8 Women (2002) : François Ozon ♥♥♡
หนังเพลง Dark Comedy รวมดาราหญิงชื่อดังสัญชาติฝรั่งเศส ที่นำพวกเธอมาลัลล้าครื้นเครง ถ้าคุณรู้จักหรือเป็นแฟนนักแสดงอย่างน้อย 2-3 คน จากรายชื่อนี้ ลองหาหนังมารับชมดูนะครับ Danielle Darrieux, Catherine Deneuve, Isabelle Huppert, Emmanuelle Béart, Fanny Ardant, Virginie Ledoyen, Ludivine Sagnier และ Firmine Richard
ผมดูหนังเรื่องนี้ผ่านไปสักประมาณ 10 นาที ก็เริ่มไม่สนใจเนื้อเรื่องแล้ว มันจะอะไรก็ช่าง แค่ได้เห็นนักแสดงหน้าตาคุ้นเคย แสดงฝีไม้ลายมือจัดเต็มตามสไตล์ของตน แค่นี้ก็เกินพอแล้ว
เราสามารถเรียกหนังลักษณะนี้ได้ว่า ‘รวมดารา’ (Ensemble Cast) คือการนำนักแสดงที่มีชื่อเสียงโด่งดังหลายๆคน มารวมกันในหนังเรื่องเดียว จุดประสงค์นั้นไม่มีอะไรอื่น นอกจากตอบสนองแฟนๆ และให้พวกเขาลัลล้าสนุกสนานด้วยกัน เหมือนงานเลี้ยงปาร์ตี้รวมรุ่นสังสรรค์ แถมได้เงินกลับไปใช้ด้วย ใครจะไม่เอา
François Ozon (เกิดปี 1967) ผู้กำกับนักเขียนบทชาวฝรั่งเศส เกิดที่ Paris เข้าเรียนโรงเรียนสอนภาพยนตร์ La Femis มีผลงานดังอาทิ Swimming Pool (2003), Potiche (2010), In the House (2012) ฯ ความสนใจของเขา คือเสียดสีวิถีของมนุษย์/สังคม ผ่านตัวละคร โดยเฉพาะประเด็นทางเพศ (Sexuality) ประชดประชันได้เจ็บแสบมากๆ
ตอนแรก Ozen มีความสนใจ remake หนังเรื่อง The Women (1939) ของผู้กำกับ George Cukor แต่ติดปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ จึงหันไปดัดแปลงบทละครเวทีเรื่อง Huit femmes (1958) ของ Robert Thomas แทน แต่ยังนำอิทธิพลแรงบันดาลใจจากหนังแนว Screwball Comedy ในยุค 30s-50s ของผู้กำกับหลายๆคน อาทิ George Cukor, Douglas Sirk, Vincente Minnelli และ Alfred Hitchcock
เรื่องราวมีพื้นหลังในช่วง 1950s ผู้หญิง 8 คนในบ้านหลังหนึ่ง (หนังมีฉากเดียวทั้งเรื่อง) ขณะกำลังเตรียมฉลองคริสต์มาสร่วมกัน ได้พบศพ Marcel ผู้ชายคนเดียวในบ้านที่ถูกมีดปักหลังเสียชีวิต ใครกันที่เป็นฆาตกร อะไรคือแรงบันดาลใจ ต้องเป็น 1 ใน 8 คนนี้แน่ ความลับของพวกเธอแต่ละคนกำลังได้รับการเปิดเผย
Danielle Darrieux (เกิดปี 1917) นักแสดงรุ่นดึกดำบรรพ์ มีผลงานตั้งแต่ปี 1931 เรียกได้ว่าเป็นทวดที่รักยิ่งของชาวฝรั่งเศส กว่า 8 ทศวรรษ (ยาวนานที่สุดในโลก) ที่ปัจจุบันอายุสามหลักแล้วยังฟืตปั๋ง ผลงานดังๆของเธอในอดีต อาทิ Happy Go Lucky (1946), La Ronde (1950), The Earrings of Madame de… (1953), The Young Girls of Rochefort (1967), Scene of the Crime (1986) ฯ
รับบท Mamy แม่เขยของ Marcel, เธอเป็นหญิงชราติดเหล้า ที่หวงทรัพย์สมบัติยิ่งกว่าสิ่งใด ถึงขนาดหลอกลูกเขยว่าโจรได้ขโมยเงินของเธอไป ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือธุรกิจที่กำลังล้มละลายของเขาได้ และในอดีตเป็นคนฆ่าสามีของตัวเอง เพราะหมดความรักแล้ว (เพื่อให้ได้เงินของเขามาใช้)
Catherine Deneuve นักร้องนักแสดงหญิงชื่อดัง ความสวยวัยสาวของเธอมีความน่าพิศวงหลงใหล เคยร่วมงานกับผู้กำกับดังหลายคน ผลงานดังๆ อาทิ The Umbrellas of Cherbourg (1964), Repulsion (1965), The Young Girls of Rochefort (1967), Belle de Jour (1967), Tristana (1970), The Last Metro (1980), Scene of the Crime (1986) ฯ
รับบท Gaby ภรรยาของ Marcel, ก่อนหน้าที่จะแต่งงานครั้งนี้ เธอมีลูก (Suzon) กับสามีคนแรกที่เสียชีวิตไปก่อน ปัจจุบันมีความเบื่อหน่ายในชีวิตคู่ ต้องการหนีไป Mexico กับชู้รักใหม่ แต่ยังไม่ทันไรก็เกิดเรื่องเสียก่อน, Gaby เป็น bisexual ได้ทั้งชายหญิง
Isabelle Huppert นักแสดงมากฝืมือ ที่ได้รับการเปรียบเทียบว่าเป็น ‘Meryl Streep ของฝรั่งเศส’ ผลงานที่มีชื่อเสียง อาทิ La Ceremonie (1995), The Piano Teacher (2001), Elle (2016) ฯ
รับบท Augustine น้องเขยของ Marcel และเป็นน้องสาวของ Gaby, เธอเป็นหญิงเปรี้ยว (คล้าย Viper) โลภละโม อันธพาล ชอบพูดโป้ปดและใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น ด้วยความที่เธอหลงรัก Marcel แต่เสียเขาให้พี่สาว จึงเกิดความอิจฉาริษยา รักษาความบริสุทธิ์ของตนไว้ เพ้อฝัน (ชอบอ่านนิยาย) เพื่อสักวันหนึ่งจะได้มอบทั้งกายใจให้กับเขาคนเดียว
Fanny Ardant นักแสดงรุ่นใหญ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในยุค 80s พูดได้ทั้งฝรั่งเศส อิตาลี อังกฤษ มีผลงานดังอย่าง The Woman Next Door (1981), Sabrina (1995), Elizabeth (1998), Pédale douce (1996), Paris, je t’aime (2006) ฯ
รับบท Pierrette น้องสาวของ Marcel, เธอเป็นอดีตนักเต้นเปลือย ที่ชอบรีดไถเงินพี่ชาย (ฉายาคือ Money Cow) ในคืนก่อนหน้าได้เงิน 500,000 ฟรังก์ เป็นค่าปิดปากไม่ให้เธอมาหาอีก แต่เธอกลับเอาเงินไปให้คนรักของเธอ ที่เป็นชู้กับ Gaby เพื่อที่จะหนีไปอยู่ Mexico, เธอยังชอบเล่นไพ่พนันกับ Chanel ในห้องพักของเธอ
Virginie Ledoyen นักแสดงวัยรุ่นมากฝีมือ ที่ได้รับการจับตามองในยุค 90s มีผลงานอาทิ Les Marmottes (1993), Cold Water (1994), La Fille seule (1995) ฯ เคยประกบ Leonardo DiCaprio ในหนังเรื่อง The Beach (2000)
รับบท Suzon ลูก(ไม่แท้)ของ Marcel, เธอยังเรียนหนังสืออยู่ แต่แอบรีบกลับบ้านมาหาพ่อเพื่อแจ้งว่าตนเองท้อง โดยโป้ปดว่าจากการกระทำของเขา (Incest), ระหว่างการค้นหาฆาตกร เธอทำตัวเป็นนักสืบ สอดรู้สอดเห็นไปทั่ว
Ludivine Sagnier นักแสดงวัยรุ่นมากฝีมืออีกคน (ที่ปัจจุบันน่าจะดังกว่า Ledoyen แล้ว) มีผลงานดังอย่าง Swimming Pool (2003), Un secret (2007) ฯ
รับบท Catherine ลูกสาวคนเล็กของ Marcel, เป็นเด็กอวดดี โอหัง เกียจคร้าน และหลงตัวเอง เทิดทูนพ่อว่าเป็นผู้ชายในอุดมคติ เกลียดผู้หญิงทุกคนในบ้าน โดยเฉพาะน้า Augustine, เธอเป็นคนเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด และรู้ว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้น
Emmanuelle Béart นักแสดงหญิงชื่อดังที่มีผลงานตั้งแต่ยุค 70s อาทิ Manon des Sources (1986), La Belle Noiseuse (1991), A Heart in Winter (1992), Nelly and Mr. Arnaud (1995), Mission: Impossible (1996) ฯ
รับบทคนใช้ Louise ที่มีสถานะเป็น Vampire ลีลาท่ารักเย้ายวนได้หมดทั้งชายหญิง ปฏิบัติได้ทั้ง Marcel และ Gaby แต่คนรักจริงๆของเธอคือคนในรูป ที่เป็นคุณนายหญิงคนก่อนของเธอ
Firmine Richard นักแสดงหญิงผิวสีสัญชาติฝรั่งเศส มีผลงานภาพยนตร์ประปราย ส่วนใหญ่เป็นภาพยนตร์โทรทัศน์และละครเวที
รับบท Chanel แม่บ้านทำครัว และเป็นพี่เลี้ยงของ Suzon กับ Catherine, เธออาศัยอยู่ในรังลับกับ Pierrette เป็นทั้งเพื่อนและคนรัก เกิดความอิจฉาริษยาในความสัมพันธ์ของเธอกับ Marcel
นักแสดงทั้ง 8 นี้ถือว่าเป็นผู้มีชื่อเสียง หลายคนเป็นตำนานของฝรั่งเศส การได้มาอยู่ร่วมในหนังเรื่องเดียวกัน คล้ายเสือ 8 ตัวอยู่ในถ้ำเดียว จ้องที่จะเขมือบขม้ำ เอาชนะไม่มีใครยอมใคร แต่ชีวิตจริงพวกเธอเป็นเพื่อนรักร่วมอาชีพ เคารพยกย่องซึ่งกันและกัน แม้วัยวุฒิยุคสมัยจะแตกต่าง แต่ถือว่ารับส่ง สื่อสาร เข้าขากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ในบรรดาทั้ง 8 นักแสดงที่แย่งซีนที่สุด ผมคิดว่าคือ Isabelle Huppert เพราะแว่นทรงประหลาดแหลมเชิด มันเข้ากับใบหน้าที่ไม่เคยยิ้มและนิสัยของเธอได้อย่างลงตัว, ส่วนเสื้อผ้า ชุดเลิศสุดต้องสีแดงแรงฤทธิ์ของ Fanny Ardant, ทรงผมต้องยกให้ Catherine Deneuve เนี๊ยบมาก, และเสียงร้องท่าเต้น Emmanuelle Béart คือหวานใจของผมเลยละ
ถ่ายภาพโดย Jeanne Lapoirie ตากล้องสาวชาวฝรั่งเศส ที่ชอบร่วมงานกับ André Téchiné และ François Ozon
เนื่องจากหนังถ่ายทำในบ้านหลังหนึ่ง (มีเพียงฉากเดียวเท่านั้น) งานภาพส่วนใหญ่จึงเป็น Medium Shot และ Close-Up ที่เล่นกับทิศทาง การจัดวางตำแหน่งและการจัดแสงได้อย่างลงตัว, สีสันของหนัง พื้นหลังอยู่ในยุค 50s ซึ่งทุกตัวละครจะมีสีประจำตัวตามชุดที่สวมใส่และทรงผม (มีบางตัวละครเปลี่ยนชุด สีประจำตัวก็จะเปลี่ยนไปได้วย) ผมคงไม่ไล่สีรุ้งให้นะครับ ไปสังเกตกันเอาเอง ซึ่งล้วนแต่มีนัยยะแทนตัวตนของพวกเขาอย่างชัดเจน
ผมไม่แน่ใจเท่าไหร่ แต่คิดว่าจะมีเฉพาะฉากตอนจบเท่านั้นที่ผู้หญิงทั้ง 8 ปรากฎตัวร่วมกันในช็อตเดียว ด้วยการจับมือยืนเรียงหน้ากระดาน เหมือนหลังการแสดงละครเวทีจบลงแล้วนักแสดงทั้งหมดจะเดินออกมาโค้งให้กับผู้ชม เพื่อเรียกเสียงปรบมือ และบอกว่าการแสดงจบแล้ว
ตัดต่อโดย Laurence Bawedin, ถือว่าหนังใช้มุมมองของบ้านหลังนี้เป็นหลัก ไม่ได้เน้นเล่าตัวละครไหนเป็นพิเศษ เกลี่ยให้ทุกคนมีบทเท่าๆกัน แต่เราจะไม่เห็นใบหน้าของ Marcel ผู้ตาย (เห็นแค่ด้านหลังและข้างๆ) เพราะไม่ได้มีความสำคัญอะไรต่อเนื้อเรื่อง
หนังใช้การตัดต่อเยอะมาก ไม่ใช่แค่เปลี่ยนมุมมองการสนทนา (จากผู้พูด/ผู้ฟัง) แต่หลายครั้งตัดไปให้เห็นปฏิกิริยาของคนอื่นขณะสนทนา/ร้องเพลง นั้นๆด้วย, ไฮไลท์มีอยู่ขณะหนึ่ง ที่จะตัด Close-Up ช็อตต่อช็อต ใบหน้าของนักแสดงทุกคน (ระหว่างที่มีการซักถามเรียงตัว) ฉากนี้ถือว่ามีความเข้มข้นมาก ให้ความรู้สึกเหมือนผู้ชมกำลังนั่งเป็นตำรวจ ฟังคำพูด(โป้ปด)ของผู้ต้องสงสัยทั้งหลายบนสถานีตำรวจ
เพลงประกอบโดย Krishna Levy ลูกครึ่งอินเดีย-ฝรั่งเศส เรียนดนตรีที่อเมริกา จบแล้วทำงานอยู่ฝรั่งเศส, Levy ได้ทำการผสมผสานสไตล์เพลงของ Bernard Herrmann, Miklos Rosza และ Elmer Bernstein เข้าด้วยกัน มีทั้ง Soundtrack ประกอบเหตุการณ์ และเพลงมีเสียงร้องทั้งหมด 8 เพลงเป็น Character Song ประจำตัว
หยิบเพลง Pile ou Face (Heads or Tails/Ups and Downs) ขับร้องโดย Louise (Emmanuelle Béart) นี่เป็นเพลงที่ผมชอบสุดในหนัง ทำนอง Jazz/Rock สนุกสนาน ท่าเต้น Maid ก็น่ารักเกิ้น แถมหนังตัดให้เห็น reaction ปฏิกิริยาของ Isabelle Huppert กินขาดจริงๆ
นี่เป็นหนังตลกนะครับ (แต่เชื่อว่าหลายคนคงไม่ขำเท่าไหร่) มีประเด็นฆาตกรรม, ความโลภ, ชู้สาว, อิจฉาริษยา, รักร่วมเพศ ฯ ทั้ง 8 คนจะมี Theme/สีสัน/ใจความ ของตนเองที่คือกิเลสตัณหา ความชั่วร้ายต่างๆนานานับประการ, การใส่ Musical เข้ามา ดูยังไงก็ไม่เห็นความเข้ากันสักนิด แต่นั่นคือความตั้งใจเฉพาะเจาะจงของผู้กำกับ ที่ต้องการเสียดสี ประชดประชัน ล้อเลียน พฤติกรรมพวกนี้ในลักษณะของ Dark Comedy (ตลกหน้าตาย)
ดูไม่สนุกไม่เข้าใจ ก็อย่าไปเครียดกับมันนะครับ ผิดจุดประสงค์ของหนังโดยสิ้นเชิง
ข้อคิดที่ได้จากหนังเรื่องนี้ … “ไม่มีความชั่วอะไรในโลกที่ปกปิดได้มิดชิด สักวันต้องเผลอหลุดปาก หรือได้รับการเปิดเผยออกมา”
ด้วยทุนสร้าง $8.46 ล้านเหรียญ หนังทำเงินในฝรั่งเศส $18.9 ล้านเหรียญ รวมรายรับทั่วโลก $42.4 ล้านเหรียญ, เข้าฉายในเทศกาลหนังเมือง Berlin ทีมนักแสดงหญิงทั้ง 8 ได้รางวัล Silver Bear for Best Actress
ส่วนตัวรู้สึกเฉยๆไม่ชอบไม่เกลียด กับหนังที่ขายการแสดงล้วนๆแบบนี้ ต้องคนที่เป็นแฟนตัวยงของนักแสดงจริงๆ ถึงจะชื่นชอบหลงใหล, ถึงผมจะรู้จักพวกเธอหลายๆคน แต่ไม่ได้ชื่นชอบใครเป็นพิเศษ เลยไม่มีอะไรให้ประทับใจได้ขนาดนั้น
แนะนำกับคอหนังฝรั่งเศส ชื่นชอบแนว Musical, Dark Comedy, Satire สืบสวนสอบสวนค้นหาตัวผู้ร้าย, โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แฟนๆของนักแสดงทั้ง 8 ไม่ควรพลาดเลย
จัดเรต 13+ กับประเด็นเสียดสีของหนัง
Leave a Reply