Munna Bhai M.B.B.S.

Munna Bhai M.B.B.S. (2003)

ผลงานกำกับหนังเรื่องแรกของผู้กำกับ pk และ 3 Idiots Rajkumar Hirani การันตีความยอดเยี่ยมด้วยรางวัล National Film Award สาขา Best Popular Film นี่เป็นเรื่องราวของมาเฟียที่ต้องการเป็นหมอ เขาจะเป็นได้หรือไม่ หนังตลกแนวเสียดสีและตั้งคำถามว่า “หมอ” คืออะไร

ใครเคยดู Patch Adam ของ Robin William คงจะรู้สึกคุ้นๆ หนังได้แรงบันดาลใจส่วนหนึ่งมาจากหนังเรื่องนี้ โดยใส่ความเป็น bollywood เข้าไป จึงมีความสนุก รสชาติที่แตกต่าง ด้วยสไตล์ของ Rajkumar Hirani ที่เชื่อว่าใครดู pk กับ 3 Idiots แล้วมาดูเรื่องนี้จะเห็นความชัดเจนถึงแนวทางการทำหนังของเขา การเสียดสีที่สะท้อนแนวคิดที่แตกต่าง แล้วทิ้งให้เราไปขบคิดต่อเอง และกับคนสายวิชาชีพนั้นๆ คงจะได้ย้อนมองดูตัวเอง ว่าเป็นจริงตามที่หนังเสียดสีมาหรือเปล่า

เดิมทีนั้น Rajkumar ไปต้องการให้ Shar Rukh Khan มารับบทนำ แต่ขณะนั้นเหมือนว่า Shar Rukh Khan จะปวดหลังจะไม่สามารถมาเล่นได้ Sanjay Dutt ที่ได้รับเลือกให้เล่นอีกบทหนึ่ง ก็เปลี่ยนมารับบทนำ โดยได้ Vivek Oberoi มาเล่นบทสมทบ Sanjay Dutt เป็นลูกของ Sunil Dutt กับ Nargis คนหลังคงรู้จักดี ผมเคยให้ฉายา Nargis ว่าเป็น Noriko แห่ง bollywood ในหนังมีบทรับเชิญเล็กๆให้กับ Sunil Dutt พ่อของ Sanjay ด้วย โดยเขาเล่นเป็นพ่อของตัวละคร Sanjay (เอาพ่อจริงมาเล่นเป็นพ่อในหนัง) เอาจริงๆผมไม่คิดว่า Sanjay Dutt ด้วยหน้าตาของเขาจะเล่นเป็นพระเอกได้ แต่นี่เป็นหนังที่พระเอกไม่จำเป็นต้องหล่อ แต่มีพลังการแสดงที่เหลือล้น มีตัวละครมีความน่าดึงดูด ถือว่าใช่ครับ Sanjay เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวทีเดียว มันดูตลกๆนะที่เห็นคนวัยเกือบ 40 ไปนั่งเรียนหนังสือ มีความฝัน อยากเป็นหมอ ถ้าบอกว่าหมอนี่เป็นหัวหน้าแก๊งค์มาเฟีย ใครๆก็เชื่อแน่ แต่นั่นคือความจงใจครับ Vivek Oberoi ถือเป็นพระรองที่คอยสนับสนุนพระเอกสุดๆ เป็นลูกน้อง เพื่อนสนิทและเพื่อนแท้ที่แท้มากๆ เป็นเคมีที่เข้ากันมากๆ มีอีกตัวละครหนึ่ง Boman Irani ที่เป็นอาจารย์ใหญ่ เขาเป็นตัวละครที่คอยแย่งซีนหนังอยู่เรื่อยๆ บุคคลิกของเขาก็ใช่เลย ใครเคยดู 3 Idiots มาแล้ว บทอาจารย์ Virus ก็เขาคนเดียวกันนี่แหละ

Binod Pradhan ตากล้องหนังเรื่องนี้ เห็นว่าเขาเป็นลูกครึ่งเนปาลกับอินเดีย เป็นช่างภาพมือรางวัล ใครเคยดู Rang De Basanti แล้ว มุมภาพแปลกๆก็จากฝีมือตากล้องคนนี้นี่แหละ สำหรับ Munna Bhai อาจจะไม่มีมุมกล้องที่หวือหวานัก แต่เราก็เห็นการเคลื่อนกล้องแปลกๆในช่วงร้องเล่นเต้น มีเอียงกล้อง 45 องศาถ่ายขึ้นถ่ายลง ส่ายกล้องไปมาเหมือนคนเมา ตัวละครเต้นไปทางซ้าย กล้องเคลื่อนไปทางซ้าย (เคลื่อนที่ตามตัวละคร) มันทำให้เราเห็นเหมือนตัวละครไม่เคลือนที่ไป แต่ฉากหลังมันเคลื่อนไหว เป็นความรู้สึกที่แปลกดีนะครับ

ตัดต่อโดย Pradeep Sarkar และ Rajkumar Hirani นี่ก็ไม่ค่อยเด่นเท่าไหร่ แต่มีความลงตัวที่ไม่เวิ่นเว้อเท่าไหร่ ผมดูหนังของ Rajkumar มาครบทุกเรื่องแล้ว พบว่าหนังของเขามีการตัดต่อที่ลงตัวทุกเรื่อง ไม่มีฉากไหนที่เวิ่นเว้อเลย อาจจะมีเพลงประกอบที่ไม่เพราะบ้าง เช่นเรื่องนี้ ผมรู้สึกเพลงประกอบไม่เพราะเลย แต่งโดย Anu Malik จริงๆเขาคนนี้ก็ดังอยู่นะครับ ทำเพลงมาตั้งแต่ 1977 แต่กับหนังเรื่องนี้ไม่ใช่ดนตรีไม่เพราะ แต่เนื้อเพลงมันปั้นแต่งเกินไป ผมเข้าใจนะว่าแต่งเพลง เนื้อร้องมันต้องเข้ากับเรื่องราวช่วงนั้นๆ แต่เมื่อผสมกับดนตรีแล้วรู้สึกมันไม่เข้ากัน เพลงไม่ติดหูด้วย และพอมาให้ Sanjay Dutt เต้น จบกัน นักแสดงบางคนไม่ได้เกิดมาเพื่อเต้น ดูแล้วแปลกๆ หน้าไม่ให้ (ผู้กำกับคงจงใจละมั้ง) ก็ชื่นชมในความพยายามนะ ไม่แน่หลายคนอาจจะชอบก็ได้ เพลงที่ผมฟังแล้วน่าจะโอเคที่สุด(ละมั้ง) ก็เพลงนี้

ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยรู้รายละเอียดของหนังก่อนดู เรื่องย่อก็ไม่รู้ หนังเปิดมาทีแรกนึกว่าจะเป็นหนัง Action มีฉากวิ่งไล่กัน แต่ไปๆมาๆ กลายเป็นหนังตลกเสียดสีไปนั่น ผมชอบไอเดียช่วงแรกมากที่ ตัวเองเป็นมาเฟียที่หลอกที่บ้านว่าจบหมอ เมื่อพ่อแม่มาเยี่ยมเขา ก็สั่งให้ลูกน้องปลอมตัวเป็นคนไข้ เปลี่ยนที่อยู่ให้เป็นโรงพยาบาล มันเจ๋งมากๆเลย แบบว่าถ้าจะหลอกใครสักคน คุณต้องทำให้มันได้ที่สุดแบบนี้ แต่สุดท้ายความจริงถูกจับได้ เมื่อพ่อของเขาได้พบกับหมอจริงๆ และรู้ว่าลูกชายไม่ได้เรียนจบหมอ พ่อแม่เขาเลยเสียใจมากๆ ผมชอบวัฒนธรรมนี้ของคนอินเดียนะ คือลูกพยายามทำทุกอย่างไม่ให้พ่อแม่เสียใจ และเพราะความเสียใจนั้น ทำให้ตัวเอกอยากเป็นหมอขึ้นมาจริงๆ จึงไปสมัครเรียนหมอ แต่มาเฟียวัยกลางคนจะเป็นหมอ มันก็ไม่น่าเป็นไปได้อยู่แล้ว หนังนำพาตัวละครไปจนถึงจุดที่ทำให้ตัวเอกของเรารู้ตัวว่า ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นหมอได้ จุดนี้ผมเห็นด้วยนะครับว่าจริง คนที่จะเป็นหมอต้องมีความรู้สูง แต่ใช่ว่าคนเรียนจบหมอทุกคน จะเป็นหมอที่ดีได้

หนังสะท้อนภาพของโรงพยาบาลออกมาได้น่าสนใจจริงๆ ผมรู้สึกมีความใกล้เคียงกับโรงพยาบาลรัฐของไทยหลายๆแห่ง แต่ผมอยากให้เข้าใจเขาเข้าใจเรานะครับ มันใช่ว่าหมอ พยาบาลทุกคนจะสามารถให้การดูแลผู้ป่วยได้ทั่วถึง มันต้องมีขาดตกบกพร่องได้ เพราะโลกเราไม่ได้มี 1 หมอ ต่อ 1 คนไข้ ผมคุ้นๆเคยได้ยินสถิติอยู่ 1 หมอต่อคนไข้ 1000+ คนต่อปี เยอะขนาดนี้มันจะทั่วถึงได้ยังไง เงินเดือนก็ส่วนหนึ่ง ทำไมหมอไทยพอใช้ทุนรัฐหมด ก็มักจะลาออกไปทำงานโรงพยาบาลเอกชน ก็เพราะมันได้เงินเยอะกว่า คนไข้น้อยกว่า คนไข้เป็นมิตรกว่า การบริการ อุปกรณ์ สวัสดิการดีกว่า ผมชอบประเด็นหนึ่งในหนังนะ คนป่วยใกล้ตายมาถึงโรงพยาบาล เขาจะต้องรอคิวกรอกบัตรก่อนรักษา เจอกับหมอที่เพิ่งออกเวร บอกไม่ใช่หน้าที่เขา เมืองไทยคงไม่มีแบบนี้แล้ว แต่หนังมันก็สะท้อนว่าครั้งหนึ่งมันเป็นเคยเป็นแบบนี้ เราถือว่าโชคดีที่ผ่านยุคนั้นมาแล้วนะครับ

นี่เป็นหนังเรื่องแรกในซีรีย์ Munna Bhai ของ Rajkumar Hirani และ Sanjay Dutt นะครับ พรุ่งนี้ผมจะมารีวิวเรื่องที่ 2 ซึ่งไม่ได้มีความต่อเนื่องอะไรกันเลย แค่เพียง recycle ตัวละครเดิมเท่านั้น เห็นว่าคิดจะสร้างภาค 3 อยู่ แต่ Sanjay Dutt ติดคุกอยู่เลยยังสร้างไม่ได้ ต้องรอให้พี่แกออกมาก่อน (สาเหตุที่ Sanjay Dutt ติดคุกอยู่นั้น เพราะเขาเคยถูกกล่าวหาว่าเป็นคนให้ที่พักพิงแก่กบฎที่ต่อต้านรัฐบาลอินเดียในช่วงยุค 1980-1990 เรื่องมันก็จบไปนานแล้ว แต่โทษยังคงอยู่ เห็นว่า Sanjay Dutt ขอเลื่อนรับโทษมาหลายรอบ หลังจากเคลียร์งานการแสดงเสร็จก็เข้าไปรับโทษ ว่าจะออกปีนี้หรือปีหน้า ไม่น่านานเกินรอนะครับ)

นี่เป็นหนังที่ผมชอบน้อยที่สุดของ Rajkumar Hirani นะครับ คงเพราะเพลงประกอบนะแหละ ที่ฟังแล้วขัดหูมากๆ แต่เรื่องราวแบบนี้ก็ถือว่ามีการนำเสนอที่ยอดเยี่ยมมากๆ เห็นว่าหนังทำเงินระดับ Blockbuster เกิน 100 crore ถือว่าประสบความสำเร็จมาก จุดที่หนังอยากนำเสนอก็ทำออกมาได้ยอดเยี่ยม ลงตัวสุดๆ อยู่ในระดับชอบแต่ไม่หลงรัก จะมีก็แต่ 2 ตัวละครของ Sanjay Dutt และ Vivek Oberoi ที่รับส่งบทกันได้เยี่ยมมากๆ ถ้าไม่ได้สองคู่หูนี้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหนังจะออกมาแบบนี้ได้หรือเปล่า

นี่เป็นหนังที่ดี และดูสนุกเรื่องหนึ่ง ผมอยากแนะนำให้คนที่อยากเรียนสายหมอ แพทย์ พยาบาลดูหนังเรื่องนี้ จะได้เข้าใจความรู้สึกของคนไข้ที่เรามารักษา เพื่อตอบคำถามหนึ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณให้ได้ว่า “ทำไมคุณอยากเป็นหมอ” กับคำตอบที่ว่า “ฉันอยากช่วยเหลือคนเจ็บ” นี่เป็นคำตอบแบบเด็กๆที่เป็นรูปธรรมมากๆ และถ้าถามต่อว่า “แล้วถ้าคนเจ็บนั้นไม่มีเงินรักษา คุณต้องออกค่าใช้จ่ายให้เขา คุณจะยังรักษาเขาหรือเปล่า”

คำโปรย : “Munna Bhai M.B.B.S. หนังของ Rajkumar Hirani นำแสดงโดย Sanjay Dutt ใครอยากเป็นหมอ พยาบาลแนะนำให้ดูเรื่องนี้ หนังสะท้อน เสียดสีอาชีพหมอได้อย่างเจ็บแสบ พร้อมกับตั้งคำถามให้กับคนที่เป็นหมอว่า ‘หมอคืออะไร'”
คุณภาพTHUMB UP
ความชอบ : LIKE

Leave a Reply

avatar

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

  Subscribe  
Notify of
%d bloggers like this: