Tengen Toppa Gurren Lagann
เตะเหตุผล ตรรกะต่างๆทิ้งไปก่อนจะดูอนิเมะซีรีย์เรื่องนี้ คนที่ไม่ชอบอนิเมะแนว robot ให้ลองเสี่ยงดูสัก 8-10 ตอน แล้วคุณจะหยุดดูไม่ได้ เพราะนี่เป็นอนิเมะแนว Extreme Action ที่ทำให้หัวใจคุณเต้นแรงจนผิดปกติ กับตอนจบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล
ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยไม่ชอบอนิเมะแนว robot นะครับ เพราะคิดว่ามันมีแต่อนิเมะขายหุ่นแบบ Gundam ไม่น่าสนุกแน่ อนิเมะ robot เรื่องแรกที่ผมดูคือ Code Geass ทำให้ความคิดผมเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง คงเพราะเรื่องนั้นมันเป็น robot แนว surreal ที่จับต้องได้ ไม่ใช่ fantasy จ๋าแบบที่ผมเคยดูในทีวีสมัยก่อน แปลงร่าง ประกอบร่าง บินไปรอบจักรวาลแบบ Transformer ได้ ไม่ใช่เลยครับ Code Geass มัน Drama, Politic ที่หนักมาก …. เดี๋ยวก่อนวันนี้พูดถึง Gurren Lagann นะครับ ผมเคยดู Gurren Lagann ครั้งแรกดูไม่จบครับ ดูไปประมาณ 7-8 ตอนได้ เพราะเนื้อเรื่องมันเชยๆ และตรรกะมันแปลกๆ เห็นใน pantip พูดถึงกันมากและก็ไม่เข้าใจว่าความยิ่งใหญ่ของอนิเมะเรื่องนี้คืออะไร จนกระทั่งผมได้ดูคลิปหนึ่ง เป็นคลิปที่เปรียบเทียบขนาดความใหญ่ของ robot ในอนิเมะแนวนี้ทั้งหมด ก่อนนั้นผมก็บ้าดูอนิเมะ robot อยู่หลาย 10-20 เรื่อง ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยชอบ ก็พอๆไล่ขนาดหุ่นจากคลิปนี้ได้หลายตัวอยู่ แต่คลิปนี้มันเซอร์ไพรส์ผมรุนแรงมาก โดยเฉพาะช่วงท้าย เห้ยมันจะใหญ่ไปไหนฟร่ะ! หุ่นตัวสุดท้ายมันใหญ่กว่าจักรวาลอีกนะ อนิเมะเรื่องอะไรกันที่มีหุ่นใหญ่ขนาดนั้น ใช้ตรรกะอะไรในการคิดเนื้อเรื่องหว่านี่! ก็พบว่า หุ่นนั้นมาจากอนิเมะเรื่อง Tengen Toppa Gurren Lagann ลองดูคลิปนะครับ
คลิปนี้เพลงประกอบอลังการมาก มันคือเพลงจาก Gurren Lagann นั่นเองนะครับ ทั้ง 2 เพลงเลย
จุดเริ่มต้นของอนิเมะเรื่องนี้ เกิดจากการร่วมมือระหว่าง Aniplex กับ Konami และมี Gainax ร่วมในขั้นตอนการสร้าง ผู้กำกับ Hiroyuki Imaishi ที่มีความชื่นชอบอนิเมะ robot มาก หลังจากเคยร่วมงานกับ Kazuki Nakashima มาครั้งหนึ่งก็มอบมายให้เขาเขียนบทขึ้นมาได้ 27 ตอน ซึ่งเขาเขียนบทเสร็จก่อน production จะเริ่มเสียอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่หาได้ยากในการผลิตอนิเมะของญี่ปุ่น (ที่มักจะเขียนบทไปสร้างไป อนิเมะบางเรื่องเริ่มฉายแล้วยังไม่มีตอนจบเลย) ก่อนที่ production จะเริ่ม Imaishi ก็มีเวลาเหลือไปทำ research ตัวละคร และใส่แนวคิดเพิ่มเติมได้อีกพอสมควรเลย โดยเฉพาะ Drill ที่ถือเป็นอาวุธหลักของเรื่อง เป็นแนวคิดที่แปลก และการออกแบบให้ robot มีความเป็น organic มากกว่าเป็น mecha แต่ดูแล้วมีความซับซ้อนกว่ามาก หุ่นแต่ละตัวเกิดจากการผสมผสานกับหุ่นตัวอื่น และหุ่นตัวสุดท้าย Tengen Toppa Gurren Lagann เป็นผลลัพธ์ของส่วนผสมของหุ่นทุกตัวที่วิวัฒนาการขึ้น
ว่ากันเรื่องความใหญ่ ก่อนหน้าที่จะเกิด Tengen Toppa Gurren Lagann ขึ้น หุ่นที่ครองแชมป์ความใหญ่ที่สุด จากอนิเมะเรื่อง Getter Robo ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจให้ Gurren Lagann พอสมควร โดยเฉพาะช่วงท้ายที่ robot ตัวใหญ่ขึ้นอย่างไร้เหตุผล
ตัวละคร Simon เอง ว่ากันว่าเป็นส่วนผสมของ Shinji Ikari จาก Neon Genesis Evangelion ตัว Yoko คล้ายกับ Noriko Takaya จาก Gunbuster และ Kamina คล้ายกับ Ken Kubo จาก Otaku no Video ในบรรดา 3 ตัวละครนี้เชื่อว่าหลายคนคงชอบ Kamina ที่สุดแล้ว เพราะเป็นตัวละครแรกที่มีความเท่ห์ที่สุด ในขณะที่ Simon นั้นเป็นเหมือนเด็กอมมือ ที่มี Kamina เป็น Idol เหตุผลที่ผมหยุดดูอนิเมะเรื่องนี้ก็เพราะ ผมเข้าใจผิดมาตลอดเลยว่าใครเป็นพระเอก จนกระทั่งถึงตอนที่ 7-8 ที่รู้ว่านี่เป็นตัวละครที่เกิดมาเพื่อส่งไม้ต่อให้กับ Simon ตอนนั้นผมไม่คิดว่า Simon จะสามารถไปถึงจุดที่หนังต้องการได้ ตอนกลับมาดูอีกครั้ง ผมก็คิดไม่ถึงทีเดียวว่า Simon จะสามารถไปถึงจุดๆนั้นได้ Tetsuya Kakihara ผู้พากย์เป็น Simon เขาให้เสียง Natsu จาก Fairy Tail ด้วย ผมชอบเสียงติ๋มๆในช่วงแรกๆนะ มันบ่งบอกลักษณะนิสัยของตัวละครได้เป็นอย่างดี และเมื่อตัวละครพัฒนาขึ้น เสียงของเขาก็เริ่มหนักแน่น มีพลัง จนกระทั่งตอนจบที่ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก Kamina พากย์โดย Katsuyuki Konishi หนึ่งในนักพากย์ที่งานยุ่งมากๆคนหนึ่ง เขาไม่ค่อยได้พากย์บทนำสักเท่าไหร่ เน้นเป็นตัวประกอบ ผู้ช่วยพระเอก เสียงของเขาเกิดมาเพื่อบท Kamina จริงๆ เห็นว่าจากบทพากย์นี้ทำให้เขาได้รางวัล Best Supporting Actor Award จาก Annual Seiyū Awards ด้วย Marina Inoue พากย์ Yoko เสียงเธอจะออกห้าวๆหน่อย แต่บางทีก็พากย์ผู้ชายที่ออกติ๋มๆหน่อยอย่าง Armin ใน Shingeki no Kyojin มีอีกตัวละครหนึ่งที่ต้องพูดถึงเลย Viral พากย์โดย Nobuyuki Hiyama เสียง Hiei จาก YuYu Hakusho ไม่ว่าจะผ่านมาเกือบสิบปีแล้ว แต่ Hiyama มักจะได้พากย์ตัวละครที่เคยเป็นฝ่ายร้ายกลายมาเป็นฝ่ายดี Viral เป็นตัวละครที่เปิดมาด้วยการเป็นศัตรู แต่เมื่อได้สู้กันไปมา ช่วงหลังๆเขาก็เป็นกำลังสำคัญให้กับกลุ่มพระเอก เป็น 1 ใน 7 ตัวละครสุดท้ายที่สู้กับ last boss
งานออกแบบเป็นอะไรที่แปลก แตกต่าง และถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของอนิเมะญี่ปุ่นเลย หลายคนเห็นภาพวาดแบบนี้แล้วขอผ่านทันที แต่ผมจะบอกว่า เพราะเนื้อเรื่องมันแบบนี้ ภาพวาดเลยต้องออกมาแบบนี้ การใช้สีสันที่ฉูดฉาด ฉาก service ที่ตัวละครนุ่งน้อยห่มน้อย เพื่อขายได้ทั้งชายหญิง ดูแล้วมันไม่เกิดอารมณ์อะไรหรอครับ เพราะสไตล์การวาดที่ นู๊ดคือศิลปะ สำหรับผมความรู้สึกของภาพมันเหมือนกันเล่นสีน้ำละเลงไปทั่วทั้งฉาก สไตล์การออกแบบที่เน้นเฉดสีสด เข้ม ไม่เน้นเทา (แทบจะไม่เห็นสีเทาหรือสีเงาเลย) โทนสีเราจะเห็นแดงเป็นหลัก สีแดงคือสีเลือด สีของการต่อสู้ ดูไปสัก 3-4 ตอนก็จะเริ่มชินกับงานภาพแบบนี้นะครับ ของเด็ดเลยคือตอน 15 ซึ่งถือเป็นความท้าทายที่สุดของอนิเมะเรื่องนี้คือ ตอนที่ 15 ซึ่งถือเป็นตอนจบของครึ่งแรก เนื่องจากมีฉากที่ต้องวาดมากที่สุดในเรื่อง ใครที่ได้ดูตอนนี้เลยคงจะรู้สึกทึ่งในเทคนิคที่ใช้เป็นอย่างมาก การเคลื่อนไหวที่ดูบ้าคลั่ง รวดเร็ว จนเริ่มดูไม่รู้เรื่อง ขนาดว่าทีมงาน animator ที่ชื่อ Sushio เรียกตัวเองว่า “super animator” เพราะต้องปั่นงานตอนนี้ให้เสร็จ ซึ่งมันก็ art เว่อๆเลยละครับ
เพลงประกอบโดย Taku Iwasaki เขากลายเป็นอีกหนึ่งตำนานของวงการเพลงญี่ปุ่นนะครับ ถ้ายังจำกันได้เขาทำเพลงให้ Gatchaman Crown ด้วย ความยิ่งใหญ่ของ Gurren Lagann มาจากเพลงประกอบด้วยส่วนหนึ่ง เสียง chorus ที่โหยหวนเป็นภาษาละติน เสียงร้องภาษาอังกฤษ ราวกับอยู่ในโรง opera แล้วดูการแสดงอยู่ เพลง Libra Me กับอนิเมะตอน 27 เป็นอะไรที่ขนลุกซู่เลยละครับ แถมความหมายในเพลงก็เข้ากับเรื่องราวสุดๆเลย
op/ed ก็ใช่ย่อยนะครับ เห็นว่า Taku Iwasaki ใช้ Theme หลักของเพลงแต่งทำนองขึ้นมา 4 เพลง เป็น 1op/ 3ed เราจึงมีความรู้สึกคุ้นเคยกับเพลงกับดนตรีในอนิเมะมากๆ สำหรับ op ที่ใช้แค่เพลงเดียว แต่มีการใช้ท่อนแรกกับท่อนหลัง เผื่อคนไม่สังเกตนะครับ ครึ่งหลังนับจากตอนที่ 17 จะใช้เพลง op เดิมแต่เป็นท่อนหลัง ส่วน ed 3 เพลง เปลี่ยน ณ เหตุการณ์สำคัญ 3 เหตุการณ์ในหนัง
สิ่งที่แฝงมาในอนิเมะเรื่องนี้ เชื่อว่าเป็นอะไรที่คนส่วนมากจะเข้าใจได้ คือการต่อสู้กับเผด็จการ หรือผู้มีอำนาจมากกว่า เริ่มต้นคล้ายกับกบในกะลา แต่มนุษย์อยู่ใต้ดิน Drill เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ เพื่อให้หลุดพ้นจากกรอบที่เคยเป็นอยู่ จากจุดเริ่มต้นเล็กๆแค่นี้ มันจะยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนไปถึงจุดสุดท้าย Tengen Toppa ซึ่งแปลว่า Pierce Heaven (แทงทะลุสวรรค์) การออกแบบ Gurren Lagann ก็คำนึงถึงจุดนี้ มีเสี้ยวพระจันทร์อยู่ที่หัว ส่วนที่ตัวก็มีเหมือนรูปดาวเป็นจุดเด่น กระนั้นอนิเมะก็สะท้อนถึงชัยชนะที่ได้มามันย่อมแลกมาด้วยการเสียสละหลายๆอย่าง และมีบางสิ่งบางอย่างที่อยู่เหนือกว่าชัยชนะ ผมชอบมุมเล็กหลังจบครึ่งแรก ส่วนผสมของการเมือง ยุคสมัยหลังจากสงคราม การต่อสู้หาได้สิ้นสุดไม่ เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบจากการต่อสู้โดยใช้กำลัง เป็นการใช้สมอง คนบางคนเหมาะกับการต่อสู้มากกว่า บางคนเหมาะกับการปกครองมากกว่า ถึงกระนั้นการต่อสู้จะยังไม่สิ้นสุด…เหนือกว่าโลกยังมีระบบสุริยะ ใหญ่กว่าระบบสุริยะยังมีกาแลคซี่ เหนือกว่ากาแลคซี่คือจักรวาล ก่อนที่เราจะไปถึงจุดสุดท้าย เราต้องสำรวจตัวเองและเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของตัวก่อน การต่อสู้ที่เหมือนจะไม่มีความหมายอะไร แต่อะไรทำให้คนยังสู้อยู่ และสำหรับ last boss เป็นแนวคิดที่เจ๋งมาก ผมชอบวิธีการนำเสนอตัวละครนี้ออกมาด้วย สิ่งที่ยับยั้งพัฒนาการของมนุษย์ก็คือมนุษย์ด้วยกันเอง
Hiroyuki Imaishi จงใจเขียนตอนจบแบบนี้เพื่อกันภาคต่อ เพื่อให้อนิเมะจบสมบูรณ์ แต่กระนั่นหลังจากทำอนิเมะเสร็จ เขาก็วางแผนที่จะทำเวอร์ชั่นหนังโรงทันที เพราะตอนจบมี 2 แนวคิดที่ยอดเยี่ยมมากๆ ผมดูเวอร์ชั่นที่เป็นหนังโรงแล้ว ฉากสู้กับ last boss ตอนจบต่างกันจริงๆครับ เป็นอีกแนวคิดที่น่าทึ่งมากๆ คือมันสามารถใหญ่กว่าในซีรีย์ได้อีกแหะ เป็นผมก็เลือกไม่ได้ครับว่าอยากให้จบแบบไหน ชอบทั้งสองอย่างเลย
เตะตรรกะทุกอย่างทิ้งไป อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ในอนิเมะเรื่องนี้ เพลงเพราะๆ งานภาพที่สวยแปลกๆ นี่เป็นอนิเมะบ้าพลังที่สร้างขึ้นมาเพื่อคนบ้า robot โดยเฉพาะ แต่กับคนที่ไม่ได้ชอบอนิเมะแนวนี้มาก นี่เป็นอนิเมะที่ให้หัวใจคุณเต้นแรง เลือดสูบฉีด ความดันขึ้น จบแล้วไม่อยากให้มันจบ ต้องหาเพลงมาฟัง อาจจะหาฟิกเกอร์มาสะสม ไม่มีอนิเมะเรื่องไหนอีกแล้วที่สร้างความรู้สึกบ้าคลั่งได้ขนาดนี้ มันยิ่งใหญ่จริงๆนะครับ คออนิเมะถ้าพลาดเรื่องนี้ไปนี่เสียชาติเกิดจริงๆ
คำโปรย : “เตะตรรกะทุกอย่างทิ้งไป แล้วสนุกกับมัน Tengen Toppa Gurren Lagann นี่คืออนิเมะแนว robot ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล พลาดแล้วเสียชาติเกิดแน่นอน”
คุณภาพ : SUPERB
ความชอบ : LOVE
Leave a Reply