายของผี
Leave a Reply