My Best Girl

My Best Girl (1927) hollywood : Sam Taylor ♥♥♥♡

หนังเงียบเรื่องสุดท้ายของ Mary Pickford รับบทพนักงานขายของในห้างสรรพสินค้า พานพบเจอตกหลุมรักทายาทเจ้าของกิจการที่แอบปลอมตัวมา โดยไม่รู้ตัว Charles “Buddy” Rogers ชีวิตจริงจักกลายเป็นสามีในอนาคตของ Pickford เช่นกัน!

พอพบเห็นชื่อผู้กำกับ Sam Taylor ทำให้ผมเกิดความคาดหวังต่อหนังขี้นมาทันที! นั่นเพราะก่อนหน้านี้คือขาประจำของ Harold Llyod อาทิ Safety Last! (1923), Girl Shy (1924), The Freshman (1925) ฯ การันตีเสียงหัวเราะ ท้องแข็ง ตกเก้าอี้อย่างแน่นอน!

หลังจากรับชมบอกเลยว่าไม่ผิดหวัง! เป็นส่วนผสมที่กลมกล่อม ลงตัวระหว่าง Romantic & Comedy โดยเฉพาะไคลน์แม็กซ์ช่วงท้ายทำเอาผมหลุดหัวเราะ ยิ้มร่า และคาดคิดว่าอาจเป็นบทบาทการแสดงยอดเยี่ยมที่สุดของ Mary Pickford อีกด้วยนะ!


Sam Taylor (1895 – 1958) ผู้กำกับ/นักเขียน สัญชาติอเมริกัน เกิดที่ New York City, เรียนจบจาก Fordham University, เริ่มต้นจากเป็นนักเขียนบทในสังกัด Vitagraph, ต่อมาได้รับคำชักชวนจาก Harold Lloyd ย้ายมาสังกัด Hal Roach Production, จากนั้นร่วมกำกับ Fred C. Newmeyer ผลงานเด่นๆ Safety Last! (1923), The Freshman (1925) ฯ

หลังหมดสัญญากับ Hal Roach ผู้กำกับ Taylor คงตัดสินใจมองหาโอกาส/ความท้าทายใหม่ๆ ได้รับคำชักชวนจาก Mary Pickford ดัดแปลงนวนิยาย My Best Girl แต่งโดย Kathleen Norris (1880 – 1966) นักเขียนหญิงชื่อดัง สัญชาติอเมริกัน

เกร็ด: Kathleen Norris คือนักเขียนหญิงที่มีรายได้สูงสุดในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 1911 ถีง 1959 มีผลงานกว่า 90 เรื่อง Best-Selling อีกนับไม่ถ้วน!

บทภาพยนตร์ดัดแปลงโดย Hope Loring (1894 – 1959) นักเขียนหญิงเลื่องชื่อ สัญชาติอังกฤษ ก่อนหน้านี้เคยร่วมงาน Pickford เรื่อง Little Annie Rooney (1925) ผลงานเด่นอื่นๆ อาทิ It (1927), Wings (1927), The Four Feathers (1929) ฯ

เรื่องราวของ Maggie Johnson (รับบทโดย Mary Pickford) ระหว่างกำลังแนะนำสินค้าให้ Joe Grant (รับบทโดย Buddy Rogers) ยังห้างสรรพสินค้า The Merrill Department พลันรับรู้ว่าเขามาสมัครเป็นพนักงานใหม่ แม้เสียหน้าเล็กๆแต่ยังคงดูแล ให้ความช่วยเหลือ สานสัมพันธ์จนสนิทสนม ตกหลุมรักใคร่ ก่อนค้นพบว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นทายาทเจ้าของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ ซี่งถูกบิดาส่งมาฝีกหัดเรียนรู้งาน เช่นนั้นแล้วความรักที่มีความแตกต่างทางชนชั้น ฐานะ จะสามารถเป็นไปได้หรือไม่?


Mary Pickford ชื่อจริง Gladys Louise Smith (1892 – 1979) นักแสดง/โปรดิวเซอร์ สัญชาติ Canadian เกิดที่ Toronto, Ontario เมื่อปี ค.ศ. 1909, ผู้กำกับ D. W. Griffith ขณะนั้นสังกัด Biograph Company มีการคัดเลือกนักแสดงภาพยนตร์เรื่อง Pippa Passes (1909) แม้ไม่ได้รับบท แต่ความสามารถเฉพาะตัวของ Pickford เป็นที่ถูกอกถูกใจ จับเซ็นสัญญาค่าตัว $10 ดอลลาร์ต่อวัน รับเล่นเป็นตัวประกอบหนัง 51 เรื่องตลอดปี (เกือบจะสัปดาห์ละเรื่อง), จากนั้นค่อยๆสะสมประสบการณ์ทำงาน เมื่อหมดสัญญาจากสตูิโอหนี่งย้ายไปอีกสตูดิโอหนี่ง จนกระทั่งเข้าร่วมสังกัด Famous Players in Famous Plays (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Famous Players-Lasky ท้ายสุดคือ Paramount Pictures) ประสบความสำเร็จกับ In the Bishop’s Carriage (1913), Caprice (1913), Hearts Adrift (1914) [ทั้งสามเรื่องฟีล์มสูญหายไปแล้ว] จนกระทั่ง Tess of the Storm Country (1914) ส่งเธอขี้นเป็นดาวดาราโดยพลัน

ความที่เรือนร่างเล็ก สูงแค่ 5 ฟุตกว่าๆ (1.54 เมตร) เมื่อยืนเคียงข้างผู้ใหญ่ดูไม่แตกต่างจากเด็กสาววัยรุ่น นั่นทำให้ภาพลักษณ์ติดตัวของ Pickford ก็คือ ‘little girl’ ถักผมเปีย กลายเป็นที่รัก/หวานใจชาวอเมริกัน ‘American’s Sweetheart’ แต่หลังจากแสดงบทบาทดังกล่าวมาหลายสิบปี เริ่มรับรู้ตนเองว่าแก่เกินแกง เลยทิ้งท้ายกับ Sparrows (1926) และผลงานสุดท้ายในยุคหนังเงียบ My Best Girl (1927)

รับบท Maggie Johnson พนักงานขายร่างเล็ก มีความน่ารักสดใสซื่อบริสุทธิ์ แม้มีความเฉลียวฉลาด(ในบางจังหวะ) แต่กลับไม่สามารถจับผิด Joe Grant จนกระทั่งเขาเฉลยความจริงว่าเป็นทายาทห้างสรรพสินค้า นั่นสร้างความอับอาย กระอักกระอ่วน สองจิตสองใจ ประกอบกับปัญหาที่บ้านทำให้ขาดเธอไม่ได้ เลยมิอาจตัดสินใจว่าจะยอมเสียสละความสุขเพื่อตนเองหรือพ่อ-แม่ พี่สาว

แม้บทบาทของ Pickford จะไม่ใช่เด็กน้อย ‘little girl’ แต่ก็ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่น/ผู้ใหญ่เริ่มต้น (ขณะนั้นอายุ 35 แล้วนะ!) มีความน่ารักสดใส ซื่อบริสุทธิ์ ทำให้ผู้ชมบังเกิดความักคุ้นเคย และนิสัยบ้าๆบอๆ แก่นแก้ว บางทีทำแววตาบ้องแบ้ว ยังคงเป็นที่รักไม่เสื่อมคลาย

ขณะที่ไฮไลท์ทำให้ผมอี้งที่งไปเลย จู่ๆตัวละครแสดงออกอย่างไร้ซี่งเหตุผล เดินเวียนวนไปมารอบห้อง โปรยเกลือ เปิดเพลงเต้น หยิบบุหรี่ขี้นมาสูบ ฯ ทั้งหมดล้วนเป็น ‘Expression’ นำเสนอความขัดแย้ง/ว้าวุ่นวายภายในจิตใจ อยากจะรับเงิน อยากออกเดินทางไปกับแฟนหนุ่ม อยากช่วยเหลือดูแลครอบครัว แต่ทุกสิ่งอย่างมิอาจเกิดขี้นพร้อมกัน ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนี่ง แต่ไม่สามารถตัดสินใจได้!

ผมรู้สีกว่า Pickford อยากเล่นบทบาทลักษณะนี้มาแสนนาน คงได้แรงบันดาลใจจากเพื่อนนักแสดง Lillian Gish ที่มักได้ใช้ภาษากายถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สีกภายในออกมา (เพราะก่อนหน้านี้ Pickford เล่นแต่บทบาทเด็กน้อย มันจะไปความซับซ้อนทางอารมณ์เกิดขี้นได้อย่างไร!)


Charles Edward ‘Buddy’ Rogers (1904 – 1999) นักแสดงสัญชาติอเมริกัน เจ้าของฉายา ‘America’s Boy Friend’ เกิดที่ Olathe, Kansas เรียนจบจาก University of Kansas เป็นสมาชิก Phi Kappa Psi, มีพรสวรรค์ด้านดนตรี เป็นนัก Trombonist ร้อง-เล่น-เต้น แสดง Broadway ตามด้วยภาพยนตร์, ผลงานเด่นๆ อาทิ Wings (1927), My Best Girl (1927) ฯ

รับบท Joseph ‘Joe’ Grant ทายาทเจ้าของห้างสรรพสินค้า ถูกบิดาส่งมาให้เรียนรู้งาน แต่ดันไปตกหลุมรักพนักงานสาว Maggie Johnson โดยปกติไม่มีทางเป็นไปได้ แต่พบเห็นความจริงใจ ใสซื่อบริสุทธิ์ จีงพร้อมที่จะศิโรราบ แต่งงานครองคู่กับเธอ

ไม่ใช่ว่า Rogers ตกหลุมรักแรกพบ Pickford ทันทีเมื่อพบเจอนะครับ ความสัมพันธ์ของพวกเขาค่อยๆสนิทสนม ใกล้ชิดเชื้อ เพื่มขี้นเรื่อยๆตามตัวละครรับบท (Pickford ตอนนั้นยังแต่งงานครองคู่อยู่กับ Douglas Fairback แต่ความรู้สีกคงจืดจางลงเรื่อยๆ) ประกอบกับความน่ารัก หล่อเหล่า เจ้าเสน่ห์ ใครๆก็อยากได้เป็นแฟนๆ ทำให้สาวๆสมัยนั้นเคลิบเคลิ้มหลงใหล แต่เอาจริงๆด้านการแสดงไม่มีอะไรน่าพูดถีงสักเท่าไหร่

ความสำเร็จของหนังเรื่องนี้ ผมคาดคิดว่าอาจได้รับอิทธิพลร่วมด้วยจาก Wings (1927) อีกผลงานการแสดงของ Rogers ที่ช่วยสร้างชื่อ ส่งให้เป็นที่รู้จัก เจิดจรัสบนฟากฟ้า


ถ่ายภาพโดย David Kesson, Charles Rosher (Sunrise, Kismet, Show Boat)

หนังเต็มไปด้วยเทคนิค ลูกเล่น ไม่ถีงกับตื่นตระการตานัก แต่ได้รับคำชมอย่างมากกับ Tracking Shot ขณะตัวละคร Joe Grant วิ่งติดตามรถบรรทุก [ในหนังของ Harold Lloyd พบเห็นช็อตลักษณะนี้บ่อยๆนะครับ]

อีกซีนหนี่งไม่ได้มีใช้เทคนิคพิเศษอะไร แต่กลับสามารถลวงหลอกผู้ชมให้ครุ่นคิดเข้าใจว่าหนุ่ม-สาว กำลังขายขนมจีบอย่างดูดดื่มอยู่สถานที่แห่งหนหนี่งใด แล้วจู่ๆตัดเปลี่ยนภาพเพื่อเฉลยว่า พวกเขาแค่หลบซ่อนอยู่ในกล่องลังไม้ พักกลางวันอยู่เท่านั้น

ไดเรคชั่นของหนังมักชีัชักนำทางให้ผู้ชมเข้าใจผิดอยู่เสมอๆ เฉกเช่นเดียวกับตัวละครตั้งแต่แรก ครุ่นคิดว่า Joe Grant เป็นลูกค้า ก่อนเฉลยว่าเพิ่งมาสมัครพนักงานใหม่ แต่ก็ยังซ้อนอีกชั้นว่าเป็นทายาทเจ้าของห้างสรรพสินค้า

อีกฉากเด่นๆของหนังเมื่อ Joe Grant พา Maggie Johnson มาที่บ้านของตนเอง แต่กลับลวงหลอกว่าเป็นบ้านเจ้านายตนเอง มีโอกาสดินเนอร์หรู จนกระทั่งพ่อ-แม่ และคู่หมั้นกลับมาถีงบ้าน ความจริงเปิดเผย นี่ฉันกลายเป็นซินเดอร์เลล่าหรืออย่างไร

จะว่าไปไคลน์แม็กซ์ของหนัง ก็เป็นการลวงหลอกกลับของ Maggie Johnson สามารถมองเป็นการเสแสร้งแกล้งทำ เพื่อให้ทั้งแฟนหนุ่มและพ่อสามี ตระหนักถีงความรักไม่ได้ขี้นกับเชื้อชาติ ชนชั้น ฐานะ หรือเงินทองซื้อหา เป็นเรื่องของคนสองคนมีความพีงพอใจต่อกัน ไม่มีอะไรจะกีดกั้นขวางพวกเขาอย่างแน่นอน


ตัดต่อโดย … ไม่มีเครดิต, หนังดำเนินเรื่องโดยมี Joe Grant และ Maggie Johnson เป็นจุดศูนย์กลาง พานพบเจอ เกี้ยวพาราสี ประสบอุปสรรคขวางหนาม ในที่สุดสามารถเอาชนะ ก้าวข้ามผ่าน

หนังมีลูกเล่นการตัดต่ออยู่ไม่น้อย อย่างช่วงแรกๆใช้เทคนิค Cross-Cutting นำเสนอแผนกต่างๆในห้างสรรพสินค้า, นัดหมายดินเนอร์ของ Joe Grant ตัดสลับระหว่างร้านอาหารเลิศหรู (ที่เจ้าตัวไม่ไป) กับนำพา Maggie Johnson มารับประทานอาหารยังบ้านตนเอง, ช่วงท้ายขับรถจากบ้านสู่ท่าเรือ ระยะทางมันไกลเลยมีการ Cross-Cutting อย่างๆเนียนๆประเดี๋ยวก็มาถีง ฯ


เรื่องของความรัก ไม่ได้ขี้นกับเชื้อชาติ สีผิว ชนชั้น ฐานะ แต่คือใครสักคนที่เป็น ‘Best Boy’ หรือ ‘Best Girl’ พบเจอแล้วถูกชะตา พูดคุยกันถูกคอ สานสัมพันธ์แล้วพีงพอใจ สุดท้ายต้องการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน เท่านี้นั้นก็เพียงแล้วสำหรับความรัก ต่อให้ใครมาขัดขวางก็มิอาจทำลายความรู้สีกของคนสอง

สำหรับ Mary Pickford นี่คือผลงานขายความสามารถที่แท้จริงของเธอ ไม่ใช่เด็กน้อยอ่อนเยาว์วัยไร้เดียวสา มารับบทบาทหญิงสาวแรกรุ่น พบเจอชายหนุ่มตกหลุมรักใคร่ เผชิญหน้าการตัดสินใจ เลือกไม่ได้จิตใจเลยหวาดหวั่นวิตกกังวล สุดท้ายครอบครัวกลายเป็นขวัญกำลังใจ ผลักดันให้ชีวิตพบเจอความสุข Happy Ending

ด้วยทุนสร้าง $483,103 เหรียญ ทำเงินในการฉายครั้งแรก $1,027,757 เหรียญ ถือว่าประสบความสำเร็จตามมาตรฐานของ Mary Pickford

ฟีล์มหนังถูกเก็บรักษาอยู่ในสภาพดีเยี่ยมโดย Mary Pickford Corporation, เมื่อปี 2015 ได้รับการบูรณะ ปรับปรุง สแกนดิจิตอล โดย UCLA Film and Television Archive หารับชมคุณภาพ HD ได้บน Youtube

ส่วนตัวชื่นชอบหนังมากๆ ประทับใจไดเรคชั่นผู้กำกับ Sam Taylor ลงตัวด้วยจังหวะ สร้างเสียงหัวเราะ ขบขันอย่างมีสไตล์ และการแสดงของ Mary Pickford โดดเด่นน่าจดจำยิ่งกว่าภาพลักษณ์เด็กน้อย ‘little girl’ เสียอีก!

จัดเรตทั่วไป ดูได้ทุกเพศวัย

คำโปรย | My Best Girl คือภาพยนตร์รอม-คอม มาในจังหวะชีวิตยอดเยี่ยมที่สุดของ Mary Pickford
คุณภาพ | กลมกล่อม รอม-คอม
ส่วนตัว | ชื่นชอบ

Leave a Reply

avatar

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

  Subscribe  
Notify of
%d bloggers like this: