
นำเสนอผ่านมุมมองเด็กชาย 8 ขวบ ยังละอ่อนวัย ไร้เดียงสา เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น พบเห็นเหตุการณ์ลับๆล่อๆ รักสามเส้าของผู้ใหญ่ ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไร แต่กลับกลายเป็นตราบาปฝังใจ, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
นำเสนอผ่านมุมมองเด็กชาย 8 ขวบ ยังละอ่อนวัย ไร้เดียงสา เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น พบเห็นเหตุการณ์ลับๆล่อๆ รักสามเส้าของผู้ใหญ่ ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไร แต่กลับกลายเป็นตราบาปฝังใจ, “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
ภาพยนตร์ที่ถือเป็น ‘Mature Film’ เรื่องแรกของผู้กำกับ Carol Reed ออกเดินทางสู่ Belfast, Northern Ireland บันทึกภาพห้วงเวลาสุดท้ายชีวิตของ James Mason ถูกยิงระหว่างการปล้น ได้รับบาดเจ็บสาหัส อาการสะลึมสะลือ ล่องลอยไปตามท้องถนน พบเจอผู้คนดี-ร้าย ให้ความช่วยเหลือ-ผลักไสไล่ส่ง ก่อนกลายเป็นอมตะนิรันดร์
เชื่อกันว่าถ้าผู้กำกับ Alfred Hitchcock ยังไม่ออกเดินทางสู่ Hollywood ก็อาจได้สรรค์สร้าง Night Train to Munich (1940) ภาคต่อทางจิตวิญญาณของ The Lady Vanishes (1938) ซึ่งพอเปลี่ยนตัวผู้กำกับมาเป็น Carol Reed อาจไม่สไตล์ลิสต์เทียบเท่า แต่ยังพอมีดีหลายๆอย่าง
White Heat มีอยู่สองความหมาย อุณหภูมิร้อนมากๆจนแผ่แสงสีขาวออกมา, หรือการแสดงออกทางอารมณ์อย่างรุนแรง คลุ้มบ้าคลั่ง ซึ่งสามารถสื่อถึงพฤติกรรมตัวละครของ James Cagney อาชญากรโรคจิต (Psychopath) ผู้มีความอำมหิต ไม่เคยไว้ใจใครนอกจากมารดา
The Roaring Twenties คือคำนิยามทศวรรษ 1920s เมื่อสหรัฐอเมริกาออกกฎหมายห้ามขายสุรา (Prohibition Era) แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ เกิดการลักลอบผลิต-ขนส่ง-จัดจำหน่ายเหล้าเถื่อน จนกลายเป็นยุคสมัยอาชญากรครองเมือง!
เพื่อนวัยเด็กสองคนเติบโตขึ้นด้วยทิศทางชีวิตแตกต่างตรงกันข้าม, Pat O’Brien (Angels) หันเข้าหาศาสนา บาทหลวงคอยให้การดูแลเด็กกำพร้า, James Cagney (Dirty Faces) กลายเป็นอาชญากร ปล้นเงินมาแบ่งปันความสุขชั่วครั้งคราว, ภาพยนตร์สอนธรรมเกี่ยวกับการเลือกเส้นทางชีวิต “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย”
ในวงการตำรวจ Heat คือคำเรียกสถานการณ์ตึงเครียด เกิดเหตุการณ์รุนแรงจนต้องส่งเจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติงาน ไล่ล่าติดตามตัวคนร้าย ควบคุมความสงบโดยไว! ซึ่งในบริบทหนังถูกใช้แทนความอาฆาตแค้นครั้งใหญ่ของนักสืบ Glenn Ford ออกค้นหาฆาตกรเข่นฆ่าภรรยา เธอไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วยเลยสักนิด!
อาจถือเป็นภาคต่อทางจิตวิญญาณของ The Woman in the Window (1944) นักแสดง+ทีมงานแทบจะยกชุดเดิม! เรื่องราวก็มีความละม้ายคล้าย Edward G. Robinson ถูกลวงล่อหลอกโดยมารยาหญิงของ Joan Bennett แต่คราวนี้มันไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป!
ภาพวาดหญิงสาวในตู้กระจกหน้าร้าน (Shop Window) ช่างมีความน่าหลงใหล Edward G. Robinson ถึงขนาดเก็บนำไปครุ่นคิด จินตนาการเพ้อฝัน แต่พอได้พบเจอตัวจริงนั้น Joan Bennett กลับกลายเป็นสวยอันตราย (Femme Fatale) อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจสาวสวย
ได้แรงบันดาลจากคู่รักอาชญากร Clyde Barrow และ Bonnie Parker (Bonnie and Clyde) แต่การสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ในยุคสมัยกองเซนเซอร์ Hays Code โดนสั่งห้ามโน่นนี่นั่น ถูกหั่นออกไปกว่า 15 นาที ถึงอย่างนั้นกลับยังได้รับการยกย่องกล่าวขวัญ กลายเป็นต้นแบบหนังนัวร์ (early Film Noir)
ผู้กำกับ Fritz Lang ตัดสินใจหลบหนีจาก Nazi Germany เดินทางมาสรรค์สร้างภาพยนตร์ Hollywood (เรื่องแรก) ระบายอารมณ์เกรี้ยวโกรธผ่านตัวละครของ Spencer Tracy เมื่อตำรวจจับผิดตัวแล้วถูกม็อบรุมประชาทัณฑ์ พอความจริงเป็นที่ประจักษ์ ใครจักคือผู้รับผิดชอบหายนะบังเกิดขึ้น?
หนังทุนต่ำเกรดบี ไม่มีนักแสดงชื่อดัง เรื่องราวอาจงั้นๆ แต่ลีลานำเสนอของผู้กำกับ Robert Aldrich มีความดิบ-เถื่อน บ้าระห่ำ (Hard-Boiled) ชักชวนตั้งคำถาม อะไรอยู่ในกระเป๋า? (MacGuffin) มันช่างลุ่มร้อน มอดไหม้ สร้างหวาดระแวงต่อการมาถึงของวันสิ้นโลก (Apocalyptic)
Howard Hughes ต้องการล้างแค้น Jean Simmons ปฏิเสธต่อสัญญาสตูดิโอ RKO Radio Pictures เหลือระยะเวลา 18 วัน จ่ายเงินผู้กำกับ Otto Preminger ให้เร่งรีบสรรค์สร้าง Angel Face (1953) เพื่อบดขยี้ ทำให้ป่นปี้ สูญเสียชื่อเสียง สั่งนักแสดง Robert Mitchum ตบหน้าไม่ยั้งหลายสิบเทค!
นี่คือหนังเกรดบีมาสเตอร์พีซ มันอาจไม่ได้มีความลงตัวกลมกล่อม แต่วิสัยทัศน์อันบ้าคลั่งของผู้กำกับ Joseph H. Lewis มอบความบันเทิงสุดระห่ำ ดิบๆ เถื่อนๆ ราคาถูก (สไตล์ Pulp Noir) เต็มไปด้วยสัญญะทางเพศ ปืน และความรุนแรง
โปรดิวเซอร์ดังเคยดูแลงานสร้างภาพยนตร์ประสบความสำเร็จมานักต่อนัก แต่เมื่อถึงคราวตกอับพยายามติดต่อผู้กำกับ-นักแสดง-นักเขียนเคยร่วมงาน ทั้งหมดต่างปฏิเสธเสียงขันแข็ง พร้อมตีแผ่เบื้องหลังความฟ่อนเฟะของระบบสตูดิโอใน Hollywood
ไม่ใช่ภาคต่อของ All About Eve (1950) แต่ลีลาการดำเนินเรื่องละม้ายคล้ายกันยิ่งนัก! เปลี่ยนจากละคอนเวที มาเป็นนักแสดงภาพยนตร์ Ava Gardner นักเต้นเท้าเปล่าในผับบาร์ ไต่เต้าจากดินสู่ดาวดาราค้างฟ้า ก่อนแต่งงานกลายเป็นเจ้าหญิง/เคาน์เตส (Countess)
อาจเป็นผลงานมาสเตอร์พีซของผู้กำกับ Orson Welles ถ้าไม่ถูกแทรกแซงโดยสตูดิโอ! จากต้นฉบับ 155 นาที ถูกหั่นเหลือ 88 นาที, ตั้งใจจะไม่ใช้ช็อตโคลสอัพ แต่ถูกบังคับให้ถ่ายซ่อม, ยัดเยียดฉากร้องเพลงของ Rita Hayworth ที่ไม่มีความจำเป็นเลยสักนิด!
Gilda คือบทบาทที่กลายเป็นไอคอนของ Rita Hayworth เพียงท่าสะบัดผมก็สร้างความประทับใจให้ผู้ชม สวยสังหาร พราวเสน่ห์ ร้อยเล่ห์มารยาหญิง แต่พอดูหนังจบอาจจดจำอะไรอย่างอื่นไม่ได้สักเท่าไหร่
ผู้กำกับวัยกลางคน Antonio Banderas ล้มป่วยสารพัดโรค จนหมดเรี่ยวแรงกาย-ใจ ไม่สามารถครุ่นคิดสร้างผลงานเรื่องใหม่ (อาการของ Writer’s Block หรือ Director’s Block) กระทั่งมีโอกาสรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับเพื่อนเก่า คนรักเก่า หวนระลึกความทรงจำเก่าๆ จึงก่อบังเกิดแรงบันดาลใจใหม่ๆขึ้นอีกครั้ง
Antonio Banderas รับบทศัลยแพทย์ตกแต่ง (Plastic Surgeon) ประสบความสำเร็จในการสร้างผิวหนังเทียม (Artificial Skin) แต่การจะทดลองปลูกถ่ายให้มนุษย์ต้องผ่านกระบวนการยุ่งยากวุ่นวาย เขาจึงลักพาตัวชายหนุ่มคนหนึ่งมาทำการ…